สืบสวนธรรมศาลาจับแก๊งตระเวนลักฝาท่อระบายน้ำส่งขายร้านของเก่าได้ชิ้นละ 500-600 บาท
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 2 มี.ค. พ.ต.อ.กฤติเดช จันทร์เพชร ผกก.สน.ธรรมศาลา พร้อมกำลังฝ่ายสืบสวนร่วมกันจับกุมตัว นายสุรินทร์ ใจอารี อายุ 46 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาตลิ่งชันที่ จ.107/2566 ลงวันที่ 1 มี.ค.66 ข้อหา ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยร่วมกันกระทำความผิดตั้งแต่สองคนขึ้นไปซึ่งทรัพย์ที่ใช้หรือมีไว้เพื่อสาธารณประโยชน์ โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม พร้อมของกลาง รถกระบะบรรทุกตอนครึ่งยี่ห้อ TOYOTA สีดำ ทะเบียน บม 4706 สระแก้ว 1 คัน ชะแลงเหล็ก 1 ด้าม เสียมเหล็ก 1 ด้าม ตะขอเหล็กเกี่ยว 1 ด้าม เสื้อกั๊กแทบสะท้อนแสง 1 ตัว และหมวกแกร็บสีดำ 1 ใบ โดยตามจับกุมได้ที่ถนนอุทยาน แขวงและเขตทวีวัฒนา กทม.เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 1 มี.ค.ที่ผ่านมา
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 10 ก.พ.66 พนักงานสอบสวน สน.ธรรมศาลา ได้รับแจ้งจาก นายองอาจ อินทรบุญสม ผู้รับมอบอำนาจจากบริษัทสำนักงานระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร ว่าฝาท่อระบายน้ำชนิดเหล็กของสำนักงานระบายน้ำฯ ถูกคนร้ายไม่ทราบว่าเป็นผู้ใดลักไปจำนวนหลายจุดในเขตรับผิดชอบของ สน.ธรรมศาลา และพื้นที่ใกล้เคียง ต่อมาเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนจึงเร่งติดตามผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดและสอบถามพยาน จนทราบชื่อคนร้ายที่ร่วมกันก่อเหตุจำนวน 3 คน คือ นายสุรินทร์ ผู้ต้องหารายนี้ พร้อมด้วย นายศรายุทธ ทรัพย์สุนทร อายุ 36 ปี ผู้ต้องหาที่ยังหลบหนี และ นายโสภณ คงสวัสดิ์ อายุ 36 ปี ซึ่งถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้
จากการสอบสวน นายสุรินทร์ ยอมรับว่า ปกติขับรถกระบะรับจ้าง ปัจจุบันตกงานไม่มีงานทำพักอาศัยห้องเช่ารายวันในพื้นที่บางบัวทอง จ.นนทบุรี จึงวางแผนพาเพื่อนๆ คือ นายศรายุทธ และนายโสภณ นั่งรถกระบะไปตระเวนลักฝาท่อระบายน้ำและทรัพย์สินชาวบ้าน อาทิ เครื่องมือทางการเกษตรตามข้างถนนตั้งแต่พื้นที่ สน.ตลิ่งชัน พื้นที่ สน.ศาลาแดง พื้นที่ สน.ธรรมศาลา และพื้นที่ สภ.ปลายบาง จ.นนทบุรี โดยตนจะเลือกลักทรัพย์ในสถานที่ที่ไม่มีกล้องวงจรปิดเเละสถานที่มืดไม่มีเเสงไฟส่องสว่าง ตั้งแต่วันที่ 10 ก.พ.ที่ผ่านมา ช่วยกันลงมืองัดฝาท่อและตะแกรงเหล็กปิดท่อไปขายให้ร้านของเก่าย่านพุทธมณฑล สาย 4 แล้วจำนวน 40 ชิ้น ได้ชิ้นละ 500-600 บาท นำเงินมาแบ่งปันกันใช้จ่าย
เบื้องต้นจึงแจ้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยร่วมกันกระทำความผิดตั้งแต่สองคนขึ้นไปซึ่งทรัพย์ที่ใช้หรือมีไว้เพื่อสาธารณประโยชน์ โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม แก่ นายสุรินทร์ ก่อนติดตามตัวผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.
โชติกา ม่วงใจรักษ์ ผู้สื่อข่าว กทม.