หญิงวัย 33 ปี เครียดหนี้สิน กินยาฆ่าแมลงผสมน้ำอัดลมปลิดชีพขังตัวเองในรถกระบะ ย่านพระราม 2
วันที่ 2 ก.ย.63 เวลา 21.00 น. พันตำรวจตรี อดุลย์ศิริ วงศ์ตันกาศ สว.สอบสวน สน.บางมด ได้รับแจ้งมีเหตุผู้เสียชีวิตภายในรถกระบะ ในซอยพระราม 2 ซอยย่อย 33 แยก 7 จึงรีบรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุทันทีพร้อมแพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช กองพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
เมื่อเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครกู้ภัยไปถึงที่เกิดเหตุ ภายในซอยพระราม 2 ซอยย่อย 33 แยก 7 แขวงบางมด เขตจอมทอง กรุงเทพมหานคร พบรถกระบะ ฟอร์ด แรนเจอร์ สีบอล์นเทา ทะเบียน 2 ฒผ 6220 กทม. บริเวณแค๊ป พบผู้เสียชีวิตเป็นหญิง 1 ราย ในสภาพนอนหงายกับเบาะสวมใส่เสื้อยืดคอกลมแขนสั้น สีเทา กางเกงวอร์มขายาว สีดำ สวมแว่นตา มีคราบของเหลวออกทางปากและจมูก ริมฝีปากดำคล้ำ ทราบชื่อมาชื่อ น.ส.รจนา แสไพศาล อายุ 33 ปี ภายในรถยังพบขวดน้ำอัดลมยี่ห้อหนึ่ง ขนาด 330 มล. เปิดกินไปแล้วบางส่วนเหลือประมาณก้นขวด จึงเปิดและลองดมดู ปรากฎว่า มีกลิ่นผิดปกติ ซึ่งไม่ใช่กลิ่นน้ำอัดลมทั่วไป จึงแจ้งให้ญาติได้ดมกลิ่นให้ทราบด้วย แล้วจึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐานต่อไป
นายอาจหาญ หึ่งทอง อายุ 55 ปี เป็น รปภ.ของหมู่บ้าน เล่าว่า “ผู้ตายเป็นคนนิสัยดี ผมเจอเค้าเมื่อวานประมาณช่วง 2 ทุ่ม เดินไปมาเดินมา แต่ไม่รู้ว่าเดินไปไหนบ้าง ผมเห็นเค้าไปไหนมาไหนก็ขี่แต่ มอไซค์ไป ผมไม่รู้ว่ามีรถยนต์ด้วย ผมเข้าเวรมาก็มีคนบอกว่า มีคนตายในรถ ผมก็เดินมาดู อ้าวเป็นคนนี้เอง เค้าพักอยู่ อาคาร 1 ชั้นที่ 4 ”
นายนิกร สุขจร อายุ 35 ปี เป็นสามีผู้ตาย เล่าว่า “ตนเจอกับผู้ตายเมื่อตอนเช้าของเมื่อวานนี้ ออกมาส่งลูกไปโรงเรียนเหมือนปกติทุกวัน ผมก็ไปทำงาน ที่ศูนย์รวมช่าง พอตอนเย็นกลับมาก็ไม่เจอ โทรหาก็ไม่รับ ไม่รู้ไปไหน ถามลูกก็ไม่รู้ แต่ส่วนมากเค้าจะหายไปแบบนี้ เช้าก็กลับมา จึงไม่เอะใจว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น แต่น่าจะเกิดจากความเครียดเรื่องหนี้สิน เพราะมีบริษัทโทรมาทวง หลายบริษัท แต่เค้าไม่เคยพูดถึง หรือบ่นอะไรเลย ได้ยินทางแม่เค้าคุยกันว่า เป็นหนี้เกือบแสน เค้าจะเป็นคนเงียบๆ ผมเลยไม่รู้เรื่องหนี้เค้าเลยว่ามีหนี้เท่าไหร่ ที่ไหนบ้าง เค้าเคยทำงานร้านขายก๊วยเตี๋ยวรายวัน แล้วไม่สบายเลยให้กลับมาพักรักษาตัว เลยยังไม่ได้ทำงานอะไรที่ไหน พอเมื่อเย็นเลิกงานมา ผมจะเอาพวงมาลัยมาไหว้รถทุกวันพระ ผมก็ไขกุญแจรถเข้าไป เห็นแขนเค้ายื่นออกมาจากที่นั่งตรงแค๊ป ผมรู้ล่ะ เลยหันออกจากรถไปเลย เพราะกุญแจรถ จะมีแค่ 2 ชุด ผมติดตัว 1 ชุด และเก็บไว้ที่บ้าน 1 ชุด คือ ที่เค้า ทางแม่เค้าและผมก็ไม่คิดใจอะไร ผมอยู่กับเค้ามานานจนมีลูกด้วยกัน 2 คน ผู้ชายคนนึง ผู้หญิงคนนึง คนโตผู้หญิงอยู่ ป.5 คนเล็กผู้ชายอยู่ ป.1 รถคันนี้เป็นรถผมเอง เพิ่งผ่อนได้ปีเดียว”
เบื้องต้นกองพิสูจน์หลักฐาน ตรวจสอบที่เกิดเหตุ บริเวณโดยรอบ ไม่พบร่องรอยการต่อสู้แต่อย่างใด ส่วนทางแพทย์นิติเวช สันนิษฐานการเสียชีวิตจากการกินยาประเภทยาฆ่าแมลง ที่ทำลายระบบประสาท ระบบไหลเวียนโลหิต ทำให้ถึงแก่ความตาย แต่อย่างไรแล้ว ต้องส่งมอบให้กู้ภัยนำส่ง สถาบันนิติเวช รพ.ศิริราช เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงอีกครั้ง ก่อนจะให้ญาติมาติดต่อขอรับร่างผู้เสียชีวิตไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป
โชติกา ม่วงใจรักษ์ ผู้สื่อข่าว กทม.
