หัวอกแม่ โร่ร้องสื่อลูกชาย ป.5 ถูกครูตีก้นจนช้ำ
เมื่อช่วงสายของ วันที่ 21 มีนาคม 2566 ได้มีสองผู้ปกครองส่งเรื่องราวมาร้องทุกข์กับผู้สื่อข่าว ว่าบุตรชายถูกครูใช้ไม้เรียวตีอย่างรุนแรงจนเป็นแผลฟกช้ำขนาดใหญ่ที่ก้น หลังรับเรื่องผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่ไปที่บ้านพักของเด็กชายทั้งสองราย ภายในตำบลบางเพรียง อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ พบกับพ่อแม่และผู้ปกครองของ น้องบัส (เสื้อเขียว) อายุ 11 ปี เพื่อสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดย น้องบัส (เสื้อเขียว ) เรียนอยู่ชั้น ป.5 ของโรงเรียนแห่งหนึ่งในตำบลคลองด่าน อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ ได้ยืนเปิดกางเกงโชว์แผลฟกช้ำที่ก้น ของตนเองทั้งสองข้างให้กับผู้สื่อข่าวดู ซึ่งพบว่าเป็นบาดแผลฟกช้ำจนเขียวดำจากการถูกไม้ตีอย่างรุนแรง จนกระทั่งเด็กไม่สามารถนั่งและนอนได้ตามปกติสุข ขณะเดียวกัน ผู้ปกครองและ น้องเอเดน (เสื้อฟ้า) อายุ 11 ปี ได้เดินทางมาถึงบ้านของ น้องบัส ได้ยืนเปิดกางเกงโชว์แผลฟกช้ำที่ก้น ของน้องเอเดน เช่นกัน
น้องบัส เป็นหนึ่งในเด็กชายที่ถูกครูรายนี้ตี เปิดใจทั้งน้ำตาว่า เมื่อช่วงสายวานนี้ คือวันที่ 20 มีนาคม 66 ที่ผ่านมา ตนเองและกลุ่มเพื่อน ถูกครูชาย ที่ชื่อ ครูบอส ให้ไปทำกิจกรรมที่โมของโรงเรียน โดยให้ช่วยกันเก็บกวาดขยะและใบไม้ ตนเองและเพื่อนก็พากันไปกวาดตามที่ครูสั่ง หลังจากกวาดกันเสร็จก็จะพากันเอาไม้กวาดไปเก็บ ระหว่างเดินไปเก็บไม้กวาดก็มีการหยอกล้อเล่นกันกับเพื่อน แล้วครูบอสมาเห็น จึงสั่งให้ตนเองและเพื่อนๆรวม 3 คน เดินไปหยิบไม้เรียวที่ห้อง โดยครูเป็นคนนับตัวเลขตั้งแต่การนับ 1 ซึ่งหมายความว่าตั้งแต่ที่ตนเองและเพื่อนไปเอาไม้เรียวจนกลับมาให้ครู ครูนับเลขได้เท่าไหล่ก็จะถูกตีจำนวนครั้งเท่านั้น พอมาถึงครูครูนับได้18 แต่ครูลดให้เฉลี่ยกัน จึงเหลือ 13 ครั้ง ทำให้ครูใช้ไม้เรียวที่ให้ตนเองและเพื่อนไปเอามา ตีที่ก้นหมุนเวียนกันสลับกันจนครบคนละ 13 ครั้ง ยอมรับว่าเจ็บปวดทรมานมาก อีกทั้งครูยังบอกว่าให้ไปฟ้องพ่อแม่เลยครูไม่กลัว พอกลับมาถึงบ้านจึงบอกพ่อแม่ พ่อแม่จึงพากันไปแจ้งความ ยอมรับว่าเจ็บทรมานมาก เมื่อคืนนอนหงายไม่ได้จนต้องนอนตะแคงข้างเพื่อให้หลับ ที่ผ่านมาถูกครูรายนี้ตีบ่อย เพื่อนๆก็ถูกตีบ่อย แต่ไม่เคย๔กตีจนรุนแรงแบบนี้ มีครั้งนี้ตีหลายครั้งและตีแรงมาก อยากให้ครูเลิกตีและใช้งานเด็กๆ ตอนนี้หวดกลัวไม่กล้าไปโรงเรียน
ขณะที่ น้องเอเดน เด็กชายอีกคนที่ถูก ครูบอส รายนี้ใช้ไม้ตีอย่างรุนแรงจนเป็นแผลแบบเดียวกันที่ก้นเช่นกัน บอกว่ายืนยันว่าถูกตีถึง 13 ครั้งจริง เด็กที่ถูกตีมีทั้งหมด 3 คน ที่ผ่านมาเคยถูกครูคนนี้ตีมาแล้วบ่อยครั้งแต่ทุกครั้งจะไม่เคยตีซ้ำหลายครั้งแบบนี้สูงสุดคือตีห้าที
