ไฟไหม้ใต้ถุนบ้านร้างชาวบ้านแตกตื่นทั้งซอย คาดว่ามีคนแอบเข้าไปอยู่อาศัย ย่านราษฎร์บูรณะ
วันที่ 4 มีนาคม 2566
เวลา 21.20 น.
พันตำรวจโท อรรถกานต์ จูมพลา สว.สอบสวน สน.ราษฎร์บูรณะ รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน ภายในซอย ราษฎร์บูรณะ 30 จึงรีบรุดจัดกำลังพร้อมประสาน เจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงและกู้ภัย ราษฎร์บูรณะ และ อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู , อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน ( อปพร.เขตราษฎร์บูรณะ ) เร่งรัดตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ และ อาสาสมัคร มาถึงที่เกิดเหตุพบจุดเกิดเหตุอยู่บริเวณใต้ถุนอาคาร เลขที่ 43 ซอย ราษฎร์บูรณะ 30 ถนน ราษฎร์บูรณะ แขวง ราษฎร์บูรณะ กรุงเทพมหานคร เป็นลักษณะอาคารชั้นเดียว มีรั้วรอบขอบชิด พบแสงเพลิงและกลุ่มควันจำนวนมากพวยพุ่งออกมาจากบริเวณใต้ถุนอาคารดังกล่าว เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและอาสาสมัคร จึงรีบรุดจัดวางหัวฉีดน้ำและเร่งระดมฉีดน้ำเพื่อระงับเหตุการณ์ทันที ใช้เวลาประมาณ 20 นาที จึงระงับเหตุการณ์ดังกล่าวเอาไว้ได้ แล้วเข้าไปตรวจสอบด้านในอาคาร ไม่พบผู้พักอาศัยอยู่ภายใน จากการตรวจสอบพื้นที่อย่างละเอียดแล้ว ไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว
จากการสอบถามจากเจ้าของอาคารหลังดังกล่าวทราบว่า อาคารหลังนี้ใช้เป็นที่เก็บของ แต่มีคนงานคอยเฝ้าอยู่และคนงานผู้เฝ้าอาคารหลังนี้ไม่ได้พักอาศัยอยู่ข้างใน รู้ว่ามีเหตุไฟไหม้อาคารโกดังเก็บของๆตนเองจึงรีบมาเพราะเพิ่งจะดูข่าวเหตุการณ์เมื่อเช้าที่มีเหตุเพลิงไหม้ บกน.5 จึงตกใจไม่คิดว่าจะเกิดกับตัวเอง ก็เลยรีบมาดู
ทางผู้แจ้งเหตุ บอกเล่าว่า ตนเช่าบ้านอยู่ข้างๆโกดังแห่งนี้ แล้วตนได้กลิ่นเหม็นไหม้ จึงปีนดูก็พบว่ามีควันออกมาจากใต้ถุนของอาคาร จึงรีบโทรแจ้ง ตนก็ไม่รู้ว่าเป็นโรงงานหรือโกดังเก็บอะไร เพราะตนเพิ่งมาเช่าอยู่ตรงนี้
และทางด้านคนเห็นเหตุการณ์คนแรกบอกเล่าว่า ตนอยู่บ้านข้างๆกับโกดังนี้ กำลังนั่งกันอยู่ แล้วก็ควันลอยขึ้นมาจากด้านใน ตอนแรกตนนึกว่ามาจากบ้านเช่า แต่พอมาดู อ้าวมันไม่ใช่บ้านเช่า คนที่เช่นก็วิ่งมาบอกตน ตนจึงบอกให้คนเช่าออกมากันก่อน กลัวจะลามไปทางบ้านเช่า ตนจึงรีบโทรแจ้ง 191 และ สน.ราษฎร์บูรณะ เพราะเริ่มมีไฟขึ้นมาแล้ว สักพักก็มีรถกู้ภัยมาถึง แต่ยังเข้าไปไม่ได้ เพราะประตูรั้วล๊อคอยู่ พอเจ้าหน้าที่มากันเยอะแล้วตนจึงบอกให้ตัดกุญแจเข้าไปเลย เพราะเดี๋ยวจะไหม้ลุกลามเยอะกว่านี้ ตนก็แปลกใจนะ ว่า ไม่มีคนอยู่แล้วไฟไหม้ได้ยังไง พอไฟดับถึงได้รู้ว่า ใต้ถุนมีที่นอนเก่า มีของที่ไม่ได้ใช้ไว้อยู่เต็มเลย เมื่ิอก่อนมีคนมาเช่าเก็บของ แต่ตอนนี้ก็ไม่มีใครมาเช่านานแล้วนะ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ดับเพลิงทำการตรวจสอบจุดเกิดเหตุบริเวณใต้ถุนอาคารหลังดังกล่าวซึ่งเป็นจุดของต้นเพลิงเห็นว่ามีฟูกที่นอนอยู่เป็นจำนวนมาก และเศษของเหลือใช้อยู่เป็นจำนวนมาก แต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นของผู้ใดแอบเข้ามาอยู่อาศัยบริเวณดังกล่าวหรือไม่ เพราะทางเจ้าของบ้านยืนยันว่าบ้านหลังนี้ไม่มีผู้พักอาศัยอยู่ คนดูแลอาคารก็ไม่ได้อยู่ นานๆจะเอาของมาเก็บไว้ในบ้านซักครั้งเท่านั้นเองแต่ฟูกที่นอน หรือของอื่นๆที่อยู่บริเวณใต้ถุนอาคารดังกล่าวยืนยันเลยว่าไม่ใช่ของตนเองแน่นอน จึงคาดว่าน่าจะมีคนแอบเข้ามาพักอาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าว หรือของคนที่เคยมาเช่าคนก่อน แล้วอาจจะเป็นต้นเหตุของเหตุการณ์ในครั้งนี้ก็เป็นได้เพราะตอนนี้ไม่มีใครมาเช่าเก็บของแล้ว ประตูรั้วตนก็ปิดไว้ตลอด
โชติกา ม่วงใจรักษ์ ผู้สื่อข่าว กทม.
