08-02-66 พี่เสือ นักข่าวสงขลา คืบหน้าเรือภัทรพัณณ์เรือบรรทุกน้ำมันปาล์มที่ถูกคลื่นซัดมาเกยตื้นบริเวณชายหาดปลายแหลมสนอ่อน แหลมสมิหลาสงขลา บริษัทที่รับจ้างกู้เรือนำเรือบาสเครนขนาดใหญ่ 2 ลำมาดำเนินการนำโซ่สมอจากหัวเรือมาต่อกับสมอตัวใหญ่ เพื่อนำไปทิ้งให้ไกลจากฝั่งเพื่อยึดหัวเรือไม่ให้คลื่นตีกลับเข้าฝั่งหลังจากนั้นระดมรถแม๊คโฮร์ขุดทรายบริเวณชายหาดที่ติดลำเรือออกลึกกว่า 3 เมตร ที่ฝังตัวเรืออยู่เพื่อให้เรือลอยลำได้ คาดไม่เกินวันที่ 17 ก.พ.นี้สามารถลากเรือออกจากชายหาดได้
ความคืบหน้ากรณีเรือภัทรพัณณ์ ซึ่งเป็นเรือบรรทุกน้ำมันปาล์มขนาดใหญ่ มีขนาด 2,037 ตันกรอส ถูกคลื่นซัดมาเกยตื้นบริเวณชายหาดปลายแหลมสนอ่อน แหลมสมิหลา อ.เมืองสงขลา ซึ่งอยู่ใกล้กับเขื่อนกันทราย ปากร่องน้ำทะเลสาบสงขลาเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา
ล่าสุดในวันนี้ (ที่ 8 ก.พ.66)ทีมข่าวได้ลงพื้นที่ไปติดตามแผนการกู้เรือลำนี้ พบว่า บริเวณที่เรือภัทรพัณณ์เข้ามาเกยตื้น คลื่นลมบริเวณชายฝั่งยังมีกำลังแรงพัดเข้าหาฝั่งอยู่ตลอดเวลา เรือถูกคลื่นซัดติดอยู่ริมชายหาดและมีหาดทรายเพิ่มขึ้นมาติดลำเรือฝังในทรายริมชายหาด ในขณะนี้บริษัทที่รับจ้างกู้เรือฯได้นำเรือบาสเครน ขนาดใหญ่ 2 ลำมาดำเนินการนำโซ่สมอจากหัวเรือมาต่อกับสมอตัวใหญ่ของบริษัทที่ใช้ในการกู้เรือ เพื่อนำไปทิ้งให้ไกลจากฝั่ง เนื่องจากหัวเรือยังหันหัวเรือออกทะเลไม่ได้ชิดติดชายหาด จึงจำเป็นต้องยึดหัวเรือไม่ให้คลื่นตีกลับเข้าฝั่ง เพื่อสะดวกในการลากเรือออก โดยปล่อยโซ่สมอให้นำสมอออกไปวางห่างจากฝั่งให้ไกลที่สุด เพื่อช่วยดึงหัวเรือเอาไว้
หลังจากนั้นก็จะระดมรถแม๊คโฮร์ขุดทรายบริเวณชายหาดที่ติดลำเรือออก ให้ลึกกว่า 3 เมตร ที่ฝังตัวเรืออยู่เพื่อให้เรือลอยลำขึ้นมาได้ ในการขุดทรายบริเวณชายหาดก็คงจะต้องเร่งขุด โดยเฉพาะในช่วงที่มีคลื่นลมพัดเข้าหาฝั่ง น้ำทะเลก็จะขึ้นมาบริเวณชายหาดที่เพิ่มขึ้นมาข้างตัวเรือ โดยชุดเซาะเป็นร่องให้น้ำทะเลเข้ามาก็จะช่วยทำให้ขุดได้เร็วขึ้น คาดว่า ไม่เกินวันที่ 17 ก.พ.นี้สามารถลากเรือออกจากชายหาดได้ เนื่องจากทางบริษัทที่รับจ้างกู้เรือบรรทุกน้ำมันปาล์มลากออกจากฝั่ง โดยทำสัญญาจ้างภายใน 1 เดือน เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2566 ที่ผ่านมาและงานจะแล้วเสร็จซึ่งหมายถึงการดำเนินการลากเรือออกจากชายหาดออกสู่ทะเลภายในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2566 ตามสัญญาจ้าง นับวันนี้ก็คงเหลือเวลาอีกเพียง 9 วัน ซึ่งนับจากวันนี้ไป บริษัทที่รับจ้างก็คงจะเร่งดำเนินการไปตามแผนงานในการลากเรือออกจากชายหาดให้ตามเวลาที่กำหนด เนื่องจากบริษัทที่มากู้เรือมีความชำนาญในการกู้เรือบริเวณนี้มาแล้ว
เรือภัทรพัณณ์ มาเกยตื้นบริเวณชายหาดปลายแหลมสนอ่อน ตั้งแต่วันที่ 18 ธันวาคม 2565 จนถึงวันนี้เป็นเวลา 51 วัน และบนเรือมีลูกเรือประจำอยู่บนเรือ จำนวน 11 คน
สำหรับแผนการกู้เรือภัทรพัณณ์ ตามแผนงานที่วางไว้ โดยจะใช้เรือดูดทรายทำการดูดทรายที่บริเวณน้ำลึกที่ประมาณ 4 เมตร ทำร่องน้ำเข้าไปหาตัวเรือที่เกยตื้นชายหาด ให้มีความลึกตลอดร่องน้ำที่ 4 เมตร มีความยาว 500 เมตร และมีความกว้างร่องน้ำ 18 เมตร เพื่อเป็นร่องสำหรับนำเรือออก หลังจากนั้นใช้รถแบ็กโฮ 2 คัน พร้อมทั้งเรือแม๊คโฮร์ 2 ลำ ทำการขุดรอบเรือที่เกยชายหาด จนกระทั่งให้มีน้ำเลี้ยงโดยรอบเรือ และให้เรือลอยขึ้นด้วยตัวเอง
เมื่อเรือลอยแล้ว ก็นำเชือกมาผูกกับหัวเรือภัทรพัณณ์ ให้เรือบาสเครนขนาดใหญ่ 2 ลำ ทำการลากเพื่อหมุนหัวเรือออกสู่ทะเล ในขณะเดียวกัน ก็ยังคงใช้เรือแบ็กโฮ 2 ลำ ช่วยทำการขุดรอบๆ ตัวเรือ จนกระทั่งหัวเรือหมุนออกสู่ทะเล และเข้าไปในร่องน้ำที่ทำการขุดไว้ด้วยเรือขุดหัวสว่าน แล้วให้เรือบาสเครนทั้ง 2 ลำ ลากเรือออกสู่น้ำลึก และทิ้งสมอในจุดที่ปลอดภัยต่อไป หลังจากนั้นจะมีนักประดาน้ำลงไปตรวจสอบเช็กสภาพใต้ท้องเรือว่ามีความเสียหายใดๆ เกิดขึ้นบ้างหรือไม่ สำหรับร่องน้ำที่ขุดนำเรือออกก็จะทำการปรับพื้นทรายให้กลับเข้าสู่สภาพเดิมทันที โดยใช้เวลาตามแผนงานที่กำหนดไว้