ระทึกหนุ่มคุ้มคลั่งวิ่งฝ่ากองเพลิงเข้าบ้านตัวเอง ชาวบ้านช่วยทันก่อนบ้านวอดทั้งหลัง
วันที่ 1 ตุลาคม 2565
เวลา 02.30 น.
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทุ่งครุ รับแจ้งเหตุทางสายด่วน199 มีเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน ภายในซอย ประชาอุทิศ 56 จึงเร่งรุดจัดกำลัง พร้อมประสานเจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงและกู้ภัยทุ่งครุ และราษฎร์บูรณะ รวมทั้งอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน ( อปพร. ) เขตทุ่งครุ และราษฎร์บูรณะ , อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เร่งรัดจัดกำลังตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ และอาสาสมัคร มาถึงที่เกิดเหตุพบแสงเพลิงและกลุ่มควันพวยพุ่งออกมาเป็นจำนวนมากจากบ้านเลขที่ 48 ซอย ประชาอุทิศ 56 แขวง ทุ่งครุ เขต ทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร เป็นลักษณะบ้านไม้ 2 ชั้น แสงเพลิงและกลุ่มควันเกิดขึ้นบริเวณชั้นล่างของตัวบ้าน และลุกลามอย่างรวดเร็วจนกระทั่งขึ้นสู่บนชั้นที่ 2 และลามไปติดบ้านข้างเคียงเป็นบ้านเลขที่ 46 ซึ่งเป็นลักษณะบ้านไม้ 2 ชั้นปลูกติดกัน 2 หลังโดยใช้บ้านเลขที่เดียวกันจึงโดนผลกระทบไปด้วย เจ้าหน้าที่ดับเพลิง และอาสาสมัครจึงเร่งรัดจัดวางหัวฉีดและทำการระดมฉีดน้ำเพื่อระงับเหตุใช้เวลาทั้งสิ้นกว่า 1 ชั่วโมงจึงทำการระงับเหตุได้ ตรวจสอบแล้วมีบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายทั้งหมด 3 หลัง บนเนื้อที่ 20 ตารางวา เบื้องต้นซอยดังกล่าวเป็นซอยคับแคบรถดับเพลิงขนาดใหญ่เข้าไม่ถึงที่เกิดเหตุต้องใช้เครื่องหาบหามเข้าไปอย่างทุลักทุเล และที่เกิดเหตุเป็นลักษณะบ้านไม้เก่าปลูกติดกันหลายหลังและยังเป็นเชื้อเพลิงอย่างดีอีกด้วย แต่อย่างไรแล้วจากเหตุการณ์ดังกล่าวไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิต ส่วนสาเหตุของการณ์เกิดเพลิงไหม้ครั้งนี้ต้องรอผลจากการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งจากเจ้าหน้าที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องต่อไป
จากการสอบถาม นาย ชวลิต มะสะพันธ์ อายุ 66ปี บอกว่า ตนนอนอยู่ในห้อง ได้กลิ่นเหม็นไหม้จึงรีบลุกขึ้นมามองหา ก็เห็นไฟไหม้มาจากหลังห้องตน จึงรีบปลุกญาติพี่น้องขึ้นมาช่วยกันดับ ละแวกนี้เป็นญาติพี่น้องกันหมด ส่วนบ้านที่ไหม้ ไม่มีคนอยู่บ้านเลย ไปต่างจังหวัดกันหมด
ส่วนทางนาย ทัศยุ เย็นฉิม อายุ 16 ปี บอกว่า ตนนอนอยู่แล้ว มีคนมาเคาะประตูบอกว่าไฟไหม้ ตนจึงลุกขึ้นไปดูและช่วยกันดับไฟ แต่ก็เอาไม่อยู่ ส่วนบ้านที่ไฟไหม้เป็นบ้านที่ไม่มีใครอยู่ ไปต่างจังหวัดกัน แล้วก็มีลูกเจ้าของบ้านอีกหลังที่ไหม้เค้าโมโหว่าไฟไหม้บ้านเค้า เค้าเลยจะวิ่งเข้าไปในบ้าน แต่ตัวเค้าพักอีกหลังนึง คือที่ตรงนี้ เป็นที่พี้น้องกัน เป็นครอบครัวใหญ่ ญาติกันหมด
และพันตรี อดิเรก เบ็ญการีม อายุ 42 ปี น้องเขยเจ้าของบ้านที่ไฟไหม้ บอกว่า มีคนมาเรียกตนบอกว่าไฟไหม้ตนก็รีบออกมาดู ก็เป็นบ้านหลังที่ไม่มีคนอยู่ เป็นบ้านไม้ ไปต่างจังหวัดกัน แต่เค้าสับคัตเอ้าท์ไว้ แล้วก็มีอีกหลังนึงข้างหลัง เค้าเพิ่งต่อเติมบ้าน มี 2 ครอบครัว แต่ไม่รู้สับคัตเอ้าท์ไว้ป่าว
แล้วทางคุณ ดา อายุ 42 ปี อยู่ข้างบ้านไฟไหม้บอกว่า พอตนรู้ว่าไฟไหม้ ก็รีบออกมาดู ก็เห็นไฟไหม้แดงแล้ว ที่ชั้นล่าง ก็ช่วยกันดับไม่อยู่แล้ว เห็นก็รีบเข็นรถมอไซค์ออกมาไว้ข้างนอก เจ้าของบ้านไม่มีใครอยู่ เด็กปิดเทอมเลยพากันกลับต่างจังหวัด ไปได้ 3-4 วันแล้ว เป็นบ้านไม้ 2 ชั้น เป็นไม้เก่า แถวนี้ก็เป็นบ้าน พี่ป้าน้าอา ญาติกันทั้งนั้น
จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้เกิดมีชายหนุ่มคนหนึ่งคุ้มคลั่งพยายามวิ่งเข้าไปในตัวบ้านของตนเองเหตุเพราะรับไม่ได้กับภาพเหตุการณ์ที่บ้านของตนเองกำลังจะถูกไฟไหม้ชาวบ้านต่างวิ่งกันเข้าไปช่วยฉุดกระชากลากถูหนุ่มรายดังกล่าวออกมาจากตัวบ้านได้ทันก่อนที่บ้านทั้งหลังจะถูกไฟไหม้เป็นเถ้าธุรีไปอย่างหวุดหวิดส่วนชายหนุ่มคนดังกล่าวเมื่อชาวบ้านช่วยออกมาได้ก็เดินหายไปภายในความมืด คาดว่าจะหลบไปสงบสติอารมณ์ที่ไหนสักแห่ง
ส่วนเบื้องต้นบ้านต้นเพลิงดังกล่าวตอนเกิดเหตุไม่มีผู้พักอาศัยอยู่ชาวบ้านบริเวณดังกล่าวบอกว่ากลับต่างจังหวัดกันหมด ส่วนสาเหตุที่เกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สรุปผลต้องรอเจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบพื้นที่อย่างละเอียดอีกครั้งในช่วงเช้าของวันนี้ และจะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
โชติกา ม่วงใจรักษ์ ผู้สื่อข่าว กทม.