01-03-66 พี่เสือ นักข่าวสงขลา
เรือภัทรพัณณ์ เรือบรรทุกน้ำมันปาล์มออกเดินทางกลับ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี หลังเจ้าหน้าที่สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสงขลาทำการตรวจสอบสภาพเรือเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยเรือมีความพร้อมในการเดินเรือเดินทางในทะเลได้อย่างปลอดภัย และออกเดินทางกลับบริษัทต้นสังกัด หลังจากติดเกยตื้นมาเป็นเวลานานกว่า 2 เดือน โดยออกจากบริเวณเกาะหนูเดินทางกลับแล้ววันนี้
จากกรณีที่ เรือภัทรพัณณ์ ซึ่งเป็นเรือบรรทุกน้ำมันปาล์ม ขนาดใหญ่ 2,037 ตันกรอส ถูกคลื่นลมแรงในทะเลอ่าวไทยซัดมาเกยตื้นที่บริเวณชายหาดแหลมสนอ่อน แหลมสมิหลา อ.เมืองสงขลา ใกล้กับเขื่อนกั้นทราย ปากร่องน้ำทะเลสาบสงขลา เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2565 ที่ผ่านมาและติดเกยตื้นนานกว่า 2 เดือน และในวันที่ 21 ก.พ.66 ทำการลากเรือมาเข้าร่องน้ำธรรมชาติได้สำเร็จ และนำเรือมาจอดทอดสมอ หลบคลื่นลมแรงบริเวณหลังเกาะหนูเพื่อรอตรวจสอบสภาพเรือ ก่อนที่จะเดินทางกลับ
หลังจากนั้น นายอานุภาพ คงทอง รักษาการผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสงขลา ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฯไปดำเนินการตรวจสอบเรือภัทรพัณณ์ เรือบรรทุกน้ำมันปาล์มที่จอดหลบคลื่นบริเวณเกาะหนู โดยทำการตรวจสภาพตัวเรือ เครื่องจักรใหญ่ ระบบหางเสือเรือ และอุปกรณ์เครื่องช่วยในการเดินเรือให้มีความพร้อมในการเดินเรือเพื่อให้เรือเดินทางในทะเลได้อย่างปลอดภัย
ในขณะเดียวกันในช่วงวันที่ 25 – 28 กุมภาพันธ์ 2566 ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก ได้ออกประกาศเตือนเรื่องคลื่นลมแรงในอ่าวไทย ความสูงของคลื่น 2 ถึง 4 เมตร ทำให้เรือภัทรพัณณ์ เรือบรรทุกน้ำมันปาล์ม ต้องจอดหลบคลื่นต่อไปอีก ที่บริเวณเกาะหนูเหมือนเช่นเดิม แม้ว่าจะได้ทำการตรวจเรือเสร็จเรียบร้อยแล้วพร้อมที่จะเดินทางกลับแล้วก็ตาม แต่มาติดคลื่นลมแรงจำเป็นต้องจอดทอดสมอต่อไปอีก 4 วัน
และในวันนี้ที่ 1 มีนาคม 2566 คลื่นลมในทะเลบริเวณชายฝั่งจังหวัดสงขลาลดความรุนแรงลง แต่ก็ยังมีคลื่นอยู่ ทำให้เรือภัทรพัณณ์สามารถเดินทางออกจากบริเวณเกาะหนูเดินทางกลับไปยังบริษัทต้นสังกัดที่อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรีได้ในวันนี้ หลังจากเรือภัทรพัณณ์ ถูกคลื่นลมแรงในทะเลอ่าวไทยซัดมาเกยตื้นที่บริเวณชายหาดแหลมสนอ่อน แหลมสมิหลา อ.เมืองสงขลา ใกล้กับเขื่อนกั้นทราย ปากร่องน้ำทะเลสาบสงขลา มาติดเกยตื้นนานกว่า 2 เดือน
