ข่าวทั่วไปข่าวพาดหัวตรวจสอบ

เสรีฯสั้งสอบเจ้าหน้าที่รัฐเอี้ยวรุกที่ดินทำกินบีบให้เป็นทางสาธารณะในโครงการหมู่บ้านสหกรณ์ห้วยสัตว์ใหญ่ฯจ.ประจวบฯ

เสรีฯสั้งสอบเจ้าหน้าที่รัฐเอี้ยวรุกที่ดินทำกินบีบให้เป็นทางสาธารณะในโครงการหมู่บ้านสหกรณ์ห้วยสัตว์ใหญ่ฯจ.ประจวบฯ

18 ก.พ.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางฐิภาพรรณ เกษหอม ชาวบ้านป่าละอู อ.หัวหิน จ.ประจวบฯ พร้อมสามี ร้องศูนย์สภาองค์กรของผู้บริโภคประจวบฯ ถูกเจ้าหน้าที่รัฐของศูนย์ประสานงานตามโครงการพระราชประสงค์หมู่บ้านสหกรณ์ห้วยสัตว์ใหญ่ป่าละอู บีบรุกที่ดินทำกินให้เป็นทางสาธารณะหวังช่วยนายหน้าค้าที่ดินหลุดจำนองนำไปขายนายทุน เนื่องจากที่ดินทำกินตามโครงการพระราชประสงค์ห้วยสัตว์ใหญ่ ป่าเด็ง ป่าละอู กว่า 40,000 ไร่ มีนางฐิภาพรรณ เกษหอม ได้รับสิทธิ์ครอบครองในที่ดินพื้นที่ 5 ไร่ 86 ตารางวา ใช้ประกอบอาชืพชาวสวนปลูกพืชผลทางการเกษตรทำกินมาโดยตลอด ระหว่างที่นางทัศนีย์ ดำดง พื้นที่ข้างเคียงได้รับสิทธิ์ครอบครองที่ดินพื้นที่ 7 ไร่ หลังหลุดจำนองนายหน้านำไปขายสิทธิ์ให้นายทุนใหญ่ในกรุงเทพฯ แต่ยังขาดที่ดินบางส่วนตามข้อตกลง นายทุนจึงขอคืนเงินหากที่ดินไม่ครบตามจำนวนพื้นที่ 7 ไร่


นางฐิภาพรรณ เล่าว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังจากมีข้อพิพาทในพื้นที่ทำกินตนก็เสียสิทธิ์การขอใช้หม้อไฟเพื่อการเกษตรกับหน่วยงานรัฐถูกบ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด ชื่อว่าอาจมีเจ้าหน้าที่รัฐบางรายมีการร่วมขบวนการหวังให้ตนยินยอมเรื่อนแนวเขตให้ จากนั้นมีการแจ้งหนังสือเข้าสำรวจพื้นที่พิพาทดังกล่าว หวังบีบให้ถอยแนวเขตหมุดเดิมเข้าที่ตนเองประมาณ 1 เมตร ตลอดแนวเขต เพื่อดันให้เป็นทางสาธารณะประโยชน์ แต่ตนไม่ยินยอม กลุ่มเจ้าหน้าที่บางลายมีการบังคับขู่เข็น ข่มขู่ ร่วมมือหาทางให้ เซ็นยินยอมเลื่อนหมุดแนวเขตเดิมมาโดยตลอด

