ข้าราชการไทยข่าวทั่วไปข่าวพาดหัวช่วยชาวบ้านอุบัติเหตุ

กรุงเทพฯ-หนุ่มใหญ่วัย 49 ปี ขี่รถจยย.พุ่งชนรถตู้ออกจากปั๊มดับคาที่ ย่านประชาอุทิศ

หนุ่มใหญ่วัย 49 ปี ขี่รถจยย.พุ่งชนรถตู้ออกจากปั๊มดับคาที่ ย่านประชาอุทิศ

วันที่ 28 เมษายน 2565
้เวลา 01.00 น.

พันตำรวจโท ทนงศักดิ์ ปลั่งทอง สว.(สอบสวน) สน.ราษฎร์บูรณะ ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถชนกัน ที่หน้าปั๊มน้ำมัน ปตท.ปากซอยประชาอุทิศ 35 มีผู้เสียชีวิต 1 ราย จึงประสานแพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช และ อาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง มาสนับสนุนที่เกิดเหตุทันที

เมื่อเจ้าหน้าที่ และ อาสาสมัครมาถึงที่เกิดเหตุเป็นถนนประชาอุทิศ ปากซอยประชาอุทิศ 35 แขวงราษฎร์บูรณะ เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพมหานคร พบรถตู้ยี่ห้อ โตโยต้า สีบอล์นเทา ทะเบียน ออ8646 กทม. จอดอยู่กลางถนนหันหัวไปทาง กม.9 มีร่องรอยถูกชนที่ช่วงกลางรถฝั่งขวา ส่วนรถจักรยานยนต์ไถลไปข้างหน้าประมาณ 30 เมตร เป็นรถยี่ห้อ ยามาฮ่า รุ่นแอร์ลอค สีเขียว สภาพด้านหน้าพังยับเยิน ทะเบียน 1 ขฐ 3015 กทม. ส่วนผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย อายุ 49 ปี ในลักษณะนอนหงายหน้าอยู่กับพื้นถนน สวมใส่เสื้อยืดแขนสั้นสีเขียวคลุมทับด้วยเสื้อคลุมสีดำแขนยาว กางเกงขายาวสีดำ

สอบถามจากนาย ปณัฐ แสงอาทิตย์ อายุ 40 ปี มาถึงคนแรก บอกว่า ตนได้ยินเสียงดังสนั่น จึงมองออกมาเห็นรถตู้กับรถมอไซค์ ส่วนคนขับมอไซค์บาดเจ็บนอนอยู่กลางถนน หมดสติ ถามคนขับรถตู้บอกว่า เพิ่งออกจากปั๊มน้ำมันมา แล้วรถมอไซค์มาทางตรงอย่างเร็วไม่มีเบรคเลย จึงชนเข้าอย่างจัง พออาสามาถึงตรวจดูชีพจรไม่มีแล้ว จึงทำการCPR แต่ก็ไม่เป็นผล เสียชีวิต

ส่วนคนขับรถตู้ชื่อ นาย อลงกรณ์ ( ขอสงวนนามสกุล ) อายุ 34 ปี บอกว่าตนขับรถออกมาจากปั๊ม ตนมองแล้วว่า ไม่มีรถ ตนจึงเลี้ยวขวาออกมา พอออกมาระยะนึงได้ยินเสียงดังที่รถตน แต่จังหวะนั้นตนไม่ได้ยินเสียงเบรคเลย มาเร็วมาก รถมอไซค์มุ่งหน้าจะไปทางทุ่งครุ ตนจะออกไปทาง กม.9 ตนกำลังจะไปราชบุรีมาแวะซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อภายในปั้มน้ำมัน ก่อน

เบื้องต้นแพทย์นิติเวช ตรวจสอบบาดแผลของผู้เสียชีวิตพบมีที่ขาตรงช่วงหน้าแข้งทั้ง 2 ข้าง แต่ไม่มีเลือดออก แต่ที่เสียชีวิตเป็นเพราะคอหัก จึงปั๊มหัวใจไม่ขึ้น แต่อย่างไรแล้วต้องส่งมอบให้กู้ภัยนำส่งสถาบันนิติเวช เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงอีกครั้ง ก่อนจะให้ญาตินำเอกสารมาติดต่อขอรับร่างกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป ส่วนทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเก็บบันทึกภาพในจุดเกิดเหตุ และเชิญตัวผู้ขับรถตู้ไปสอบถามเพิ่มเติมที่ สน.ก่อนจะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป