ข่าวทั่วไปข่าวพาดหัว

อ่างทอง วราวุธสานต่อภารกิจในการลดก๊าซเรือนกระจกชวนปลูกต้นไม้และร่วมกันดูแลรักษาป่า เนื่องในวันต้นไม้ประจำปีของชาติ

อ่างทอง วราวุธสานต่อภารกิจในการลดก๊าซเรือนกระจกชวนปลูกต้นไม้และร่วมกันดูแลรักษาป่า เนื่องในวันต้นไม้ประจำปีของชาติ จัดกิจกรรมปลูกต้นไม้ ชวนคนไทยปลูกต้นไม้และร่วมกันดูแลรักษาป่า เพิ่มกักเก็บและดูดกลับคาร์บอนในภาคป่าไม้ 120 ล้านตัน
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 15 พ.ค. 65 ที่บริเวณบ้านดอนปลาสร้อย ตำบลหัวตะพาน อำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง นาย วราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เป็นประธานในการจัดกิจกรรมปลูกต้นไม้ของกรมป่าไม้ เนื่องในวันต้นไม้ประจำปีของชาติ 15 พฤษภาคม เพื่อสานต่อภารกิจกู้โลก ลดก๊าซเรือนกระจก เพิ่มกักเก็บและดูดกลับคาร์บอนในภาคป่าไม้ 120 ล้านตัน ชวนคนไทยปลูกต้นไม้และร่วมกันดูแลรักษาป่า โดยมี นาย จตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นาย สุรชัย อจลบุญ อธิบดีกรมป่าไม้ นาย วีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง นาย สมศักดิ์ ปริศนานันทกุล อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วยข้าราชการ พนักงาน และประชาชนชาวจังหวัดอ่างทอง คอยให้การต้อนรับและร่วมกิจกรรมปลูกต้นไม้ กว่า 1,000 ต้น ในพื้นที่บ่อขยะเก่าที่ฝังกลบดินแล้ว จำนวน 4ไร่ คอยให้การต้อนรับและร่วมกิจกรรม

ด้าน นาย สุรชัย กล่าวรายงานว่า ในปี 2565 ประเทศไทยได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพในการจัดการประชุมเอเปค (APEC2022 THAILAND) โดยประเทศไทยได้นำเสนอแนวคิดหลัก “ Open. Connect. Balance.” หรือ “ เปิดกว้างสร้างสัมพันธ์ เชื่อมโยงกันสู่สมดุล ” ซึ่งในการประชุมเอเปค ปี 2565 (APEC 2022) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมป่าไม้จะเป็นเจ้าภาพในการจัดประชุมรัฐมนตรีเอเปคด้านป่าไม้ ครั้งที่ 5 (The Fifth APEC Meeting of Ministers Responsible for Forestry: MMRF5) และการประชุมกลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านการต่อต้านการค้าไม้ผิดกฎหมายและการค้าอื่นที่เกี่ยวข้อง ครั้งที่ 21 และครั้งที่ 22 (The 21st and 22nd Meeting of Experts Group on Illegal Logging and Associated Trade : EGILAT21, EGILAT22) โดยการประชุมครั้งนี้ ประเทศไทยจะมีโอกาสในการแสดงบทบาทนำภาคการป่าไม้ของภูมิภาค (ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก) ในการบริการจัดการทรัพยากรป่าไม้ เพื่อเป็นฐานการพัฒนาสังคม สิ่งแวดล้อม เสริมสร้างเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy) ซึ่งจะทำให้การพัฒนาภาคเศรษฐกิจของประเทศไทยเจริญเติบโตอย่างครอบคลุม ยั่งยืนและมีความรับผิดชอบ อีกทั้งยังเป็นการส่งผลต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทยที่จะแสดงให้เห็นความสำคัญในการมีส่วนร่วมกับประชาคมโลกในการแก้ไขปัญหาด้านป่าไม้
ด้าน นาย วราวุธ กล่าวว่า ประเทศไทยมีความมุ่งมั่นในการดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยเฉพาะการลดก๊าซเรือนกระจกตามยุทธศาสตร์ระยะยาว ในการพัฒนาที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่ำ โดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ดำเนินการยื่นต่อสำนักเลขาธิการกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติ ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเมื่อเร็ว ๆ นี้ โดยหนึ่งในเป้าหมายสำคัญ คือ การตั้งเป้าหมายจะเพิ่มการกักเก็บและดูดกลับของคาร์บอนไดออกไซด์ในภาคป่าไม้ให้ได้ 120 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์ เทียบเท่าในปี ค.ศ. 2037 เพื่อบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ในปี ค.ศ. 2050 และจะมุ่งสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Greenhouse Gas Emission) ในปี ค.ศ. 2065


โดยในเดือนพฤษภาคม 2565 นี้ มีวันสำคัญคือวันวิสาขบูชา โดยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 31 ม.ค. 2532 กำหนดให้ “ วันวิสาขบูชา ” ของทุกปีเป็น “ วันต้นไม้ประจำปีของชาติ ” ซึ่งเป็นระยะเริ่มต้นของช่วงฤดูฝนเหมาะแก่การเริ่มต้นฤดูกาลเพาะปลูก กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมป่าไม้ จึงมีการจัดกิจกรรมสำคัญโดยการเชิญชวนประชาชนทั่วประเทศร่วมกันปลูกต้นไม้ตามสถานที่ต่าง ๆ อาทิ ที่อยู่อาศัย โรงเรียน วัด และที่สาธารณะต่าง ๆ โดยถือเป็นกิจกรรมสำคัญที่มีส่วนในการช่วยลดก๊าซเรือนกระจก และเป็นงานสำคัญที่กรมป่าไม้จัดกิจกรรมมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ พ.ศ. 2481 จนถึงปัจจุบัน สำหรับวันต้นไม้ประจำปีของชาติในปีนี้ ตรงกับวันที่ 15 พฤษภาคม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ขอเชิญชวนประชาชนชาวไทยทั่วประเทศได้ร่วมกันปลูกต้นไม้เพิ่มพื้นที่สีเขียว และร่วมกันดูแลรักษาป่า เพื่อเป็นสมบัติส่งต่อให้ลูกหลานต่อไป
กนกศักดิ์ แสงตระการ / อ่างทอง