ข่าวทั่วไป

นนทบุรี – นักธุรกิจสาวร้องทนายดังถูกเจ๊รินอ้างชื่อบิ๊กโจ๊ก หลอกลงทุนสูญเกือบ 10 ล้าน

นนทบุรี – นักธุรกิจสาวร้องทนายดังถูกเจ๊รินอ้างชื่อบิ๊กโจ๊ก หลอกลงทุนสูญเกือบ 10 ล้าน

เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 20 มีนาคม 2566 ที่สำนักงานทนายความคู่ใจ ถ.แจ้งวัฒนะ ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ดจ.นนทบุรี น.ส.เอ นามสมมุติ อายุ 30 ปี เจ้าของธุรกิจเครื่องสำอางพร้อมเพื่อน นำเอกสารหลักฐานเดินทางเข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับนายรณณรงค์ แก้วเพชร ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ให้ช่วยเหลือหลังถูกหญิงสาวรายหนึ่งใช้ชื่อว่า เจ๊ริน อายุ 42 ปี หลอกให้ร่วมลงทุนตัดเย็บเสื้อผ้าส่ง กรมราชทัณฑ์โดยอ้างว่ามีออร์เดอร์จากหน่วยงานราชการเป็นล้านตัวและยังอ้างเป็นคนสนิทบิ๊กโจ๊ก สั่งผลิตเสื้อให้ตำรวจ สูญเงินเกือบ 10 ล้านบาท

น.ส.เอ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงต้นเดือนพ.ย.65 เพื่อนตนได้แนะนำให้รู้จักกับเจ๊ริน ซึ่งเป็นเจ้าของโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้ารายใหญ่ ต่อมาทางเจ๊รินได้นัดหมายให้ตนกับเพื่อนไปหาที่โรงงานเย็บผ้าซึ่งตั่งอยู่ในเขตอ.บางกรวย จ.นนทบุรี เมื่อไปถึงพบโรงงานดังกล่าวเป็นตึกแถวทะลุถึงกัน 4 ห้อง ภายในมีเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่ใช้สำหรับเย็บผ้าหลายเครื่องมีคนงานกว่า 10 คนกำลังตัดเย็บเสื้อผ้าอยู่ หลังจากนั้นเจ๊รินได้บอกกับตนว่าต้องการหาคนมาร่วมลงทุนเพิ่มเพราะตนมีเส้นสายกับผู้ใหญ่ในกรมราชฑัณณ์ ทำให้ได้ออเดอร์ผลิตเสื้อผ้าผู้ต้องขังจำนวน 1,000,000 ตัว กางเกงใน 1,000,000 ตัว นอกจานี้ยังมีออร์เดอร์ผลิตเสื้อสโมสรตำรวจอีก 300,000 ตัวจากพล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง.ผบ.ตร.แต่เนื่องจากเจ๊รินมีเงินไม่พออยากหาเงินทุนมาเพิ่มประมาณ 10 ล้านบาทจึงได้ชักชวนตนโดยบอกว่าจะได้กำไร 200 เปอร์เซ็นต์ต่องานและจะแบ่งให้ตนครึ่งหนึ่งถ้าร่วมลงทุน ด้วยความที่ตนไปเห็นกับตาว่าเจ๊ริน มีโรงงานเย็บผ้าขนาดใหญ่และยังมีการอ้างว่ารู้จักผู้ใหญ่ในกรมราชฑัณณ์และบิ๊กโจ๊ก จึงได้หลงเชื่อโอนเงินร่วมลงทุนครั้งแรกวันที่ 15 พ.ย.65 เป็นเงิน 4.1 ล้านบาท โดยเจ๊รินบอกว่าจะคืนให้เงินพร้อมกำไรหลังเบิกเงินจากกรมราชฑัณณ์ได้แล้วแต่ต้องรอ 45 วันตามระเบียบราชการ หลังจากนั้นวันที่ 19 พ.ย.65 เจ๊รินได้โทรมาบอกว่าให้ช่วยร่วมลงทุนอีกครั้งเพราะจะต้องหาเงินไปจ่ายค่าผ้าที่ค้างเพื่อจะไปรับผ้ามาตัดส่งให้กรมราชฑัณณ์ซึ่งตนก็โอนเงินไปให้อีกเป็นเงิน 2 ล้านบาท และวันที่ 30 พ.ย.65 เจ๊รินโทรมาบอกว่าให้โอนเงินมาให้อีก 3 ล้านบาท เพื่อปิดบัญชีและจะได้ทำเรื่องเบิกจ่ายเงินจากกรมราชฑัณณ์ ร่วมเป็นเงิน 9.1 ล้านบาท

