ข่าวพาดหัวจับกุมลักทรัพย์

นนทบุรี – ตำรวจจับคนร้ายลักทรัพย์บ้าน ส.อบจ.นนทบุรี ได้แล้ว

นนทบุรี ตำรวจจับคนร้ายลักทรัพย์บ้าน ส.อบจ.นนทบุรี ได้แล้ว

เวลา 11.00 น.วันที่ 19 ส.ค.65 ที่สภ.บางแม่นาง จ.นนทบุรี พ.ต.อ.รณภัฎ ทับทิมธงไชย ผกก.สภ.บางแม่นาง จ.นนทบุรี พ.ต.ท.ศุภชัย ศรีศักดิ์ รอง ผกก.สส.พ.ต.ท.ปวรชัย บุรกรณ์ รอง ผผก.ป.พ.ต.ต.ณัฐวุฒิ มิ่งเมือง สว.สส.พร้อมกำลังสืบสวนร่วมกันจับกุมตัว นายกิตติพงษ์ เอี่ยมผ่อง อายุ 23 ปีอยู่ที่บ้านเลขที่ 5  หมู่ 11 ต.บางเลน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ 422/2565 ข้อหาลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใดๆโดยเข้าทางช่องทางซึ่งได้ทำขึ้นโดยไม่ได้จำนงให้เป็นทางคนเข้า พร้อมของกลาง ชุดที่ใส่ในวันเกิดเหตุ และอุปกรณ์งัดแงะ โทรศัพท์มือถือ

การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 14 ก.ค.65 น.ส.สุกานดา เสมหิรัญ อายุ 50 ปีสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนนทบุรี อยู่บ้านเลขที่ 14/1 หมู่ 3 ต.บางแม่นาง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี เข้าแจ้งความพนักงานสอบสวน ว่า ช่วงเวลาประมาณ 03.00 น.ได้มีคนร้ายเข้ามาลักทรัพย์สินเป็นนาฬิกาข้อมือ 6 เรือน พระเครื่อง 25 องค์ ราคาประมาณ 105,000 บาท แต่ขณะนั้นตื่นมาพบ คนร้ายได้ทิ้งทรัพย์สินแล้วหลบหนีไปโดยกล้องวงจรปิดจับภาพได้ในขณะที่คนร้ายกระโดดหนีลงมาจากชั้น 2 ของบ้าน

หลังเกิดเหตุพนักงานสอบสวนได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมเรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดนนทบุรี ร่วมตรวจสอบและเก็บลายนิ้วมือแฝงเพื่อตรวจเปรียบเทียบกับประวัติอาชญากร พบว่าตรงกับนายกิตติพงษ์ เอี่ยมผ่อง ก่อนรวบรวมพยานหลักฐานขอหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี และตามไปจับกุมตัวได้ที่บ้านญาติ หมู่ 11 ต.บางเลน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี

สอบสวนนายกิตติพงษ์ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ว่า เป็นคนร้ายที่เข้าไปก่อเหตุลักทรัพย์จริง แต่ผู้เสียหายตื่นมาพอดี ตนจึงได้ทิ้งทรัพย์สินไว้ แล้วหลบหนีไป และก่อนหน้านี้ประมาณ 1 อาทิตย์ ได้เข้ามาลักอาวุธปืนลูกโม่ 1 กระบอก กระสุนปืน ขนาด .22 50 นัด  และทรัพย์สินอย่างอื่นอีกหลายรายการ ส่วนอาวุธปืนได้นำไปขายราคา 8,000 บาท ได้เงินนำมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน โดยก่อเหตุบ้านนี้มาแล้วเป็นครั้งที่ 3

ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจหลังสอบสวนแล้วจึงนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนสภ.บางแม่นาง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป