ข่าวพาดหัวร้องเรียนอุบัติเหตุ

รถหรูเปลี่ยนเลนกะทันหันรถจักรยานยนต์พุ่งชน ก่อนหลบหนี คดีไม่คืบ (มีกล้องวงจรปิดตอนชนและหลบหนี)

รถหรูเปลี่ยนเลนกะทันหันรถจักรยานยนต์พุ่งชน ก่อนหลบหนี คดีไม่คืบ (มีกล้องวงจรปิดตอนชนและหลบหนี)

วันที่ 27 กันยายน 2565 เวลา 20.14 น.

สาวใหญ่เดือดร้อนหนักมากหลังจากโดนรถยนต์หรูเปลี่ยนเลนกะทันหันจึงทำให้ตนเองและสามีซึ่งอายุมากแล้วได้รับบาดเจ็บอาการสาหัสแต่คู่กรณีกลับไม่มาเหลียวแลแม้กระทั่งวันเกิดเหตุก็ไม่ลงมาดูเลยซะด้วยซ้ำแถมยังขับรถหนีไปอย่างรวดเร็วเหตุเกิดเมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 9 กันยายน 2565 ถึงตนเองและลูกชายได้ไปแจ้งความไว้แล้วที่ สน.ยานนาวา แต่จนถึงทุกวันนี้คดีก็ยังไม่คืบหน้าไปถึงไหน ซึ่งก็เป็นเวลาเกือบเดือนแล้วและทุกวันนี้ตนเองและสามีใช้ชีวิตลำบากมากต้องเสียเงินค่ารักษาพยาบาลเองแล้วตนเองและสามีเป็นคนหาเช้ากินค่ำจึงอยากจะร้องสื่อให้เป็นสื่อกลางช่วยติดตามผู้ก่อเหตุรายนี้ให้หน่อยหรือหากใครดูอยู่หรือพอมีคลิปภาพกล้องหน้ารถของเหตุการณ์วันนั้นให้ช่วยส่งมาให้ด้วยเพื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ติดตามผู้ก่อเหตุรายนี้มาดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายให้เร็วขึ้น

จากการสอบถาม นาย อรุณ จิตราพรพันธุ์ อายุ 66 ปี คนขับ กล่าวว่าเช้ามืดวันนั้นตนเองได้ขับขี่รถไปส่งภรรยาที่ทำงานแถวย่านสาทร แต่พอมาถึงจุดเกิดเหตุเป็นช่วงบริเวณทางแยกแล้วมีรถยนต์ไม่ทราบยี่ห้อได้เปลี่ยนเลนกะทันหันในระยะใกล้เกินไปจนตนเองนั้นไม่สามารถเบรคได้ทันส่วนตนเองนั้นในวันที่เกิดเหตุพอชนปุ๊บก็สลบทันทีในที่เกิดเหตุมารู้สึกตัวอีกทีก็อยู่ในห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลเจริญกรุงแล้ว ตนเองได้รับบาดเจ็บที่ศรีษะหมอบอกว่ามีเลือดออกในสมอง และไหล่ข้างซ้ายหัก แล้วที่บริเวณเท้าข้างขวานิ้วหัวแม่โป้งเป็นแผลเปิดขนาดใหญ่ และนิ้วชี้หัก ส่วนขาข้างซ้ายไม่มีแรงน่าจะเกิดจากเอ็นกล้ามเนื้ออักเสบ ได้รับความทรมานมากไม่สามารถทำงานหาเงินได้เหมือนแต่ก่อน ตนเองมีอาชีพขับวินจักรยานยนต์ ที่สาธุประดิษฐ์ซอย 34 เบอร์ 108 เมื่อก่อนเคยวิ่งได้เงินวันละ 700-800 บาท แต่พอมาช่วงโควิด ก็ยังพอวิ่งได้อยู่วันละ 400 บาท แต่ตอนนี้ตนเองทำงานไม่ได้แล้ว ภรรยาต้องทำงานอยู่คนเดียว หนำซ้ำต้องมาเป็นแบบนี้อีกเงินค่ารักษาพยาบาลช่วงแรกเป็นของ พรบ. รถจักรยานยนต์ ของตนเองแต่ตอนนี้วงเงินค่ารักษาหมดแล้ว ก็ต้องควักเงินเก็บสะสมมาใช้จ่ายค่ารักษาพยาบาลและตอนนี้เงินที่เก็บสะสมเอาไว้ก็ใกล้หมดแล้วเช่นกันต่อไปจะเอาเงินตรงไหนมาจ่ายค่ารักษาพยาบาลก็ยังไม่รู้แล้วไหนจะต้องกินต้องใช้ไปวันๆอีก ก็เลยอยากจะฝากบอกให้ผู้ก่อเหตุมารับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้นด้วย ไม่ใช้หายตัวไปแบบนี้

ส่วนทาง น.ส.ยุพเยาว์ อยู่ยัง อายุ 56 ปี เป็นคนซ้อนท้าย บอกว่า วันเกิดเหตุตนมาทางตรง เส้นเจริญราษฎร์ มุ่งหน้า แยกสุรศักดิ์ กำลังจะไปทำงาน ตอนนั้นรถตนจอดติดไฟแดง แล้วรถคันที่ชน เบนหัวออกมา เปลี่ยนเลนชนกับรถตน เค้าก็ชะลอดูนิดนึงแล้วเค้าก็ไป แต่ไม่ได้ลงมาดูเลย แต่มีคนแถวนั้นเค้าก็เห็นแต่เป็นทะเบียนรถป้ายแดง ส่วนแฟนตนก็สลบไปพักนึง บาดเจ็บที่เท้า กระดูกไหปลาร้าหัก มีเลือดคั่งในสมอง ส่วนตนก็มีปูดบวมเขียวที่หน้า เจ็บหน้าอก ตนไปรักษาที่โรงพยาบาลเลิศสิน ส่วนแฟนตนถูกส่งไปที่โรงพยาบาลเจริญกรุง ตอนเกิดเหตุเป็นวันที่ 9 กันยา เวลาประมาณ ตี 5 ครึ่ง ตนก็อยากจะให้คนที่ชนตนมารับผิดชอบ ซึ่งตอนนั้น ไม่ได้จอดลงมาดูเลย ถ้าเกิดกลับญาติพี่น้องเค้าจะเป็นยังไง อยากให้เห็นใจกันบ้าง

และทาง นาย อานันต์ จิตราพรพันธุ์ อายุ 36 ปี เป็นลูกชายของผู้บาดเจ็บทั้ง 2 คน บอกว่า ตนได้รับโทรศัพท์บอกว่า พ่อกับแม่ตนโดนรถชน ตนจึงรีบมา เพราะตนไม่ได้พักอยู่ด้วย ตนอยู่อีกทีนึง พอตนมาถึง พ่อตนอยู่โรงบาลเจริญกรุง แม่ตนอยู่โรงบาลเลิศสิน ตนก็ไปดูพ่อและมารับแม่ไปโรงพัก เพื่อแจ้งความ และขอดูกล้องจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตนก็ไปดูจากหลายๆที่ ตามที่ เจ้าหน้าที่บอกว่า และตรวจดูจากทะเบียนรถป้ายแดงที่ประชาชนจดไว้ให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ตอนแรกที่ไปแจ้งความ ตำรวจบอกว่า น่าจะยากเพราะเป็นรถป้ายแดง และกล้องตรงจุดนั้น ตรวจจับไปแต่ช่วงรถติด แต่จับตอนรถชนไม่ได้ พอเจ้าหน้าที่ตรวจสอบตามทะเบียนที่จดไว้ ก็ไปตรงกับรถอีกรุ่นนึง คือตอนนี้ก็ยังไม่ชัดเจนเรื่องรถที่ชน ตนก็อยากจะให้คนที่ขับรถชนพ่อแม่ตน ออกมารับผิดชอบบ้าง ไม่ใช่ ชนแล้ว ขับหนีหายไปแบบนั้นโดยที่ไม่ลงมาดูเลย แค่ชะลอดูแล้วไปแค่นั้นเอง

เบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ยานนาวา ได้รับแจ้งความร้องทุกข์เอาไว้แล้ว เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2565 เมื่อเวลา 13.02 น. คดีจราจรที่ -/2565 ฐานความผิดขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้เฉี่ยวชนรถ ( ทรัพย์สิน ) ผู้อื่นเสียหาย มีผู้ได้รับบาดเจ็บ วันเดือนปีที่เกิดเหตุ วันที่ 9 กันยายน 2565 เวลาประมาณ 05.40 น. สถานที่เกิดเหตุ ถนน เจริญราษฎร์ ก่อนเข้าสาทรใต้ แขวง ทุ่งวัดดอน เขต สาทร กรุงเทพมหานคร นายอรุณ จิตรพันธุ์ อายุ 66 ปี ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ยามาฮา รุ่น X1 สี บลอนเทา ทะเบียน กกย 516 กรุงเทพมหานคร และ นางสาว ยุพเยาว์ อยู่ยัง อายุ 56 ปี เป็นผู้ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวได้รับบาดเจ็บสาหัสทั้งสองคน ตามวันเวลาที่เกิดเหตุนาย อรุณ ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ มาตามถนนเจริญราษฎร์ ที่เลนที่ 1 จะมาเลนที่ 2 เพื่อมุ่งหน้าไปถนนสาทรเหนือ โดยมี นางสาว ยุพเยาว์ ผู้ซ้อนท้ายก็ได้รับบาดเจ็บ มีรถกู้ภัยมารับตัวคนเจ็บทั้งสองคนไปโรงพยาบาล ส่วนรถยนต์ เอสยูวี สีดำ ไม่ทราบทะเบียนเป็นป้ายแดง ผู้ก่อเหตุ ได้ชะลอรถแล้วขับขี่รถหลบหนีไปทางสะพานสาทรมุ่งหน้าฝั่งธนบุรี โดยไม่ได้ลงมาดูคนเจ็บทั้งสองคนเลยทั้งๆที่ยังนอนเจ็บอยู่บริเวณกลางถนน โดยมี พ.ต.ท. พนม ผุยหนองโพธิ์ พงส. – พงส.ผู้เชี่ยวชาญ สน.ยานนาวา ได้ตรวจสถานที่เกิดเหตุและจัดรับคำร้องทุกข์ไว้ติดตามต่อไปแล้วยังมีเอกสาร ใบรับรองแพทย์จากโรงพยาบาลที่ตรวจรักษา รวมทั้งคลิปวีดีโอกล้องวงจรปิดตามสถานที่ต่างๆบริเวณใกล้เคียงที่ นาย อานันต์ ( ลูกชายผู้ได้รับบาดเจ็บ ) ติดตามมาได้ด้วยตนเอง

โชติกา ม่วงใจรักษ์ ผู้สื่อข่าว กทม.