ต่อมาวันที่ 15 ธ.ค.65 ซึ่งครบกำหนดที่ตนจะต้องได้รับส่วนแบ่งผลประกอบการทางเจ๊รินได้จ่ายเช็คเงินสดมาให้ตนจำนวน 1.2 ล้านบาท และอีกครั้งวันที่ 19 ธ.ค.65 จำนวน 600,000 บาท ทั้ง 2 ครั้งตนไปเบิกเงินได้จริงโดยเจ๊รินบอกว่าเป็นกำไรจากการร่วมลงทุน แต่พอตนสอบถามถึงเงินที่ร่วมลงทุนไปจะได้คืนเมื่อไรทางเจ๊รินบอกว่าให้รออีก 15 วันจะคืนเงินทุนให้ กระทั่งวันที่ 30 ธ.ค.65 เจ๊รินได้จ่ายเช็คให้ตนร่วม 4 ฉบับเป็นจำนวนเงิน 9.1 ล้านบาทแต่พอนำไปขึ้นเงินที่ธนาคารกลับไม่สามารถขึ้นเงินได้ จึงได้โทรศัพท์ไปสอบถามทางเจ๊รินก็บ่ายเบี่ยงมาตลอดหลังจากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย จึงได้เดินทางไปที่โรงงานเย็บผ้าของเจ๊รินก็พบกับสามีเจ๊รินบอกแต่เพียงว่าไม่รู้เรื่องที่ภรรยาทำตอนนี้ได้อย่าร้างกันไปแล้วพร้อมไล่เมียออกจากบ้านไปแล้วไม่สามารถติดต่อได้แล้ว ซึ่งตอนที่ตนไปติดต่อกับเจ๊รินก่อนหน้านี้ที่โรงงานสามีเขาก็รับรู้เรื่องที่ภรรยาหลอกให้พวกตนร่วมลงทุนมาตลอด จึงตัดสินใจไปแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ศาลาเเดง ความผิดเกี่ยวกับพรบ.เช็คก่อนจะเดินทางมาร้องเรียนให้ทนายรณณรงค์ช่วยเหลือเพราะคนก่อเหตุอ้างว่ารู้จักกับผู้ใหญ่หลายคนทั้งทหารตำรวจเกรงว่าคดีจะไม่ได้รับความเป็นธรรม

ทางด้านทนายรณณรงค์ กล่าวว่า จะต้องให้ผู้เสียหายไปยื่นเรื่องกับกระทรวงยุติธรรมให้ตรวจสอบเรื่องดังกล่าว เขามีการอ้างหน่วยงานกรมราชทัณฑ์หน่วยงานสถานพินิจ ว่ามีการค้าขายเสื้อจริงไหมถ้าไม่จริงก็ดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายส่วนการอ้างชื่อของพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล ต้องสอบถาม สำนักงานตำรวจแห่งชาติว่าเป็นที่ปรึกษาจริงไหมเพราะว่าทางผู้เสียหายหลงเชื่อว่าเป็นที่ปรึกษาผู้ช่วยผบ. ตร ได้ตัดสินใจลงทุนมากเป็น 10 ล้านส่วนมูลค่าความเสียหายสามารถให้กองปราบดำเนินคดีได้เพราะเกิน 5 ล้านบาท เบื้องต้นผู้เสียหาย 3 รายรวมแล้ว 15 ล้าน ส่วนข้อหาก็จะเป็นข้อหาฉ้อโกง ฉ้อโกงมีอายุความ 3 เดือนไม่ใช่ ฉ้อโกงประชาชน ตามกฎหมายอาญามาตรา 341 มีอายุความแค่ 3 เดือน ในเคทอื่นๆผู้กระทำความผิดจะประวิงเวลาโดยการจ่ายดอกให้ เพื่อให้เกิน 3 เดือน อยากฝากเตือนประชาชนการลงทุนที่ได้ผลตอบแทนสูงให้ระมัดระวังการลงทุน เสมออย่างเคสนี้มีค่าตอบแทน 30% ตนว่าเยอะ อยากลงทุนอะไรให้ตรวจสอบดูให้แน่นอนก่อน ถ้าสมมุติมีคนไปลงทุนของส่วนราชการต้องขอดูเอกสารสัญญาจัดซื้อจัดจ้างถ้ามีการค้าขายกันจริงมันต้องมีสัญญา กางเกงใน 1 ล้านตัว จะไม่มีสัญญาประมูลเลยมันเป็นไปไม่ได้

สาโรจน์ สว่างศรี / นนทบุรี