นราธิวาส-พรรคประชาชาติจัดประชุมใหญ่สามัญประจำปีพรรคประชาชาติ “วันนอร์-ทวี” นำทัพ สู้ศึกเลือกตั้ง ‘66
วันนี้ (11 มีนาคม 2566) ผู้สื่อข่าวรายงานจากห้องประชุมนราทัศน์ฮอลล์ โรงแรมอิมพีเรียล อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาสว่า เมื่อเวลา
14.00 น.พรรคประชาชาติได้จัดการประชุมใหญ่สามัญประจำปีพรรคประชาชาติ ครั้งที่ 1/ 2566 นำโดย นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคประชาชาติ พร้อมด้วยคณะกรรมการบริหารพรรค รวมทั้ง ส.ส.ของพรรคประชาชาติ ประกอบด้วย นายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ ส.ส.นราธิวาส เขต 4 นายอับดุลอายี สาแม็ง ส.ส.ยะลา เขต.3 นายกูเฮง ยาวอหะซัน ส.ส.นราธิวาส เขต 3 และ นายสมมุติ เบ็ญจลักษณ์ ส.ส.ปัตตานี เขต 4 นายซูการ์โน มะทา สส. จังหวัดยะลา เขต.2 คณะกรรมการบริหารพรรค ตลอดจนสมาชิกพรรคจากทั่วประเทศ เดินทางเข้าร่วมประชุมโดยพร้อมเพรียงกัน
สำหรับการประชุมใหญ่สามัญประจำปีพรรคประชาชาติในวันนี้ มีการรายงานการดำเนินกิจการทางการเมืองของพรรคประชาชาติ ในรอบปี 2565 การแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อบังคับพรรคประชาชาติ รวมถึงการเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรค โดยมีการกล่าวแสดงวิสัยทัศน์ ของนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ และ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และ เลขาธิการพรรคประชาชาติ ด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ขณะนี้พรรคประชาชาติ ยืนยันว่ามีผู้สมัคร ส.ส.ครบทุกเขต ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ นอกจากนี้ ยังส่งผู้สมัครในจังหวัดต่าง ๆ นอกพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ด้วย โดยการสรรหาเป็นไปตามกระบวนการประชาธิปไตย และมั่นใจว่าพรรคประชาชาติจะได้รับการสนับสนุนจากประชาชน เพราะมีเสียงตอบรับจากประชาชนดีมากมาโดยตลอด ประกอบกับผลงานการอภิปรายของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคประชาชาติในรัฐสภา ให้ความสำคัญกับปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ และปัจจุบัน พรรคประชาชาติเป็นที่รู้จักของพี่น้องประชาชนในพื้นที่กว้างขวาง
ด้านพันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคประชาชาติ กล่าวว่า การประชุมใหญ่ของพรรคประชาชาติตามกฏหมายและตามข้อบังคับ กำหนดให้มีการประชุมภายในเดือนเมษายน ซึ่งในวันนี้เป็นการประชุมเพื่อเตรียมการเลือกตั้ง ซึ่งนอกจากจะชี้แจงในที่ประชุมทราบ และต้องชี้แจงนโยบายสำคัญๆที่พรรคได้ผ่านกรรมการบริหาร โดยเฉพาะนโยบายสำคัญๆ ซึ่งมีหลายเรื่องที่เราจะแก้ปัญหาของประชาชน จะทำให้ประชาชนที่ ประสบปัญหา ไม่ว่าจะเป็นปัญหาในเรื่องของ ความยุติธรรม ปัญหาในเรื่องเศรษฐกิจ ปัญหาปากท้อง รวมถึงปัญหาที่ประชาชนกำลังเผชิญอยู่ ที่สำคัญคือจะนำความเจริญมาสู่ประชาชน ซึ่งหลายๆนโยบายหลายคนอาจจะมองว่านโยบายอาจจะเหมือนพรรคการเมืองอื่นๆ ซึ่งวันนี้อาจจะเห็นว่าพรรคการเมืองบางพรรคประกาศจะหรือกฎหมายที่เป็นอุปสรรคกับประชาชน