ต่อมาคณะทำงานสภาองค์กรของผู้บริโภคประจวบฯลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ทราบว่า ที่ดินทำกินตามโครงการพระราชประสงค์ห้วยสัตว์ใหญ่ ป่าเด็ง ป่าละอู กว่า 40,000 ไร่ มีนางฐิภาพรรณ เกษหอม ได้รับสิทธิ์ครอบครองในที่ดินพื้นที่ 5 ไร่ 86 ตารางวา ติดกับนางทัศนีย์ ดำดง ที่ข้างเคียงที่หลุดจำนองข่ายสิทธิ์ให้นายทุนใหญ ใช้ปลูกทุเรียนไว้เต็มพื้นที่ 7 ไร่ โดยมีการปักเสาไฟฟ้ากันเขตยาวตลอดแนวเพื่อกันให้เป็นทางสาธารณะความกว้าง 4 เมตร ทราบว่าเจ้าหน้าที่จากศูนย์ประสานงานตามโครงการพระราชประสงค์มีหนังสือเชิญนางฐิภาพรรณ เกษหอม เข้าร่วมชี้แนวเขตพื้นที่ทำกินตามโครงการพระราชประสงค์ อีกครั้งโดยการเดินสำรวจหาหลักหมุดเดิมเพื่อหาแนวเขตด้วยพิกัดจีพีเอส ก่อนจะมีการรางวัดใหม่ จึงทราบว่ามีเจ้าหน้าที่บางลายมีความพยายามชี้จุดหมุดใหม่โดยการเปลี่ยนแปลงหมุดเดิมโดยไม่มีการแจ้งให้ทราบ อ้างว่าเป็นการเดินสำรวจใหม่ โดยไม่นำแผนที่ระวางที่ดินหรือระวางต้นจากกรมธนารักษ์ ที่จะสามารถบ่งบอกถึงอณาเขตการครอบครองที่ดินโดยรวม มีเพียงการจับพิกัดจีพีเอสโดยสังเขปเพื่อหาจุดปักหลักหมุดใหม่ ระหว่างที่หลักหมุดเดิมที่กรมธนารักษ์สำรวจรางวัดไว้หลายปีก่อน ยังคงปักอยู่ที่เดิม จากนั้นนางฐิภาพรรณและสามีจึงเดินทางไปแจ้งความไว้เป็นหลักฐานพร้อมชี้หลักหมุดเดิมที่พบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจรับทราบ

นายเสกสรรค์ จันทร ประธานเคลือข่ายสภาองค์กรของผู้บริโภคจังหวัดประจวบฯกล่าวว่า หลังมีหนังสือจากพลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์
เตมียเวส ประธานคณะกรรมมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร ส่งถึง ผอ.ศูนย์ประสานงานตามโครงการพระราชประสงค์ห้วยสัตว์ใหญ่ฯ กรณีให้ตรวจสอบเจ้าหน้าที่ของรัฐละเว้นไม่ดำเนินการกับบุคคลที่สวมสิทธิ์ เข้าใช้ประโยชน์ในที่ดินดังกล่าว ซึ่งกรณีพิพาทในที่ดินตามโครงการพระราชประสงค์กว่า 40,000 ไร่ ในโครงการหมู่บ้านสหกรณ์ห้วยสัตว์ใหญ่ ป่าเด็ง ป่าละอู หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องรับผิดชอบดำเนินการตรวจสอบที่ดินทุกแปลงเพื่อหาเจ้าของสิทธิ์ตัวจริง และดำเนินการจัดระเบียบ ให้เป็นไปตามพระราชประสงค์ของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่พรงมีพระราชดำริฯพระราชทานที่ดินให้ครอบครัวยากไร้ ได้มีที่ทำกินใช้ในการเกษตรครอบครัวระ 23 ไร่ โดยห้ามขายห้ามโอนกรรมสิทธิ์แก่ผู้อื่น แต่ผู้ครอบครองสิทธิ์บางราย นำที่ดินดังกล่าวไปซื้อขายเปลี่ยนมือให้นายทุนเข้าครอบครอง บางรายนำไปจำนองกับนายทุนจนหลุด ทำให้มีข้อพิพาทเกิดขึ้นระหวางที่ข้างเคียงบ่อยครั้ง เพราะเนื่องจากที่ดินส่วนใหญ่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ มีแต่ใบผู้เสียภาษีบำรุงท้องที่ใช้เป็นหลักฐานในการซื้อขาย ทั้งที่ดินเหล่านี้ไม่สามารถซื้อขายได้


พิสิษฐ์ รื่นเกษมขาวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์โทร 099-339-6444