ข่าวทั่วไป

สลด!! พ่อเฒ่าวัย 76 ปี นอนดับขึ้นอืดคาประตูบ้าน ข้างบ้านเผยชีวิตน่าเวทนาอยู่คนเดียวมากว่า 20 ปี ย่านสุขสวัสดิ์

สลด!! พ่อเฒ่าวัย 76 ปี นอนดับขึ้นอืดคาประตูบ้าน ข้างบ้านเผยชีวิตน่าเวทนาอยู่คนเดียวมากว่า 20 ปี ย่านสุขสวัสดิ์

 

วันที่ 14 มีนาคม 2566 เวลา 18.30 น.

ร้อยตำรวจเอก วิศรุจ ทาทอง รอง สว.สอบสวน สน.ราษฎร์บูรณะ รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1รายภายในบ้านมาแล้วหลายวัน ย่านสุขสวัสดิ์ จึงรีบรุดจัดกำลังพร้อมประสานแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลศิริราช และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู , อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน ( อปพร.เขตราษฎร์บูรณะ ) เร่งรัดตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที

เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจและอาสาสมัครมาถึงที่เกิดเหตุพบเหตุเกิดภายในบ้านพักอาศัยแห่งหนึ่งภายในซอย สุขสวัสดิ์ ถนน สุขสวัสดิ์ แขวง บางประกอก เขต ราษฎร์บูรณะ กรุงเทพมหานคร เป็นลักษณะอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น จุดเกิดเหตุอยู่บริเวณชั้นล่างสุดของตัวบ้านหน้าประตูทางเข้าออก พบศพชาย 1 ราย อายุ 76 ปี อดีตเคยเป็นช่างบริการลิฟท์ ของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ปัจจุบันเกษียณอายุมาประกอบอาชีพขับรถซูบูรุรับจ้างอยู่ภายในซอยสุขสวัสดิ์ ในสภาพศพบวมอืดส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้ง มีน้ำเลือดน้ำหนองไหลเจิ่งนองเต็มพื้นจนทั่วบริเวณดังกล่าว และมีหนอนกับแมลงวันไต่ตอมเต็มไปหมด เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 4 วัน ในลักษณะนั่งกึ่งนอนอยู่บริเวณหน้าประตูทางเข้าออกบ้าน สวมเครื่องแต่งกายโดยสวมใส่เสื้อยืดคอกลมแขนสั้นลายทางสีขาวดำ กางเกงขาสามส่วนสีเทาคาดส้ม สวมใส่รองเท้าแตะแบบสวมสีน้ำเงิน ประตูหน้าบ้านปิดสนิทโดยมีแม่กุญล๊อคอย่างแน่นหนา อาสาสมัครต้องใช้อุปกรณ์เครื่องตัดเหล็กตัดกุญแจดังกล่าวเพื่อเข้าไปตรวจสอบสภาพศพด้านในบ้านอย่างทุลักทุเล

จากการสอบถาม เพื่อนบ้าน อายุ 77 ปี บอกเล่าว่า ปกติจะเห็นออกไปนั่งกินกาแฟที่ร้านเดียวกันประจำ ก็พูดคุยกันตามประสาคนเห็นหน้ากันทุกวันจะทักทาย ตนก็จะเรียกแต่เฮียๆ แต่ก็ไม่รู้ชื่อว่าเค้าชื่ออะไร เค้าจะขับรถซูบูลุรับส่งคนในซอยสุขสวัสดิ์ นี่แหละ ตรงแฟลตแห่งหนึ่งตนก็เจอครั้งสุดท้ายเมื่อวันศุกร์ก็ยังเห็นเดินปกตินะ ไม่เห็นเป็นโรคอะไร แต่ก็มีบ้างที่มีอาอี้มาหา มาพาไปหาหมอ และตั้งแต่วันศุกร์ที่เจอกัน ก็ไม่เห็นเค้าอีกเลย แล้วพอมาวันนี้ข้างบ้านที่อยู่ติดกับบ้านเค้าก็ได้กลิ่นเหม็นรุนแรงขึ้นจากเมื่อวานที่กลิ่นจางๆนึกว่ามีซากหนูตาย เลยเดินมุดๆตามใต้ท้องรถดู แต่ก็ไม่เห็น จนตามกลิ่นไปตรงประตูส่องดูเพราะกลิ่นเริ่มแรง ก็เห็นกลายเป็นศพแล้วจึงช่วยกันแจ้งตำรวจมาตรวจสอบ

 

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตรวจสอบจากสภาพศพแล้วไม่พบร่องรอยบาดแผล และตรวจสอบจากภายในบ้านก็ไม่พบการถูกลรื้อค้น จึงคาดว่าผู้ตายอาจจะเดินมาเปิดประตูบ้านแล้วก็เกิดโรคประจำตัวกำเริบแล้วก็ล้มลงตรงบริเวณดังกล่าวและเสียชีวิตซึ่งผู้ตายพักอาศัยอยู่เพียงคนเดียวภายในบ้านจึงไม่มีคนมาช่วยได้ทัน แต่ที่ไม่มีผู้ไดพบเห็นก่อนหน้านี้อาจจะเป็นเพราะว่าหน้าบ้านของผู้ตายมีสิ่งของที่ผู้ตายสะสมเอาไว้วางกองแกะกะขวางทางและบังสายตาผู้คนจากภายนอกได้เป็นอย่างดีก็เลยไม่มีผู้ใดสังเกตุเห็น พอมารู้ว่ามีผู้เสียชีวิตอยู่ภายในบ้านก็เพราะว่าสภาพศพเน่าเหม็นส่งกลิ่นแรงคละคลุ้งไปทั่วแล้วจึงมีชาวบ้านในละแวกแถวนี้เกิดความสงสัยจึงพากันเดินเข้ามาส่องดูจากช่องประตูก็เลยเห็นว่ามีผู้เสียชีวิตอยู่ภายในบ้านก็เลยรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและกู้ภัยมาตรวจสอบ

 

ส่วนทางด้านอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู บอกว่า ตนได้รับแจ้งว่ามีผู้เสียชีวิต แต่กุญแจบ้านล็อคจากด้านในจึงขออาสาที่มีเครื่ิองมืิอตัดกุญแจ จึงรีบนำอุปกรณ์มาช่วยดำเนินการ เมื่อมาถึงก็พบว่ากุญแจล็อคจากด้านใน ตนจึงใช้ลูกหมู สอดเข้าไปตัดกุญแจออก และเปิดประตูออก ก็พบว่า ผู้เสียชีวิตอยู่บริเวณหน้าประตูทางเข้าออกพอดี สภาพภายในบ้านมีสิ่งของเต็มไปหมด ไฟในห้องน้ำเปิดทิ้งไว้ มีเสียงเพลงดังเบาๆอยู่

 

เจ้าหน้าที่ตำรวจ และแพทย์นิติเวช จึงมอบหมายให้อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูนำร่างผู้เสียชีวิตส่งไปตรวจสอบหาสาเหตุการเสียชีวตที่แท้จริงอีกครั้งก่อนที่จะติดต่อให้ญาตินำเอกสารไปรับร่างผู้เสียชีวิตไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป

โชติกา ม่วงใจรักษ์ ผู้สื่อข่าว กทม.