หนุ่ม วิน จยย.วัย 55 ปี ทนปัญหาหนี้สินไม่ไหวผูกคอตายในป่าย่านประชาอุทิศ
วันที่ 2 ตุลาคม 2565
เวลา 11.48 น.
ร้อยตำรวจเอก ประยูร วิทยา รอง สว.สอบสวน สน.ราษฎร์บูรณะ รับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย อายุ 55 ปี สาเหตุจากการผูกคอ ภายในซอยประชาอุทิศ 19 จึงเร่งรุดจัดกำลังพร้อมประสานแพทย์นิติเวช โรงพยาบาล ศิริราช และอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เร่งรัดตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุพบเหตุเกิดภายในซอย ประชาอุทิศ ถนน ประชาอุทิศ แขวง ราษฎร์บูรณะ เขต ราษฎร์บูรณะ กรุงเทพมหานคร ที่เกิดเหตุเป็นลักษณะป่ารกร้าง มีต้นไม้ใหญ่น้อยขึ้นเต็มบริเวณพื้นที่ อาสาสมัครและเจ้าหน้าที่ตำรวจ จัดกำลังเดินเท้าเข้าไปตรวจสอบด้านในกว่า 20 เมตร จึงพบกับร่างผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย อายุ 55 ปี มีอาชีพ ขับรถจักรยานยนต์รับจ้าง อยู่ในลักษณะนั่งคุกเข่าอยู่กับพื้นดิน ข้างลำตัวมีถังพลาสติกสีขาวคว่ำอยู่ และที่ลำคอมีเชือกลักษณะเป็นเชือกผ้า สีน้ำเงิน ปลายเชือกผูกติดกับต้นข่อย การแต่งกายสวมใส่เสื้อยืดคอกลมแขนสั้น ผ้ากีฬาสีน้ำเงิน กางยีนส์ขายาว สวมรองเท้าแตะหูหนีบสีน้ำตาล ตรวจสอบแล้วพบบาดแผลเป็นแผลถลอกบริเวณข้อเท้า และใกล้กันยังพบกับผ้าใบสีขาวปูรองนั่ง แล้วยังพบกับขวดน้ำดื่ม และน้ำยาซักผ้าขาวตกอยู่ด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงทำการบันทึกภาพและเก็บรวบรวมสิ่งของทั้งหมดที่พบภายในที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบถามคนเจอศพคนแรก บอกว่า เมื่อคืนลูกชายแกเดินตามหาอยู่ว่า ออกไปกินเหล้าแล้วยังไม่กลับเข้าบ้าน ตนยังบอกเลยว่าโทรหาแกหรือยัง ลองโทรดูสิ ปกติก็จะไปกินเหล้าแถวนี้แหละ ก็จะกลับมา แต่วันนี้ยังไม่เห็นกลับก็เดินตามหากันกลัวจะเมาแล้วเดืนตกน้ำ แล้วพอเช้าตนก็เดินตามหาอีก ก็มีเห็นว่าผูกคอตายตรงนี้เลยไปบอกกับแฟนและลูกแกมาดู อล้วก็เลยแจ้งตำรวจไป ปกติแกก็จะชอบกินเหล้าแล้วชอบทำร้ายตนเอง
เบื้องต้นจากการสอบถามจากลูกชาย และเพื่อนข้างบ้านบอกเล่าในทำนองเดียวกันว่า ผู้ตายนั้นพักอาศัยอยู่กับลูกชายคนเล็กวัย 18 ปี ซึ่งกำลังเรียนอยู่ชั้น ปวช. ปี 1 ของโรงเรียนพาณิชย์ฯแห่งหนึ่งก่อนที่ผู้ตายจะหายตัวออกจากบ้านเมื่อช่วงเช้าวานนี้ได้มีอาการเหมือนคนกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่างแล้วก็เคยพูดอยู่บ่อยๆว่าเครียดเรื่องหนี้สินที่ตนเองเป็นอยู่ แล้วก็ทำงานหาเงินยากไม่พอใช้จ่ายในแต่ละวันก็เลยเครียดแล้วเป็นคนที่ชอบดื่มเหล้าพอเมาได้ที่ก็จะทำร้ายตัวเองด้วยการทุบตีตัวเองบ่อยๆ ส่วนภรรยาก็แยกกันอยู่เพราะที่ทำงานย้ายไปอยู่ต่างจังหวัด ก็เลยเป็นเหตุให้ต้องย้ายตามโรงงานไปด้วย ส่วนผู้ตายก็อยู่กับลูกชายแค่ 2 คน แต่ลูกชายก็คอยให้กำลังใจผู้เป็นพ่อเสมอบอกว่า อย่าเครียดอย่าคิดมากอยู่ตลอดเวลา แต่เมื่อวาน ( วันที่ 1 ตุลาคม 2565 ) ได้ออกจากบ้านไปตั้งแต่เช้าลูกชายก็คิดว่าพ่อคงออกไปกินเหล้ากับเพื่อนก็เลยไม่ได้คิดอะไร แต่พอตกกลางคืนก็เอะใจว่าทำไมถึงยังไม่กลับมา แล้วมาช่วงเช้าของวันนี้เลยออกเดินตามหาจนกระทั่งมาถึงบริเวณที่เกิดเหตุก็พบว่าเป็นแบบนี้แล้วก็เลยรีบไปหาคนมาช่วยและแจ้งตำรวจ แต่ก็ไม่ทันแล้วตัวแข็งแล้ว จึงคาดว่าน่าจะผูกคอตายตั้งแต่เมื่อคืน ส่วนทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และแพทย์นิติเวช มอบหมายให้อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำร่างผู้เสียชีวิตไปตรวจสอบหาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียดอีกครั้งที่นิติเวช รพ.ศิริราช แล้วจะให้ญาตินำเอกสารไปรับศพกลับมาประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป
โชติกา ม่วงใจรักษ์ ผู้สื่อข่าว กทม.