ด้าน นางสาว วัชญาภรณ์ คุณแม่ของน้องเอเดน เปิดใจกับนักข่าวว่า ตนเองทราบเรื่องเมื่อวานตอนค่ำ แต่ไม่ได้ทราบจากปากของลูก ทราบเรื่องคือลูกชายไปขอให้พี่สาวช่วยเอายาทาแผลที่ก้นให้ พอลูกสาวเห็นจึงร้องโวยวายและเรียกตนเองไปดู พอเห็นแผลเขียวช้ำที่ก้นลูกยอมรับว่าตกใจเป็นอย่างมากจนได้พูดคุยสอบถามกับลูกจึงยอมรับว่าถูกครูตี พอเห็นแผลจึงตัดสินใจพาลูกไปแจ้งความเอาเรื่องกับครูรายนี้
ส่วนทางด้าน นางสาวบุญเรือน มารดาของน้องบัส เปิดใจทั้งน้ำตาคลอเบ้าที่สงสารลูกชายที่ถูกกระทำความรุนแรงภายในโรงเรียนแบบนี้ ออกมาเปิดใจกับทางนักข่าว หลังจากที่ทราบเรื่องจากลูกก็พยามโทรสอบถามครูประจำชั้นซึ่งครูก็บอกจะรีบเรื่องไว้และจะนัดคุยอีกครั้ง แต่ตนเองในฐานะหัวอกแม่ ซึ่งไม่เคยตีลูกรุนแรงแบบนี้ รับกับเหตุการณ์นี้ไม่ได้ ที่ผ่านมาลูกเคยมาบอกว่าถูกครูตีแต่ก็ไม่ได้คิดจะเอาเรื่องหรือโทรไปสอบถามแต่อย่างใด เพราะที่ผ่านมามีรอยบ้างแต่ก็เล็กน้อย และก็เข้าใจว่าลูกอาจจะดื้อบ้างอะไรบ้างตามประสาของเด็ก แต่พอมาครั้งนี้ บาดแผลที่พบทำให้ยอมรับไม่ได้ สงสารลูกมาก ยิ่งเมื่อคืนนั่งมองลูกชายเอนตัวนอนอย่างทรมานยิ่งช้ำใจ ยืนยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่โรงเรียนดังกล่าว เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น โดยไปพบกับผู้อำนวยการของทางโรงเรียน ซึ่งเจ้าตัวไม่พร้อมให้สัมภาษณ์หรือบันทึกภาพแต่อย่างใด ยอมรับว่ายังไม่ทราบเรื่องที่ครูชายท่านนี้ตีเด็กรุนแรง ทราบเพียงว่ามีการตีลงโทษเด็กเท่านั้นแต่ไม่คิดว่าตจะรุนแรง หลังจากนี้ยังไม่อยากเป็นข่าวขอเจรจากับทางผู้ปกครองก่อน
ขณะที่ ครูบอส ที่ใช้ไม้ตีเด็กได้นำไม้เรียวขนาดใหญ่พอเหมาะมือยาวไม่ต่ำกว่า 80 เซนติเมตร มีการนำผ้าเทปกางสีชมพูมาพันไว้รอบไม้ ซึ่ง ครูบอส ยืนยันว่าเป็นไม้ที่ใช้ตีเด็กจริง ยอมรับว่าตีคนละ13 ครั้งจริง โดยไม่มีเจตนาจะทำโทษเกินกว่าเหตุ หลังจากตีไปก็ยังไม่เห็นบาดแผลของเด็กจนมาเห็นจากสื่อมวลชน ส่วนสาเหตุที่ต้องตี ครูบอส อ้างว่า เด็กดื้อและเล่นกันในขณะทำกิจกรรม ส่วนที่ต้องนับเลขกดดันเด็กให้ไปเอาไม้เรียวนั้น ตนเองยอมรับว่านับจริง แต่ก่อนนับพอสั่งเด็กไปเอาไม้เรียวแล้วเด็กไม่ใส่ใจที่จะเดินไปหยิบทำให้ต้องบอกนับเลขเพื่อเป็นจำนวนครั้งในการตีลงโทษ
ด้านผู้ปกครองทั้งสองยืนยันจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุดและเรียกร้องให้ต้นสังกัดย้ายครูรายนี้ออกนอกพื้นที่ในระหว่างดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายและวินัย เนื่องจากเด็ก ๆ ยังไม่กล้าไปเรียนและยังคงต้องเรียนที่โรงเรียนแห่งนี้ ในส่วนของทางคดีนั้นอยากขอความช่วยเหลือผู้สื่อจัดตั้งทีมทนายความเข้ามาดูแลคดีความเนื่องจากไม่รู้ข้อกฎหมาย อีกทั้งไม่อยากให้เกิดเรื่องแบบนี้กับเด็กคนไหนอีก ซึ่งผู้สื่อข่าวได้ประสานไปยัง ดร.เกรียงศักดิ์ พินทุสรศรี ทนายความ เพื่อเข้ามาช่วยเหลือทางด้านคดีความ แล้ว
*******************
สุรศักดิ์ คงสินธ์ / ธนวัต นาคขำ จ.สมุทรปราการ 099-3952894