ข่าวทั่วไปข่าวพาดหัวแถลงข่าว

สินิตย์ เลิศไกร รมช.พาณิชย์ ปั้นสินค้า GI ภาคอีสาน ขานรับนโยบาย Soft Power ของรัฐบาล

สินิตย์ เลิศไกร รมช.พาณิชย์ ปั้นสินค้า GI ภาคอีสาน ขานรับนโยบาย Soft Power ของรัฐบาล
รมช.พาณิชย์ เดินหน้าส่งเสริมสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) เป็นเครื่องมือสร้างมูลค่าให้สินค้าท้องถิ่นโดยลงพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด วางระบบควบคุมคุณภาพสินค้า “ผ้าไหมสาเกต” สินค้า GI ล่าสุดของภาคอีสานพร้อมผุดโปรเจคผนึกกำลัง GI ภาคอีสานในกลุ่มสินค้าอาหารและผ้าพื้นเมืองเป็น Soft Power ส่งออกอัตลักษณ์ท้องถิ่นไทยสู่สายตาชาวโลก เชื่อมโยงแหล่งผลิตสินค้า GI สู่แหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมสร้างเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากท้องถิ่นไทย


เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 6 พฤษภาคม 2565 นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานในการมอบหนังสือการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ “ผ้าไหมสาเกต” แก่นายภูสิต สมจิตต์ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด โดยกรมทรัพย์สินทางปัญญาได้ขึ้นทะเบียน GI ไทย เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2565 ที่ผ่านมา ในโอกาสนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ได้นำคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กรมทรัพย์สินทางปัญญาตรวจเยี่ยมแหล่งผลิตสินค้า GI”ผ้าไหมสาเกต” ซึ่งปัจจุบันมีการรวมกลุ่มผู้ประกอบการและกลุ่มวิสาหกิจชุมชนในจังหวัด 19 กลุ่ม สามารถผลิตสินค้าพื้นบ้านกว่า 15,000 ผืน/ ในราคาจำหน่าย 1,800 – 2,500 บาท/ผืน สร้างรายได้ให้กับชุมชนไม่น้อยกว่า 27 ล้านบาท/ปี ทั้งนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ยังได้ร่วมประชุมวางแนวทางจัดทำระบบควบคุมคุณภาพสินค้าให้เป็นไปตามมาตรฐาน GI เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค รองรับการส่งออกและการยื่นขอรับความคุ้มครอง GI ในต่างประเทศ โดยมีตลาดส่งออกสำคัญในประเทศญี่ปุ่น โดยมี ข้าราชการกระทรวงพาณิชย์ หัวหน้าส่วนราชการจังหวัดร้อยเอ็ด ร่วมให้การต้อนรับ


นายสินิตย์ เปิดเผยว่า “ในภาคอีสานมีสินค้า GI ไทยหลากหลายรายการที่มีคุณภาพพร้อมเป็น soft Power ของไทย สามารถถ่ายทอดอัตลักษณ์ ภูมิปัญญาท้องถิ่น และวัฒนธรรมอีสานได้เป็นอย่างดี อาทิผ้าไหมสาเกต จังหวัดร้อยเอ็ด เส้นไหมไทยพื้นบ้านอีสาน ครอบคลุมทุกจังหวัดของภาคอีสาน ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ จังหวัดร้อยเอ็ด สุรินทร์ ศรีสะเกษ มหาสารคาม และยโสธร และข้าวหอมมะลิอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี เป็นต้น โดยสินค้า GI เหล่านี้ได้สร้างเม็ดเงิน สร้างงาน สร้างรายได้ ให้แก่ท้องถิ่นอีสานกว่า 300 ล้านบาท/ปี อีกทั้งยังสามารถเชื่อมโยงสู่ภาคการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม แหล่งผลิตสินค้า GI ให้มี
ศักยภาพต่อยอดเป็นแหล่งท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเข้าสู่จังหวัด สร้างรายได้ให้กับท้องถิ่นในทุกมิติ”
นอกจากนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้มอบนโยบายการส่งเสริม GI ไทยอย่างต่อเนื่องและครบวงจร ทั้งการขึ้นทะเบียนให้ความคุ้มครอง การจัดทำระบบควบคุมคุณภาพสินค้า และการจัดหาช่องทางทั้งออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตให้ประซาชน โดยเฉพาะกลุ่มเกษตรกรในพื้นที่
ทั้งนี้ ประชาชนทั่วไปสามารถร่วมสนับสนุนสินค้า GI ไทย ซึ่งเป็นของดีมีคุณภาพที่ส่งตรงจากแหล่งผลิตโดยตรง สามารถติดตามรายละเอียดได้ที่ Facebook : GI Thailand และ Youtube : Gl Thailand Official
/////////
คมกฤช พวงศรีเคน ข่าว/ภาพ