สาวหอบลูกร้องสื่อหลังจากถูก จยย. เฉี่ยวชนแล้วหลบหนี จนลูกชาย กับ สามี ได้รับบาดเจ็บ หวั่นคู่กรณีลอยนวล
วันที่ 20 เมษายน 2565
เวลา 17.40 น.
สืบเนื่องจากผู้ใช้เฟสบุ๊ค
Nantanut Jetjaroennugul
ลงข้อความขอความช่วยเหลือมีใจความว่า ใครพอขับรถผ่านและมีกล้อง ช่วง เวลา 21.00-21.20 น. ของวันที่ 16 เมษายน 2565 เส้นถนน เลียบทางด่วนทุ่งครุ ช่วงตลาดสุขรุ่งเรืองมาร์เก็ต รบกวนขอความช่วยเหลือหน่อยค่ะ พอดีมีรถจักรยานยนต์ PCX สีขาวไม่ใส่แผ่นป้ายทะเบียน ขี่
เฉี่ยวชนแล้วหนี มีเด็กเล็กด้วย ใครมีกล้องช่วยหน่อยนะคะ ขอร้อง และต่อมา วันที่ 20 เมษายน 2565 ได้ลงข้อความในเฟสบุ๊คส่วนตัวอีกว่า
อัพเดตต่อจากโพสที่แล้วได้กล้องแล้วนะคะ เป็นคลิป
จากกล้องcctv ของกทม.ที่เราเดินเรื่องไปขอมาเอง
กล้องตัวที่1
คันริมในเป็นแฟนกะลูกคันนอกเราขับ ขับคู่กันมา2คัน
เรื่อยๆ อยู่ดีๆก็มีpcxสีขาวไม่ใส่แผ่นป้ายทะเบียนขี่มา
ด้วยความเร็ว (พอถึงช่วงโค้ง) แล้วพุ่งชนแทรกกลาง
ระหว่างรถแฟนกะรถเรา เราเบี่ยงออกทันแต่รถแฟนถูก
ชนท้ายจนรถกระเด็นลงน้ำลูกกะแฟนเรากระเด็นกลิ้ง
ออกจากรถ แล้วเขาก็ขับหนีไปเลย
กล้องตัวที่2
คือกล้องต่อมาถัดจากที่เขาชน จะเห็นว่าในคลิปพอมี
ฟสีฟ้า(ไฟหน้ารถมอไซค์เราเอง) ขี่มา ก็คือตอนที่เขา
ชนแล้วจะเห็นว่าเขาก็ขี่หนีออกมาเลยคันแรกเปิดไฟ
ผ่าหมากด้วย
กล้องตัวที่3
คือกล้องต่อมาถัดจากตัวที่2 จะเห็นได้ว่ามุมบนสุด
ของคลิป เขาขับมาแล้วชลอหันกลับมามอง แต่กลับไม่
วนมาช่วย
พอมองเสร็จก็รีบบิดหนีไปเลย #ในกล้องตัวนี้จะเห็นชัดสุดว่ารถสีอะไรยี่ห้ออะไรแต่งตัว
ยังไงรูปร่างแต่ใส่แมสจะไม่เห็นหน้า
ใครช่วยบอกทีนะคะว่าเราควรทำไงได้บ้าง ตอนนี้ลูก
เราก็เจ็บ แฟนก็เจ็บ แถมรถก็ยับ ตอนนี้เราหากล้องมา
ได้แค่นี้ ติดต่อหาร้อยเวรคนที่รับเรื่องก็พูดประมาณว่า ให้เอาคลิปมาให้เด๋วจะให้สืบดูให้แต่บอกตามตรงว่ากล้องประเทศไทยไม่ได้อัจฉริยะขนาดนั้นที่จะเห็นหน้าคนขับแล้วจะรู้ว่าเป็นใคร แต่ยังงัยก็จะเอากล้องไปให้ร้อยเวรดู เผื่อมันจะมีความหวังบ้าง ใครแนะนำบอกได้นะ
และเมื่อช่วงเย็นของวันนี้ผู้สื่อข่าวจึงได้ติดต่อไปสอบถามถึงเหตุการณ์ของเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นจึงทราบว่าผู้ใช้เฟสบุ๊ครายนี้ชื่อว่า น.ส.นันทนัช เจตเจริญนุกุล อายุ 21 ปี เป็นพนักงานของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง และ เป็นแฟนของผู้ได้รับบาดเจ็บ ส่วนตัวเธอและลูก ก็ได้รับบาดเจ็บจากเหตุกาณ์ดังกล่าวด้วยซึ่งเรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นที่ถนน เลียบทางด่วนทุ่งครุ-พระประแดง ในพื้นที่ความรับผิดชอบของ สน.