ข่าวทั่วไป

ตำรวจบุกรวบ 2 ผัวเมีย เครือข่ายขบวนลำเลียงยาเสพติดรายใหญ่จากภาคเหนือเพื่อนำมาจำหน่ายแพร่กระจายภาคกลางและภาคใต้ พร้อมของกลางรวมมูลค่าเกือบ 120 ล้านบาท

ตำรวจบุกรวบ 2 ผัวเมีย เครือข่ายขบวนลำเลียงยาเสพติดรายใหญ่จากภาคเหนือเพื่อนำมาจำหน่ายแพร่กระจายภาคกลางและภาคใต้ พร้อมของกลางรวมมูลค่าเกือบ 120 ล้านบาทให้

ตามนโยบายรัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี/รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เน้นการแก้ไขปัญหายาเสพติด ทั้งระบบด้วยการสืบสวนขยาย

ผลและวิเคราะห์ความเชื่อมโยงเครือข่ายของนักค้ายาเสพติด อย่างรู้เท่าทัน เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาตั้งแต่ต้นทาง –

กลางทาง – ปลายทาง ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.,พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร.

,พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผช.ผบ.ตร. จึงสั่งการให้ ให้มีการสืบสวนสอบสวนขยายผลจากกรณีจับกุมยาเสพติดราย

สำคัญทุกราย รวมถึงวิเคราะห์ความเชื่อมโยงไปถึงกลุ่มผู้ผลิต นำเข้า ผู้ลำเลียง ผู้จัดเก็บ ผู้จำหน่าย และสกัดกั้นการ

ลำเลียงยาเสพติดจากแนวชายแดนเข้ามาถึงพื้นที่ตอนใน

เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผวจ.พระนครศรีอยุธยา พล.ต.ต.ชยานนท์ มีสติ ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา นายประสาร หยงสตาร์ ผอ.ปปส.ภาค 1 ร่วมกันแถลงข่าวผลการสกัดกันจับกุม เครือข่างลำเลียงจากภาคเหนือ รายใหญ่ในพื้นที่ภาคกลาง จนนำไปสู่การสืบสวนจับกุมผู้ต้องหา จำนวน 2 ราย 2 สามี ภรรยา ได้แก่ นายอัตถสิทธิ์ หรือ เอฟ ดวงเกิด อายุ 32 ปี ทำหน้าที่ขับรถลำเลียงยาเสพติด น.ส.สุภิญญา หรือ นุ่น จันทร อายุ 35 ปี ทำหน้าที่ขับรถนำสำรวจเส้นทางการลำเลียงยาเสพติด ได้พร้อมของกลาง ยาบ้าจำนวน 1,900 มัด ประมาณ 3,800,000 เม็ด วางอยู่ภายในรถยนต์อเนกประสงค์ ยี่ห้อ เชฟโลเลท เทเบลเชอร์ สีบรอนซ์เทา ที่มีนาย อัตถสิทธิ์ หรือ เอฟ ( สามี ) เป็นคนขับ พร้อมยืดรถยนต์อเนกประสงค์ มิตซูบิชิปาเจโร่ ที่มี น.ส.สุภิญญา หรือ นุ่น ( ภรรยา ) เป็นคนขับรถนำเพื่อคอยสำรวจเส้นทาง ร่วมมูลค่าการจับกุมในครั้งนี้กว่า 114,000,000 ล้านบาท

พระนครศรีอยุธยา นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผวจ.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้สืบสวนขยายผล จากการจับกุมคดียาเสพติดที่ยึดของกลางได้เป็นจำนวนมากหลายคดี ทำให้ทราบว่า นายอัตถสิทธิ์ฯ กับพวกทำหน้าที่ลำเลียงยาเสพติด จากพื้นที่ภาคกลางเพื่อนำไปส่งมอบให้กับนักค้า ยาเสพติดในพื้นที่ภาคใต้หลายครั้ง จากการสืบสวนเพิ่มเติมทำให้ทราบว่าในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ 2566 นายอัตถสิทธิ์ฯ กับพวกจะลักลอบเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ภาคกลางเพื่อนำมาส่งมอบให้กับเครือข่ายยาเสพติดในพื้นที่ภาคใต้ เจ้าหน้าที่กำลังไปสืบสวนติดตามนายอัตถสิทธิ์ฯ กับพวก

จนกระทั่งวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2566 เวลาประมาณ 21.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ และทหาร ได้สะกดรอย ติดตามพบว่า นายอัตถสิทธิ์ หรือ เอฟฯ ได้ขับรถบรรทุกฯ และ น.ส.สุภิญญา หรือนุ่นๆ ได้ขับรถยนต์ยี่ห้อมิตซูบิชิ ปาเจโร่ฯ โดย

