พี่ชายตายคืนวันเสาร์ น้องสาวแจ้งเช้าวันจันทร์ ด้วยความเข้าใจว่า วันหยุดราชการไม่มีเจ้าหน้าที่ทำงาน ย่านสุขสวัสดิ์
วันที่ 21 มีนาคม 2565
เวลา 18.57 น.
เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูได้รับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิตโดยไม่ทราบสาเหตุ ภายในซอยสุขสวัสดิ์ จึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางมด พร้อมแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลศิริราช ร่วมกันตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที
เมื่ออาสาสมัครพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุพบที่เกิดเหตุอยู่ภายในบ้านเช่าหลังหนึ่ง ซอยสุขสวัสดิ์ แขวง จอมทอง เขต จอมทอง กรุงเทพมหานคร ลักษณะเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวแบ่งเป็นห้องให้เช่าทั้งหมดมีอยู่ 16 ห้อง ส่วนห้องที่เกิดเหตุเป็นห้องเลขที่ 6 ตรวจสอบภายในห้องพบผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย ทราบชื่อต่อมาชื่อ นาย แก้ว แซ่จู อายุ 77 ปี ในลักษณะ นอนหงายหน้าอยู่บริเวณพื้นห้อง สวมใส่เสื้อยืดสีขาว มีผ้าห่มลายสก๊อตสีแดง คลุมอยู่บริเวณลำตัวท่อนล่าง จากการตรวจสอบแล้วคาดว่าจะเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 วันเริ่มจะมีกลิ่นคละคลุ้งแล้วและมีแมลงวันเริ่มมาตอม เจ้าหน้าที่ตำรวจ และแพทย์นิติเวช จึงทำการตรวจสอบสภาพร่างผู้เสียชีวิตอย่างละเอียด และไม่พบร่องรอยจากการโดนทำร้าย สภาพภายในห้องดังกล่าวก็ไม่พบร่องรอยของการต่อสู้หรือรื้อคน จึงสอบถามสาเหตุจากญาติผู้เสียชีวิตถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดว่ามีความเป็นมาอย่างไร
สอบถามจากเจ้าของห้องเช่าชื่อ คุณอี้หมวย อายุ 67 ปี บอกว่า น้องสาวของผู้เสียชีวิต มาบอกตนเมื่อเช้านี้คือ วันจันทร์ ว่า พี่ชายเค้าเสียชีวิตแล้ว เมื่อคืนวันเสาร์ ประมาณ 2 ทุ่ม ตนก็เพิ่งมารู้เรื่องตอนที่ เค้ามาบอก เค้ามีพี่น้องกันอยู่ 3 คน คนตายพักอยู่คนเดียว ส่วนน้องสาวกับพี่ชายเค้าอีกห้องนึง คนตายนี่ไม่ได้ทำงานแล้วหลังจากประสบอุบัติเหตุรถชนมา ก็พักอยู่ในห้อง เพราะร่างกายไม่แข็งแรง
ส่วนทางคุณ โซยม้วย อายุ 64 ปี เป็นนัองสาวของผู้เสียชีวิตบอกว่า ตนอยู่กัน 3 พี่น้อง ตนเป็นคนดูแลพี่ชายคนรองที่แขนพิการตั้งแต่เกิดในห้องเดียวกัน ส่วนคนตายเป็นพี่ชายคนโตจะแยกพักอีกห้องนึง เพราะอยู่รวมกันไม่ได้ มันแคบ พี่ชายตนคนที่ตายเมื่อก่อนก็ทำงานรองเท้า แล้วมาโดนรถชนคนชนก็หนี หลังจากนั้นก็ไม่ได้ทำงานอะไร เพราะแก ล้มบ่อย ส่วนตนเมื่อก่อนก็ทำงานทอผ้า เลี้ยงดูพี่ชายทั้ง 2 คนมาตลอด จนพอออกจากงานมาตนก็ไม่ได้ทำงานอะไร ทุกวันนี้ก็ได้แต่เงินคนแก่ บัตรคนจน คนละ 600 บาท มาใช้จ่ายค่าเช่าห้องเดือนละ 1,200.- ค่าน้ำค่าไฟ เจ้าของเค้าก็ช่วย ไม่คิด ส่วนอาหารการกินก็ไปขอทางวัดมาบ้าง ส่วนเรื่องของพี่ชายที่ตาย ก็คือ เมื่อวันเสาร์ ตอนเช้าตนเข้าไปดู ก็ยังหายใจอยู่ กลางวันเข้าไปก็หายใจอยู่ แต่ตอนเย็นตนไม่ได้เข้าไป มาเข้าไปตอน 2 ทุ่ม ก็ไม่หายใจแล้ว นอนนิ่งไปเลย ตนก็ยังไม่ได้บอกใคร เพราะเห็นว่ามันมืดแล้ว และเป็นวันหยุด เสาร์อาทิตย์ ตนก็คิดว่า ทางราชการเค้าไม่ได้ทำงานกัน เลยไม่ได้ไปแจ้ง พอมาตอนเช้าวันจันทร์ ตนจึงไปบอกกับเจ้าของห้องเช่าว่า พี่ชายตนตายแล้ว และก็เผาไปแล้ววันนี้ ตอนนี้ก็เหลือกันอยู่ 2 คนพี่น้อง ตนก็ดูแลพี่ชายที่พิการทางแขนต่อไป
เบื้องต้นจากการตรวจสอบสภาพศพ และตรวจสอบจากสภาพแวดล้อมภายในห้องแล้วไม่พบสิ่งใดที่น่าสงสัย และร่างกายของผู้เสียชีวิตไม่มีบาดแผลจากการถูกทำร้ายร่างกาย เจ้าหน้าที่ตำรวจ และแพทย์นิติเวช จึงลงความเห็นพร้อมกันให้ญาตินำร่างผู้เสียชีวิตไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป แล้วส่วนเรื่องของการที่ทางญาติของผู้เสียชีวิตคิดว่าผู้ตายนั้นได้เสียชีวิตในวันเสาร์ จึงไม่กล้าที่จะไปแจ้งความเพราะคิดว่าหน่วยงานราชการอาจจะปิดทำการในวันเสาร์-อาทิตย์ แล้วก็เลยมาแจ้งอีกทีในช่วงเช้าของวันจันทร์ อาจจะเป็นเพราะทางญาติต่างก็มีอายุมากแล้ว และไม่รู้จะหันหน้าไปปรึกษาใครก็เลยคิดไปเองว่าต้องติดต่อในช่วงเวลาราชการคือวันจันทร์ถึงวันศุกร์เท่านั้น ก็เลยมาแจ้งในวันนี้ ซึ่งตรงกับวันจันทร์พอดี แต่อย่างไรแล้วก็ต้องเข้าใจในเรื่องของการที่คนมีอายุอยู่ดูแลกันเองตามอัตภาพ และไม่มีลูกหลานคอยดูแลอีกด้วยก็เลยเป็นแบบนี้
โชติกา ม่วงใจรักษ์ ผู้สื่อข่าว กทม.