ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรีนำคณะผู้บริหารเดินทางกระชับสัมพันธ์ผู้ว่าราชการจังหวัดไพลินประเทศกัมพูชา ส่งเสริมกาค้า การลงทุน การท่องเที่ยว ความมั่นคงชายแดน กระตุ้นเศรษฐกิจหลังโควิด 19 คลี่คลาย ชายแดนจันท์คึกคัก
วันนี้ ( 24 ม.ค.66 ) ที่ศาลากลางจังหวัดไพลิน ประเทศกัมพูชา นายนายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ได้นำคณะผู้บริหารจังหวัดจันทบุรี สมาคมการค้าและการท่องเที่ยวชายแดน จันทบุรีตัวแทนผู้ประกอบการส่งออกสินค้า ผู้ผลิตสินค้าเกษตรและสินค้าแปรรูป เดินทางไปเยือนกระชับสัมพันธไมตรีระหว่างจังหวัดจันทบุรี กับผู้บริหารจังหวัดไพลิน ประเทศกัมพูชา เพื่อสานต่อความร่วมมือที่มีมายาวนาน โดยได้เข้าหารือกับ คุณหญิง บาน / เซ เร็ม มอม ผู้ว่าราชการจังหวัดไพลิน พร้อมผู้บริหารจังหวัดไพลิน และผู้ประกอบการ แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นปัญหาอุปสรรค ในการหารือครั้งนี้ จังหวัดไพลินต้องการให้จังหวัดจันทบุรีช่วยเหลือ 4 ด้านด้วยกัน ประกอบด้วย 1.เรื่องการอำนวยความสะดวกการขนส่งสินค้าทางการเกษตรจากเมืองไพลิน ผ่านจังหวัดจันทบุรี ไปยังโรงงานอุตสาหกรรมในจังหวัดอื่นๆ ของประเทศไทย และท่าเรือแหลมฉบัง โดยสินค้าทางการเกษตรที่สำคัญของกัมพูชาคือ มะม่วงแก้วละเมียด มันสำปะหลัง ข้าว ลำไย และมะนาว 2.เรื่องสะพานข้ามแดนที่จุดผ่านแดนถาวรบ้านผักกาดที่เก่าชำรุด ต้องการให้จังหวัดจันทบุรีจัดทำให้ใหม่
โดยเรื่องนี้ทางกระทรวงมหาดไทยของไทย และกระทรวงมหาดไทยของกัมพูชาได้เจรจากันแล้วและเคยมีงบประมาณเมื่อปี 2559 แต่ติดขัดเรื่องข้อกฎหมายในประเทศไทยที่เกี่ยวกับเขตแดนจึงทำให้งบตกไป ซึ่งจังหวัดจะได้ติดตามและหาแนวทางดำเนินกรต่อไป ซึ่งอาจต้องหารือกระทรวงต่างประเทศ และกระทรวงคมนาคม หรือแก้ปัญหาปรับปรุงโดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดจันทบุรี ซึ่งจะได้เร่งหาทางแก้ปัญหาร่วมกันอย่างเร่งด่วนต่อไป 4.ขอให้จังหวัดจันทบุรี อำนวยความสะดวกเรื่องแรงงานชาวกัมพูชาที่เข้ามาทำงานในจังหวัดจันทบุรี รวมไปถึงแรงงานชาวกัมพูชาที่จะกลับบ้านไปใช้สิทธิเลือกตั้งในช่วงเดือนกรกฎาคม 2566 รวมทั้งเรื่องของการบริการสาธารณสุขที่ชาวกัมพูชาจะมาใช้บริการรักษาพยาบาลในจังหวัดจันทบุรี และประเทศไทย โดยผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ยืนยันว่า ทางจังหวัดได้ดูแลแรงงานชาวกัมพูชาอย่างดี และทั่วถึงป้องกันการถูกเอารัดเอาเปรียบ และปัญหาการค้ามนุษย์ ดูแลสวัสดิการแรงงานกัมพูชาให้มีรายได้อย่างเป็นธรรมและเพิ่มขึ้น แก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงานของจังหวัดจันทบุรี รวมทั้งส่งเสริมการท่องเที่ยวให้ชาวกัมพูชาเข้ามาผักผ่อน และท่องเที่ยวในจังหวัดจันทบุรีโดยไม่ต้องใช้พาสปอร์ตมีระยะเวลา 7 วันแต่ต้องปฏิบัติถูกต้องตามข้อตกลง MOU ความร่วมมือของจันทบุรี-ไพลิน เมื่อปี พ.ศ.2553
ขณะที่บรรยากาศการเดินทางข้ามประเทศที่จุดผ่านแดนถาวรบ้านผักกาดภายหลังเปิดประเทศ เป็นไปอย่างคึกคัก นักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศได้เดินทางจากกัมพูชา เข้ามาเที่ยวในไทยผ่านจุดผ่านแดนถาวรแห่งนี้มากขึ้น ซึ่ง ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองได้อำนวยความสะดวกให้เกิดความคล่องตัว นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เดินทางมาจากกรุงพนมเปญเข้าประเทศไทยที่จุดนี้เนื่องจากเป็นเส้นทางที่เดินทางจากกรุงพนมเปญใกล้กว่าไปออกทางจังหวัดสระแก้ว และนักท่องเที่ยวต่างชาติจะเข้ามาพักค้างในไทย และท่องเที่ยวในประเทศไทยก่อนบินกลับประเทศตนเอง
ภาพ/ข่าว จรัล บรรยงคเสนา จ.จันทบุรี
พรเทพ เขม้นเขตวิทย์ รายงานจากศูนย์รวมข่าวภาคตะวันออก