สระแก้ว- ขนเขมร ไม่กลัวโควิด 19 “ทหารพราน 1205 สนธิกำลัง ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้วและตำรวจภูธรคลองลึก ปฏิบัติการสกัดกั้นแรงงานต่างด้าวลักลอบข้ามชายแดน สามารถรวบ 2 คนไทยควบรถยนต์ตู้ลอบขนแรงงานต่างด้าวจากชายแดนจะไปส่งที่ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต เบื้องต้นรับสารภาพได้ค่าจ้างจากแรงงานคนละ 3,000 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงาน พันเอก เอกพงษ์ กฤตยาเกียรติชุติ ผู้บังคับชุดควบคุมกรมทหารพราน 12 (ผบ.ชค.กรม ทพ.12) สั่งการให้ พันตรีชาญ ว่องไวเมธี ผู้บังคับกองร้อยทหารพราน 1205 (ผบ.ร้อย.ทพ.1205) พันตำรวจเอก อาทิตย์ ยาแก้ว ผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้ว และ พันตำรวจเอก ฐนพงศ์ โพธิทิ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรคลองลึก ให้นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าร่วมทำการลาดตระเวนบนถนนศรีเพ็ญ ซึ่งเป็นถนนเลียบแนวชายแดนในพื้นที่ ตำบลป่าไร่ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้วมีระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร และตั้งจุดตรวจจุดสกัดตามพื้นที่เสี่ยงต่างๆในพื้นที่ เพื่อป้องกันการลักลอบข้ามชายแดนจากฝั่งกัมพูชาเข้มาในฝั่งประเทศไทยอย่างเข้มงวด
ต่อมาเจ้าหน้าที่ประจุจุดตรวจหนองสังข์ พบรถยนต์ตู้โดยสารต้องสงสัยยี่ห้อ โตโยต้า สีขาว หมายเลขทะเบียน ฮภ-1640 กทม.วิ่งเข้ามาที่จุดตรวจดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงขออนุญาตตรวจสอบอย่างละเอียด ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าภายในรถยนต์ตูดังกล่าวมีนายพรมมาลี ศรีบุญ อายุ 49 ปี บ้านเลขที่ 45 หมู่ 1ตำบลนาหินลาด อำเภอปากพลี จังหวัดนครนายกเป็นคนขับและมีนายมานะ พุกเอี่ยม อายุ อายุ 31 ปี บ้านเลขที่149 หมู่ที่.5 ตำบลนาหินลาด อำเภอปากพลี จังหวัดนครนายก นั่งมาด้านข้างของคนขับ และภายในรถยนต์ยังมีแรงงานกัมพูชานั่งโดยสารมาด้วยจำนวน 13 คนแยกเป็นชาย 8 คนหญิง3คน เด็ก 2 คน และจากการตรวจสอบแรงงานทั้งหมดพบว่าเป็นแรงงานที่ไม่มีหนังสืออนุญาตให้เดินทางเข้าประเทศไทย เจ้าหน้าที่จึงทำการจับกุมนายพรมมาลีฯและนายมานะฯพร้อมทั้งแรงงานทั้งหมดมาทำการสอบสวนและตรวจวัดอุณหภูมิความร้อนตามร่างกายตามมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเข้มงวดที่กองร้อยทหารพราน 1205
ซึ่งจากการสอบสวนนายมานะฯยอมรับสารภาพว่า ตนได้รับการว่าจ้างจากนายทูล ไม่ทราบชื่อและสกุลจริง โดยติดต่อกันทางโทรศัพท์ และเคยรู้จักกันในสมันอยู่ในเรือนจำ โดยนายทูลฯได้ว่าจ้างให้ตนไปรับแรงงานกัมพูชาที่ชายแดนจังหวัดสระแก้ว เพื่อนำไปส่งที่บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าฟิวเจอร์พาร์ครังสิต จังหวัดปทุมธานี และให้ตนไปคอยที่สถานีขนส่งผู้โดยสารอำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว โดยตนจะได้ค่าจ้าง 5,000 บาทต่อครั้ง จากนั้นตนได้ว่าจ้างในราคา 1,000 บาทให้นายพรมมาลีฯขับรถยนต์ตู่ ซึ่งเป็นรถยนต์ของภรรยาตนเดินทางพร้อมกับตนมารับแรงงานกัมพูชาที่รออยู่บริเวณบ้านหนองจาน ตำบลโนนหมากมุ่น อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว เพื่อจะนำแรงงานไปส่งที่หน้าห้างสรรพสินค้าฟิวเจอร์พาร์ครังสิต แต่ไม่สามารถเดินทางไปถึงที่หมายได้เพราะมาถูกจับเสียก่อน
ส่วนแรงงานกัมพูชาสอบสวนโดยผ่านล่ามแปลภาษากัมพูชา ทุกคนยอมรับสารภาพว่า ในประเทสกัมพูชาไม่มีงานทำประชาชนเริ่มอดยากไม่มีอาหารกิน พวกตนจึงชักชวนกันเดินทางเข้ามาหางานทำในประเทศไทย แต่ไม่สามารถเดินทางเข้ามาในประเทศไทยแบบถูกกฎหมายได้ จึงพากันลักลอบข้ามชายแดนทางช่องทางธรรมชาติในเวลากลางคืน โดยมีนายหน้าชาวกัมพูชาเป็นคนพาลักลอบข้ามชายแดน ซึ่งพวกตนจะต้องจ่ายเงินให้คนนำพา รวมทั้งเป็นค่ารถยนต์เดินทางด้วยคนละ 3,000 บาท หลังสอบสวนเสร็จ เจ้าหน้าที่ได้นำตัวสองผู้ต้องหาคนไทยและแรงงานกัมพูชาทั้งหมดให้พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรอรัญประเทศดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
นายยุทธนา พึ่งน้อย / ผู้สื่อข่าวจังหวัดสระแก้ว