ทุ่งครุ และที่ต้องโพสลงไปในเฟสบุ๊คส่วนตัวของเธอนั้นเพื่ออยากจะขอความช่วยเหลือจากรถที่มีกล้องหน้ารถและจับภาพได้ เพื่อจะได้สืบจนตามตัวผู้ก่อเหตุในวันนั้นมารับผิดชอบใจเรื่องของความเสียหาย แล้วก็ขอระบายความเจ็บปวดที่เธอได้รับจากเหตุการณ์ในคืนนั้นและ สงสารลูกกับสามี ของเธอด้วยที่ต้องมาเจ็บตัวด้วยความประมาทของวัยรุ่นเด็กแว้นท์ที่มาก่อเหตุชนรถของเธอแล้วยังหลบหนีไปแบบหน้าตาเฉยโดยไม่แสดงความรับผิดชอบกับการกระทำใดๆทั้งนั้น ไม่มีแม้แต่คำขอโทษเลย จึงอยากจะวิงวอนผ่านสื่อต่างๆให้ช่วยเธอตามหาผู้ก่อเหตุรายนี้มารับผิดชอบกับการกระทำของเขาด้วย
จากการสอบถามน.ส.นันทนัช เจตเจริญนุกุล อายุ 21 ปี เป็นแฟนของผู้ได้รับบาดเจ็บ บอกเล่าว่า วันเกิดเหตุตนและแฟนไปบ้านพี่สาวที่ซอยประชาอุทิศ 76 ตั้งแต่ช่วงบ่าย แล้วจะกลับบ้านที่บางแคตอนช่วงประมาณ 3 ทุ่ม ตนกับแฟนขี่รถมอไซค์คนละคัน ตนขี่คนเดียว ส่วนแฟนมีลูกนั่งข้างหน้าไปด้วย ก็ขี่ออกจากแยกประชาอุทิศ 76 เลี้ยวซ้ายออกเลียบด่วนมุ่งหน้าแยกคุณกะลา พอขี่มาสักพักนึง ประมาณเสาไฟเลขที่ 170 ก็เกิดเหตุ ตอนนั้นตนขี่มาคู่กัน แฟนขี่ชิดขอบถนนด้านใน ติดกับคูคลอง ส่วนตนก็อยู่ข้างๆกัน แล้วมีรถมอไซค์ขี่มาแทรกกลางระหว่างรถตนกับแฟน ชนแฟนตนรถตกไปในคูน้ำ ส่วนแฟนและลูกกระเด็นไถลไปบนพื้นถนน และยังเฉี่ยวกับหัวเข่าตนด้วยแต่รถตนไม่ได้ล้ม ตนจึงจอดรถและลงไปดูแฟนและลูก จังหวะนั้นตนเห็นเหมือนมีมอไซค์ประมาณ 3 คันวิ่งมาไล่ๆกันด้วยความเร็วเหมือนแข่งกันมา ตอนที่ตนจอดรถจะลงมาดู มีรถกระบะตามหลังมาจอดช่วย และบอกให้ตนขี่ตามไป แต่ด้วยความเร็วที่ตนขี่ กับรถคันเกิดเหตุจึงตามไม่ทัน แต่จังหวะที่มองเห็นเค้าหันกลับมามองเพราะตนบีบแตรดังลั่น หันมามองเสร็จแล้วก็ขับหนีไปอย่างเร็ว คนจึงกลับไปดูที่เกิดเหตุ รถกระบะที่ขับตามมาบอกว่า กล้องที่รถเค้าไม่ได้เสียบการ์ดบันทึกภาพจึงไม่มีภาพ ถ้ารถกระบะขับมาเร็วก็คงจะชนตนไปด้วยเหมือนกัน แฟนกับลูกตนอาสาส่งโรงพยาบาลสุขสวัสดิ์ รักษาตัวไปวันนึง ลูกชายเอ็กซเรย์สแกนสมองแล้ว ไม่เป็นอะไรมาก มีบาดแผลตามร่างกายที่ครูดไถลไปกับพื้นถนนเท่านั้น ดีกว่าลูกใส่หมวกผ้าหนาที่หัวและใบหน้าไม่ได้โดนพื้นถนน ส่วนตนไม่เป็นไรมาก วันนั้นให้พี่สาวตนไปแจ้งความไว้ที่ สน.ทุ่งครุ ส่วนตนพอออกจากโรงพยาบาลก็ไปเดินเรื่องตามหากลัอง ก็ได้มาแต่ดูแล้วไม่เห็นป้ายทะเบียน เจ้าหน้าที่ก็บอกว่าถึงจะเห็นหน้าแต่ไม่เห็นทะเบียนก็จับได้ยาก พอตนเอาภาพกล้องให้ตำรวจดูก็บอกว่า ต้องขอตรวจสอบหลายๆกล้องตลอดทางจนถึงบ้านคนก่อเหตุ ถึงจะตามจับได้ ตนก็อยากให้ตำรวจช่วยตามเรื่องให้จับคนก่อเหตุให้ได้เร็วที่สุด มารับผิดชอบเรื่องซ่อมรถก็ยังดี เพราะรถเสียหายตกลงไปในคูน้ำ และอยากจะขอให้ผู้ที่ก่อเหตุในวันนั้นมารับผิดชอบที่มาชนในวันนั้นด้วย
โชติกา ม่วงใจรักษ์ ผู้สื่อข่าว กทม.