แต่บางทีกฎหมายที่เป็นอุปสรรคกับประชาชน ที่บางพรรคกำลังจะขอรื้อนั้น บางทีพรรคประชาชาติได้ขอรื้อไปแล้ว เช่นกฎหมายธรรมนูญศาลทหาร กรณีทหารไปกระทำก่ออัชญากรรม หรือถ้ามีการทุจริตคอรัปชั่น โดยการทำร้ายประชาชนถ้าทหารกระทำผิดตามลำพัง กฎหมายทหารให้ไปขี้นศาลทหาร ซึ่งมีคดีจำนวนมากที่ไปขึ้นศาลทหารแล้ว อัยการทหารเป็นผู้ฟ้องถ้าอัยการไม่ฟ้อง ซึ่งทางอัยการไม่ฟ้องเรื่องก็ไม่สามารถไปถึงศาลได้ ซึ่งกฎหมายเหล่านี้เป็นอุปสรรคต่อประชาชน ซึ่งรัฐบาลเองกลับไม่รื้อ และกฎหมายที่รัฐบาลจะมารื้อ ที่น่าเป็นห่วงเป็นกฏหมายการป้องกันและบังคับที่คนสูญหายหรือซ้อมทรมาน เป็นกฎหมายที่พี่น้อง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เรียกร้องมานาน เพราะว่าคนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เวลามีคดีขึ้นมาจะต้องถูกควบคุมด้วยกฎอัยการศึก 7 วัน พรก.ฉุกเฉินอีก 30 วัน แล้วถึงจะนำตัวไปพบพนักงานสอบสวน
ซึ่งถ้าคนนอก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เวลาถูกจับกุม กฎหมายบอกว่าต้องเอาตัวไปพบพนักงานสอบสวนทันที ซึ่งการควบคุมตัวระหว่างไปพบพนักงานสอบสวนเป็นเงื่อนไขที่ มีการซ้อมทรมาน ซึ่งโดยเฉพาะในภาคใต้จะใช้ เงื่อนไข 30 กว่าวัน ค้นหาความจริงจากตัวบุคคล ซึ่งมันขัดกับหลักสืบสวนสอบสวน เช่นการบีบบังคับให้รับสารภาพ หรือการบีบบังคับให้ซัดทอด หรือการบีบบังคับให้ข่มขู่หรือกระทำเพื่อการสกัดกั้น ซึ่งพี่น้องประชาชนเห็นว่าเป็นอุปสรรค ซึ่งรัฐบาลกลับไปประกาศพระราชกำหนดยกเลิกการใช้ไปอีก 6 เดือน แล้ววันนี้นายกจะประกาศว่าจะล้างหรือยกเลิกกฎหมายที่ เป็นอุปสรรคกับประชาชน ซึ่งจริงๆกฎหมายที่เป็นอุปสรรคกับประชาชน เสนอให้แก้แต่กลับไม่แก้ ซึ่งจะต้องเรียนว่าเรื่องกฎหมายมีความสำคัญ โดยเฉพาะในภาคใต้อาชีพที่สำคัญ คือ ประชาชน จะมีปัญหาในเรื่องของที่ดินทำกิน ที่อยู่อาศัย ซึ่งกฎหมายเหล่านี้เป็นอุปสรรคกับประชาชน ซึ่งพรรคประชาชาติได้เสนอแก้ไปแล้วหลายฉบับแต่รัฐบาลกลับไม่แก้ ซึ่งเราจะเห็นว่านโยบายคล้ายๆกันแต่การกระทำไม่เหมือนกัน และการมาประชุมในวันนี้ก็ตามข้อกฎหมายและจะแสดงให้เห็นความพร้อม และเชื่อมั่นว่าเราจะสามารถแก้ปัญหาของประชาชนและประเทศชาติโดยยึดถือประโยชน์สุข ของประชาชนเป็นส่วนสำคัญ
โดยพรรคเราเป็นพรรคที่ไม่ใช่แกนนำของรัฐบาล ซึ่งวันนี้เราไม่ได้เป็นศัตรูกับใคร ซึ่งเชื่อว่าในหลักประชาธิปไตยต้องดูหลักการการเลือกตั้ง ซึ่งพรรคประชาชาติเป็นฝ่ายประชาธิปไตย ซึ่งเราเชื่อมั่นว่าพรรคประชาธิปไตยจะได้กว่า 300 ที่นั่ง โดยเราส่ง สส.เขตประมาณ 20 คน 20 เขต และเราหวังว่า สส.แบบบัญชีรายชื่อที่เราประเมินด้วยยุทธศาสตร์ของเราแล้วน่าจะได้ประมาณ 5 คน
ข่าว.ซาการียา ดอเลาะ จ.นราธิวาส