ผวจ.ชลบุรี เชื่อเคสบุกจับปลัดอำเภอสัตหีบ คาตู้บริจาคเงิน ขอสอบสวนข้อเท็จจริง มีเบื้องหน้าเบื้องหลังหรือไม่
จากกรณีผู้ประกอบการบ้านพักพูลวิลล่า พื้นที่อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี แจ้งตร.ปปป. ตลบหลัง จนท.ฝ่ายปกครอง โดยนำเงินใส่ซองใส่ตู้บริจาค ก่อน ตร.ปปป.จะกรูเข้าจับกุม กลางที่ว่าการอำเภอสัตหีบ
โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 28 ต.ค. พล.ต.ต.จรูญปานแก้ว ผบก.ปปป. พร้อมด้วย พ.ต.อ.ศราวุธ ศรีสุขศิริพันธ์ รอง ผบก.รฟ. ช่วยราชการ บก.ปปป., พ.ต.อ.เกรียงไกร ขวัญไตรรัตน์ ผกก.กลุ่มงานสอบสวน บก.ปปป. พ.ต.อ.พิทักษ์ วาฤทธิ์ ผกก.2 บก.ปปป. นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปปป. สนธิกำลังร่วมกับ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. ควบคุมตัว นายกัณฑ์พงษ์ สุวรรณปทุมเลิศ อายุ 40 ปี ปลัดอาวุโสอำเภอสัตหีบ พร้อม น.ส.สุภาพร ผิวเหลือง อายุ 43 ปี เจ้าหน้าที่ปกครองที่ทำการอำเภอสัตหีบ มายัง สภ.สัตหีบ กล่าวหาในความผิดฐาน “ เป็นเจ้าพนักงานเรียกรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดเพื่อตนเอง, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือ โดยทุจริต, เป็นเจ้าพนักงานของรัฐ เรียกรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสําหรับตนเองหรือผู้อื่น โดยมิชอบ เพื่อกระทําการหรือไม่กระทําการอย่างใดในตําแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่” ได้ที่ห้องทำงานภายในที่ทำการอำเภอสัตหีบ จ.ชลบุรี
สืบเนื่อง จากทาง บก.ปปป. ได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้ประกอบการบ้านพักพูลวิลล่า ในพื้นที่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอสัตหีบ มีพฤติการณ์เรียกรับเงินค่าออกหนังสือรับรองสถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรม จากผู้ประกอบการธุรกิจบ้านพัก Poolvilla ในพื้นที่ โดยจะใช้วิธีการให้ผู้ประกอบการนําเงินใส่ซองจดหมายแล้วนําไปหย่อนที่ตู้รับบริจาคระบุตัวหนังสือหน้าตู้ ที่จัดเตรียมไว้ให้อ้างว่าเป็นค่าดําเนินการ ซึ่งจะคิดอัตรา บ้านพักหลังละ 15,000 บาท หากไม่ยอมจ่ายเงินดังกล่าว ก็จะไม่ได้รับการออกใบรับรองให้ หรือยื้อเวลาในการออกใบรับรองจนกว่าจะนําเงินมาจ่าย ทั้งที่โดยปกติการขอใบรับรองบ้านพัก Pool villa นั้นจะไม่มีค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด
ทางเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงจัดกำลังลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงจนทราบว่า มีการทำกันเป็นขบวนการ แบ่งหน้าที่กันทำอย่างชัดเจน อาทิ หน้าม้าทำหน้าที่พาผู้ประกอบการมาทำเรื่องขอใบรับรอง คนรับเรื่องดำเนินการ และคนนำเงินออกจากตู้บริจาค
จากการตรวจสอบรายละเอียดของเงินบริจาค พบว่า ไม่มีการแจ้งวัตถุประสงค์เปิดรับบริจาคที่ชัดเจน คล้ายกับการจัดทำขึ้นมาเพื่อใช้หลีกเลี่ยงการตรวจสอบที่ไปที่มาของเงิน อีกทั้งจากแนวทางสืบสวนเชื่อว่า ที่ผ่านมาน่าจะมีการกระทำพฤติกรรมลักษณะดังกล่าวมาแล้วหลายครั้ง จึงนำกำลังเข้าตรวจค้นภายในที่ทำการอำเภอสัตหีบ ก่อนพบตู้บริจาคเงินภายในห้องทำงานของ นายกัณฑ์พงษ์ และ น.ส.สุภาพร ตรวจสอบภายในตู้พบธนบัตรเงินสด จำนวน 28,000 บาท คอมพิวเตอร์ 1 เครื่อง และสมุดบัญชีรายชื่อผู้ยื่นขอใบอนุญาตตั้งแต่ปี 2562 ถึงปัจจุบัน จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ก่อนคุมตัวทั้งสองพร้อมกับพยานอีกราย มาสอบปากคำอย่างละเอียดยัง บก.ปปป.
จากการสอบสวน ผู้ถูกกล่าวหาให้การปฏิเสธ แต่ทางเจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากมีพยานหลักฐานการกระทำความผิดชัดเจน โดยหลังเสร็จสิ้นขั้นตอนการแจ้งข้อกล่าวหาแล้วนั้น ทางพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปปป. จะเร่งรวบรวมพยานหลักฐานสรุปสํานวนส่งต่อให้กับคณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาตามกฎหมายต่อไป พร้อมกับเชิญตัวเจ้าหน้าที่อำเภอสัตหีบมาแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมอีก 1 ราย ในภายหลังต่อไป
ทางด้าน นายธวัชชัย ศรีทอง ผวจ.ชลบุรี กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ได้รายงานเรื่องที่เกิดขึ้นให้ปลัดกระทรวงมหาดไทยรับทราบ เบื้องต้นให้นิติกรไปดูแลในรายละเอียด แต่ที่ดูจากรายงานผลการจับกุม น่าจะมีเบื้องหน้าเบื้องหลังอะไรมากกว่านี้ ก็ขอเวลาตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องทั้งหมดก่อน
ภาพ/ข่าว นิราช/นันฐพล/พิชญ์ฐญา ทิพย์ศรี
พรเทพ เขม้นเขตวิทย์ รายงานจากศูนย์รวมข่าวภาคตะวันออก