ตร.มึนโชเฟอร์รถพ่วงหินคลุกถูกกระบะคู่กรณีซิ่งชนท้ายแต่เจ้าตัวหายปริศนา
เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 28 สิงหาคม 2565
ร.ต.อ.สิทธิศักดิ์ ชุณหเมธาทิพย์ รอง สว.(สอบสวน) สน.บางคอแหลม รับแจ้งเหตุรถชนกันกีดขวางการจราจรบริเวณเชิงทางขึ้นสะพานภูมิพล 1 ฝั่งมุ่งหน้าสุขสวัสดิ์-สำโรงใต้ แขวง บางโพงพาง เขต ยานนาวา กรุงเทพมหานคร จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุเป็นถนนบนทางขึ้นสะพานจำนวน 4 เลน จากการตรวจสอบช่องทางเดินรถที่ 2 จากฝั่งซ้าย พบรถกระบะบรรทุกตู้แช่แข็ง ของ บริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีบรอนซ์เทา ทะเบียน 2 ฒต 7999 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ในลักษณะฝากระโปรง กันชน และ ตัวถังด้านหน้าพังยับเยิน ห่างไปด้านหน้า 10 เมตร พบรถคู่กรณี ซึ่งถูกรถคันดังกล่าวพุ่งชนท้าย เป็นรถพ่วง 24 ล้อ บรรทุกหินคลุกมาเต็มคัน ยี่ห้อฮีโน่ รุ่น 500 สีขาว ส่วนหัวทะเบียน 89-1139 นครปฐม ท้ายพ่วงทะเบียน 89-1894 นครปฐม จอดนิ่งสนิทในสภาพกันชนท้ายลูกพ่วงได้รับความเสียหายเล็กน้อย แต่ผู้ขับขี่รถพ่วงกลับหายตัวไป ไม่ยอมเจรจากับคู่กรณี และไม่อยู่รอให้การกับพนักงานสอบสวน เมื่อตรวจสอบเอกสารภายในรถพบ ใบอนุญาตขับขี่ระบุชื่อ นาย ศุภกานต์ ( ขอสงวนนามสกุล ) อายุ 58 ปี และ กุญแจยังคาอยู่ที่จุดสตาร์ทในสภาพพร้อมใช้งาน เบื้องต้นจึงเก็บรวบรวมรายละเอียดไว้เป็นหลักฐาน ก่อนดำเนินการแยกย้ายรถทั้ง 2 คันให้พ้นจากช่องทางการจราจร
ส่วนทางด้าน นาย ศักดิ์สิทธิ์ ( ขอสงวนนามสกุล ) อายุ 39 ปี คนขับรถกระบะ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุนำสินค้าแช่แข็งหลายชนิดออกจากโกดังของบริษัท กำลังจะมุ่งหน้าไปส่งให้ลูกค้าตามร้านสะดวกซื้อย่านบางปู จังหวัด สมุทรปราการ เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุซึ่งเป็นเนินทางขึ้นสะพาน พบรถเก๋งคันหนึ่งขับนำรถตนอยู่ที่บริเวณด้านหน้า จากนั้นรถเก๋งคันดังกล่าวก็ตบออกเลนขวาอย่างรวดเร็ว ตนไม่ทันได้ระวังและ ไม่เห็นว่ามีรถพ่วงกำลังไต่ขึ้นสะพาน ทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงอย่างจังจนรถตนได้รับความเสียหาย กว่าจะตั้งสติออกจากรถมาได้ก็ใช้เวลาพอสมควร แต่ที่ตนสงสัยก็คือเหตุใด คนขับรถพ่วงกลับหายไป จากจุดเกิดเหตุไม่ยอมอยู่เจรจา ทั้งที่เจ้าตัวไม่ได้เป็นฝ่ายกระทำความผิด
ทั้งนี้หลังเกิดเหตุมีโชเฟอร์รถพ่วงบรรทุกหินคลุก ซึ่งสังกัดเดียวกัน กับคันที่ถูกชนท้าย ขับตามมา และ จอดให้ข้อมูลว่า นาย ศุภกานต์ เป็นผู้ขับขี่รถพ่วงคันที่ประสบเหตุจริง จึงช่วยโทรศัพท์ติดตามตัวแต่ นายศุภกานต์ ก็ยังไม่รับสาย ทางพนักงานสอบสวนเชื่อว่าเจ้าตัวอาจตระหนกตกใจ หรืออาจได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยและ โบกรถพาตัวเองไปโรงพยาบาลก่อน โดยหลังจากนี้จะติดตามตัว นาย ศุภกานต์ มาให้ปากคำ และ เจรจาเรื่องค่าเสียหายกับฝ่ายผู้ขับขี่รถกระบะ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.
โชติกา ม่วงใจรักษ์ ผู้สื่อข่าว กทม.