น.ส.สุภิญญา หรือนุ่นฯ ได้ขับตาม นายอัตถสิทธิ์หรือเอฟ ฯ โดยรถยนต์ทั้งสองคัน ได้ใช้เส้นทาง บ้านนา – แก่งคอย

อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี เมื่อเดินทางมาถึงบริเวณถนนบายพาส ตำบลกุดนกเปล้า อำเภอเมือง จังหวัดสระบุรี นายอัตถสิทธิ์หรือเอฟฯ ได้ขับรถบรรทุกเข้าไปในซอยวัดกุดนกเปล้า โดยที่ น.ส.สุภิญญาหรือนุ่นฯ ไม่ได้ขับตามเข้าไป หลังจากนั้นประมาณ 10 นาที นายอัตถสิทธิ์หรือเอฟฯ ได้ขับรถบรรทุกออกมาจากซอย จากนั้นน.ส.สุภิญญาหรือนุ่นฯ ได้ขับรถยนต์ยี่ห้อมิตซูบิชิ ปาเจโร่ฯ ขึ้นแซงนำหน้านายอัตถสิทธิ์หรือเอฟฯ โดยขับขี่มาบนถนนบายพาสเลี่ยงเมืองสระบุรี ทิศทางมุ่งหน้า จังหวัดลพบุรี

ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารที่สะกดรอย ติดตาม ได้ประสานร้อยเวรสายตรวจรถยนต์ สภ.เมืองสระบุรี หยุดรถบรรทุก

จากนั้นนายอัตถสิทธิ์หรือเอฟฯ ได้หยุดรถ พบ น.ส.สุภิญญาหรือนุ่นฯ เป็นผู้ขับขี่รถยนต์มิตซูบิชิ ปาเจโร่ฯ จึงได้แสดง ความประสงค์เพื่อขอทำการตรวจค้นบุคคลและรถทั้งหมด ผลการตรวจค้นไม่พบสิ่งของผิดกฎหมายแต่อย่างใด แต่พบกุญแจรถยนต์ยี่ห้อเซฟ อยู่ภายในกระเป๋าถือ ของน.ส.สุฏิญญาหรือนุ่นฯ และนายอัตถสิทธิ์หรือเอฟฯ ได้ให้การว่าคือ

กุญแจรถยนต์ยี่ห้อเซฟ โลเลท สีบรอนซ์เทา และได้ให้การว่าภายในรถยนต์ฯ คันดังกล่าว มียาเสพติดจำนวนมากซุก

ช่อนอยู่ และทั้งสองคน ได้เอาไปซ่อนไว้ภายในบ้านเลขที่ 22 หมู่ 2 ตำบลคลองน้อย อำเภอบ้านแพรก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นบ้านของน้า น.ส.สุฏิญญา หรือนุ่นฯ และทั้งสองคนยินดีและเต็มใจนำพาไปตรวจยึด

ยาเสพติดดังกล่าว จากการตรวจค้นพบยาบ้าทั้งหมดจำนวน 19 กระสอบ รวมยาข้าจำนวน 1,400 มัด ประมาณ 3,800,000เม็ด ซุกช่อนอยู่ภายในรถยนต์ยี่ห้อ เชฟโลเลท เทเบลเชอร์ สีบรอนซ์เทา ฯ จึงจับกุมตัว น.ส. สุภิญญา หรือนุ่นฯ และนายอัตถสิทธิ์ หรือเอฟฯ โดยกล่าวหาว่า “ ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยเป็นการกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน ” จึงนำตัวส่ง พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรบ้านแพรก เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

จากนี้ จะได้ขยายผลไปตรวจยึดทรัพย์สินที่เชื่อว่าเกี่ยวเนื่องกับการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดของ นายอัตสิทธิ์ฯ กับพวก ในพื้นที่ จังหวัดลพบุรี โดยยึดทรัพย์สินไว้เพื่อทำการตรวจสอบเป็นทองรูปพรรณ,รถยนต์กระบะ,รถจักรยานยนต์ และถังปั๊มลมฟฟ้า รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ตรวจยึดประมาณ 4 ล้านบาท รวมทั้งสิ้นประมาณ 118,000,000 ล้านบาท ซึ่งจะได้มีการตรวจสอบทรัพย์สินและเส้นทางการเงินของเครือข่ายยาเสพติดนี้จนถึงที่สุดต่อไป