ข่าวพาดหัวจับกุม

เจ้าหน้าที่ศุลกากรภาคที่4 ได้จับกุมเนื้อสุกรแช่แข็งจำนวน3 หมื่นกิโลกรัมหรือ30 ตันมูลค่า6 ล้านบาทซึ่งมีถิ่นกำเนินจากประเทศบราซิล ขณะลักลอบขนเข้ามากับตู้คอนเทนเนอร์ทางด่านพรมแดนสะเดา เร่งขยายผลที่มาและปลายทาง และเป็นครั้งแรกที่มีการจับกุมล๊อตใหญ่ขนาดนี้

 

เจ้าหน้าที่ศุลกากรภาคที่4 ได้จับกุมเนื้อสุกรแช่แข็งจำนวน3 หมื่นกิโลกรัมหรือ30 ตันมูลค่า6 ล้านบาทซึ่งมีถิ่นกำเนินจากประเทศบราซิล ขณะลักลอบขนเข้ามากับตู้คอนเทนเนอร์ทางด่านพรมแดนสะเดา เร่งขยายผลที่มาและปลายทาง และเป็นครั้งแรกที่มีการจับกุมล๊อตใหญ่ขนาดนี้

วันนี้(23ก.พ.66) นายยุทธนา พูลพิพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรภาคที่4 แถลงข่าวการจับกุมเนื้อสุกรแช่แข็ง 30,000 กิโลกรัม หรือ 30 ตัน มูลค่า 6 ล้านบาท ซึ่งลักลอบนำเข้ามาจากต่างประเทศ

และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนและปราบปรามสำนักงานศุลกากรภาคที่ ร่วมกับด่านศุลกากรสะเดา หน่วยสืบสวนปราบปรามสงขลา และหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่5 ร่วมกันจับกุมได้เมื่อวานนี้(22ก.พ.66)

ขณะลักลอบขนมากับรถบรรทุกหัวลากผ่านทางด่านพรมแดนสะเดา บรรจุไว้ในตู้คอนเทนเนอร์ที่สามารถควบคุมอุณหภูมิภายในตู้ได้ และขนถ่ายต่อให้รถบรรทุกอีกคันที่บริเวณลานขนถ่ายสินค้า พื้นที่หมู่ 2 ต.สำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา ตำบลสำนักขาม อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา

จากการตรวจสอบพบว่าเป็นเนื้อสุกรแช่แข็งที่มีถิ่นกำเนิดประเทศบราชิล และไม่พบเอกสารเกี่ยวกับการผ่านพิธีการศุลกากร เอกสารใบอนุญาตนำเข้าหรือเอกสารอื่นที่เกี่ยวข้องในการปฏิบัติพิธีการศุลกากร

นายยุทธนา พูลพิพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรภาคที่4 เปิดเผยว่าเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบที่มาที่ไปของเนื้อสุกรแช่แข็งที่ยึดได้ โดยได้ควบคุมตัวคนขับรถและขยายผลไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องกับการลักลอบนำเข้าและปลายทางที่จะนำไปส่ง

และเป็นการจับเนื้อสุกรแช่แข็งล๊อตใหญ่ครั้งแรกที่ลักลอบนำเข้ามาทางด่านพรมแดนสะเดา โดยที่ผ่านมามักจะใช้วิธีซุกซ่อนมากับสินค้าอื่นๆซึ่งมีการจับกุมได้หลายครั้ง ส่วนเนื้อสุกรแช่แข็งก็จะส่งต่อให้กรมปศุสัตว์เพื่อนำไปทำลายต่อไป

พี่เสือ นักข่าวสงขลา