ศาลปกครองเพชรบุรีตรวจน้ำเสียลงอ่าวประจวบฯ
18 ก.พ.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่16 ก.พ.66 คณะตุลาการศาลปกครองเพชรบุรีลงพื้นที่เทศบาลเมืองประจวบฯ กรณีชาวบ้านฟ้องศาลปกครองเพชรบุรีขอให้ศาลมีคำสั่งทางปกครอง สั่งปิดปากท่อระบายน้ำบริเวณชายหาดอ่าวประจวบฯตั้งแต่รอยต่อหน้ากองบิน 5 ถึงด้านหน้าสำนักงานองค์การบริหารส่วนจังหวัดประจวบฯ เนื่องจากพบว่าน้ำจากชุมชนบางส่วนไม่ได้ไหลผ่านท่อ แต่น้ำเสียได้ไหลลงชายหาดริมทะเลอ่าวประจวบฯโดยไม่ผ่านการบำบัด ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและการท่องเที่ยวของจังหวัดฯที่ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกันมีผลกระทบเป็นวงกว้าง
ความคืบหน้าล่าสุด หลังจากมีหนังสีอแจ้งคำสั่งศาลถึงนายชัยสิทธิ์ ปลั่งศรีสกุล ที่ปรึกษาด้านกฎหมายภาคประชาชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันลงพื้นที่ตรวจสอบสถานที่พิพาทกรณีดังกล่าวตั้งแต่หน้ากองบิน 5 ถึงด้านหน้าสำนักงานองค์การบริหารส่วนจังหวัดประจวบฯ รวมถึงระบบระบายน้ำ และบ่อบำบัดน้ำเสีย บริเวณด้านหลังวัดธรรมิการามวรวิหารใกล้เขาช่องกระจก เพื่อนำประกอบคดีว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ.2543
นายเสกสรรค์ จันทร กล่าวว่า คดีน้ำเสียไหลลงทะเลชายหาดอ่าวประจวบฯโดยไม่ผ่านการบำบัดเป็นปัญหาใหญ่ที่หมักหมมมานานนับปี จนระบบนิเวศบริเวณอ่าวประจวบฯเริ่มเสื่อมโทรม สิ่งมีชีวิตบางอย่างเริ่มหายไปส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทางทะเล และการท่องเที่ยวของจังหวัดฯที่ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกัน ทั้งนี้หากศาลท่านมีคำสั่งปิดท่อระบาย บริเวณหน้าอ่าวริมชายหาดทุกจุด เพื่อให้น้ำเสียผันลงท่อเขาสู่กระบวนการบำบัดอย่างถูกต้อง สิ่งแวดล้อมบริเวณชายหาดคงกลับมาเป็นหาดทรายที่สวย แต่อาจต้องใช้เวลาในการฟื้นฟูให้กลับมาสวยเช่นเดิม//////////
พิสิษฐ์รื่นเกษมข่าวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์โทร 099-339-6444 รายงาน
