ชาวบ้านลั่นแบคโฮเป็นเหตุหวิดไฟไหม้ตึก ถ้าไม่ผิดแล้วจะหนีทำไม ย่านพุทธบูชา
วันที่ 11 ตุลาคม 2565 เวลา 16.50 น.
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ราษฎร์บูรณะ รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้เสาไฟฟ้าภายในซอยพุทธบูชา 44 จึงรีบรุดจัดกำลังพร้อมประสานเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและกู้ภัย พร้อมอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน ( อปพร.เขตราษฎร์บูรณะ ) เร่งรัดตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมอาสาสมัครและเจ้าหน้าที่ดับเพลิงมาถึงที่เกิดเหตุภายในซอยพุทธบูชา 44 ถนน พุทธบูชา แขวง บางมด เขต ทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร พบแสงเพลิงและกลุ่มควันจำนวนมากเกิดขึ้นบนเสาไฟฟ้าบริเวณปากซอยย่อย 11 และ 13 แสงเพลิงกำลังลุกไหม้สายสื่อสาร และ สายไฟ แล้วกำลังจะลุกลามเข้าสู่ตัวอาคารข้างเคียงซึ่งเป็นอาคารพาณิชย์สูง 3 ชั้นปลูกติดกันหลายหลัง โดยแสงเพลิงและกลุ่มควันดังกล่าวเกิดขึ้นเป็น 3 จุดด้วยกัน เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและอาสาสมัครจึงจัดอุปกรณ์ถังน้ำยาเคมีช่วยกันระงับเหตุ ใช้เวลา 20 นาที เพลิงจึงสงบแสงเพลิงและกลุ่มควันหมดไป จากการตรวจสอบโดยรอบไม่พบผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว ส่วนเบื้องต้นความเสียหายมีร้านขายก๋วยเตี๋ยวได้รับความเสียหายจากผลกระทบจากผงน้ำยาเคมีดับเพลิง และน้ำที่ฉีดสกัดเพลิง ถ้วยชามและเครื่องปรุงรส วัตถุดิบต่างๆในการประกอบอาชีพร้านก๋วยเตี๋ยวเสียหายทั้งหมดไม่สามารถนำมาใช้ต่อได้ และสายไฟฟ้า รวมทั้งสายส่งสัญญาณโทรศัพท์ , อินเตอร์เน็ทของค่ายต่างๆได้รับความเสียหายเป็นทางยาวกว่า 50 เมตร และที่เสาไฟฟ้าบริเวณหน้าปากซอยแยกย่อย 13 มีร่องรอยของการถูกรถเฉี่ยวชนจนเป็นรอยแตกหักอย่างเห็นได้ชัดเจน
จากการสอบถามนายเรืองวิทย์ แสนสุริวงค์ อายุ 52 ปี อาชีพขับวินซอยพุทธบูชา 44 บอกว่า มีคนแบคโฮขับเข้ามาเกี่ยวสายไฟ สายไฟก็ขาด พอเห็นก็ลงมาเอาผ้าเทปพัน แต่ก็ไม่อยู่ ประกายไฟก็ขึ้น 3 จุด ห่างกัน แต่ไฟลุกขึ้นพร้อมกัน แล้วคนขับแบคโฮก็ขับเข้าไปข้างในท้ายซอย ที่เค้ามาทำการขุดทำสันเขื่อน แล้วก็ไม่รู้เดินหายไปไหนแล้ว ประชาชนก็ช่วยกันใช้ถังมาฉีดดับแต่ก็เอาไม่อยู่กัน
และนางสาว วันเพ็ญ พันธ์เป็น อายุ 45 ปี เจ้าของร้านขายก๋วยเตี๋ยวผู้เสียหาย บอกว่า ตนเปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยวอยู่ตรงนี้ แล้วตนได้กลิ่นเหม็นไหม้ ก็มองหาว่ามาจากไหน ก็พบว่ามาจากเสาไฟ แล้วไฟก็ลุกลามไปตามสายไฟด้วย เข้าไปตรงตึกที่อยู่ใกล้เคียงด้วย แล้วพอหันมามองที่ร้านตน เสาไฟที่ใกล้กับร้าน ตนก็มีประกายไฟด้วน ตนจึงรีบวิ่งออกจากจุดเกิดเหตุ พอเจ้าหน้าที่มาก็ใช้สารเคมีฉีดดับไฟ ร้านตนที่อยู่ตรงจุดเกิดเหตุก็เสียหายเลอะเปรอะเปื้อนสารเคมีไปด้วย ก็ขายต่อไม่ได้แล้ว ของตนก็ยังเหลืออีกเยอะ ยังขายไม่หมดเลย ปกติตนตั้งร้านขายตั้งแต่ 8 โมงเช้าจนถึงประมาณ 6 โมงเย็นได้ประมาณ 2 – 3 พันบาท ตนต้องไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ก่อนว่า ร้านตนก็เสียหายขาดรายได้ไป เพราะของตนก็ขายต่อไม่ได้ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับผิดชอบในส่วนนี้ด้วย เพราะตนก็ทำมาค้าขายตรงนี้
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุของการเกิดเหตุการณ์ในครั้งนี้ได้ต้องรอผลของการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งถึงจะสรุปสาเหตุที่แท้จริงได้ ส่วนทางด้านเจ้าหน้าที่การไฟฟ้านครหลวงลงตรวจสอบพื้นที่และประเมินความเสียหายเบื้องต้นแล้วในขณะนี้ และทางด้านชาวบ้านต่างพูดกันเป็นเสียงเดียวกันว่าก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวได้เห็นรถแบคโฮกำลังตอกแผ่นปูนขนาดใหญ่เพื่อใช้ทำแนวเขื่อนกั้นน้ำกันน้ำเซาะตลิ่งในระหว่างการทำงานนั้นได้ไปเกี่ยวสายไฟและทำให้เกิดสายไฟถลอกจนไฟดูดคนงานไปแล้วครั้งนึง แต่แล้วก็นำเทปพันสายไฟมาพันสายที่ถลอกเพื่อแก้ปัญหาเบื้องต้นแล้วลงมือทำงานกันต่อ จนกระทั่งได้ไปเกี่ยวสายไฟอีกหลายรอบและสักพักก็ได้ยินเสียงเหมือนระเบิดเกิดขึ้นพร้อมกัน 3 จุด ก่อนที่จะมีแสงเพลิงและกลุ่มควันเกิดขึ้น แล้วคนงานพอเห็นว่าเกิดไฟลุกไหม้ดังกล่าวก็รีบขับรถแบคโฮหลบหนีไปตอนที่กำลังชุลมุนกันอยู่ ส่วนเสาไฟที่มีรอยแตกดังกล่าวก็ถูกรถแบคโฮคันที่ก่อเหตุได้ขับเฉี่ยวชนจนได้รับความเสียหาย แล้วถ้าคิดว่าไม่ได้เป็นต้นเหตุของเหตุการณ์ไฟไหม้ดังกล่าวแล้วจะหลบหนีไปทำไม
โชติกา ม่วงใจรักษ์ ผู้สื่อข่าว กทม.