ป๋อง หน้ายักษ์ ไซโล กลับใจแล้ว วอนสังคมให้โอกาสได้ทำงานเลี้ยงดูครอบครัว
ผู้สื่อข่าวได้รับคลิปวีดีโอขอความช่วยเหลือจาก นาย ดนัย คหัตฐา อายุ 43 ปี ซึ่งภายในคลิป เป็นชายคนหนึ่ง (ซึ่งเป็นเพื่อนของเจ้าของคลิป) ที่สักลายเต็มตัว และที่ใบหน้าสักในลักษณะคล้ายหน้าของยักษ์ โดยในคลิปได้พูดถึงความลำบากทั้งสมัครงานแล้วไม่มีคนรับ ค้าขายก็ไม่ดี ไม่มีเงินใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน อาศัยกินข้าววัด อยากได้โอกาสทำงานเพื่อหาเงินเลี้ยงดูครอบครัว
เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 22 มีนาคม 2566 ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปที่วัดสำโรงใต้ ถนนปู่เจ้าสมิงพราย ต.สำโรงกลาง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ เพื่อไปพบกับ นาย ณรงค์ เพ็งกลัด อายุ 44 ปี (ป๋อง หน้ายักษ์ ไซโล) คนที่อยู่ในคลิป โดยได้ร้องขอความช่วยเหลือจากผู้สื่อข่าวว่า ตนได้ไปสมัครงานหลายที่แล้วแต่ไม่มีที่ไหนรับทำงานเลย เพราะเห็นว่าตนมีประวัติและสักลายเต็มตัวถึงใบหน้า ตนยอมรับว่าก่อนหน้านี้ตนเป็นคนมีประวัติเป็นคนไม่ดี พอได้พ้นโทษออกมาตนเริ่มมีครอบครัวมีภรรยาและมีลูก และหลังจากนั้นตนเริ่มมีการศรัทธาในท้าวเวสสุวรรณ ตนจึงได้ทำการสักใบหน้ายักษ์เหมือนท้าวเวสสุวรรณ เพราะตนมีครอบครัวมีลูกและท้าวเวสสุวรรณหน้ายักษ์แล้วตนเริ่มปฏิญาณตนจะเป็นคนดีหากินสุจริตไม่ข้องเกี่ยวกับยาเสพติดหรือสิ่งผิดกฎหมาย ขึ้นก่อนหน้านี้ประมาณปี 2565 ตนได้พยายามประกอบอาชีพขายของเช่น ขายไก่ย่าง ขายขนมเปี๊ยะ แต่พอเริ่มขายไม่ค่อยดี ตนจึงพยายามหารายได้เพิ่มโดยการไปรับจ้างหรือไปสมัครงาน แต่ไม่มีที่ไหนกล้ารับตนเข้าทำงาน ต่อมาภรรยาก็ตกงานอีก ทำให้ตนเริ่มคิดหนักเครียดมากขึ้น จนเมื่อประมาณกลางปี 2565 ตนเครียดของก็ขายไม่ดีภรรยายังมาตกงานอีกไหนจะลูกสาววัย 8 ปี ที่กำลังเรียนอยู่ ตนเคยตัดสินใจขึ้นสะพานภูมิพลเพื่อจะกระโดดลงแม่น้ำเจ้าพระยาเพื่อฆ่าตัวตาย แต่ก็มีเจ้าหน้าที่และชาวบ้านมาช่วยพูดให้กำลังใจตนจนตนไม่กระโดดสะพาน จากนั้นตนเริ่มหันหน้าเข้าวัด เพื่อเข้าไปช่วยงานภายในวัดจนมีพระภายในวัดสงสารเริ่มเอาอาหารเอาขนมมาให้กับตนเพื่อไปให้ครอบครัวภรรยาและลูกกินเพื่อลดค่าใช้จ่ายภายในบ้าน สุดท้ายก็เลยออกมาวอนสื่อช่วยให้โอกาสกับคนที่กลับตัวกลับใจเป็นคนดีของครอบครัวและสังคม อย่ามองตนแต่ภายนอก ว่าตนเป็นคนขี้คุกหรือเห็นตนสักเต็มตัวเต็มใบหน้า ขอโอกาสหน่อยนะครับให้ตนได้มีที่ยืนอยู่ในสังคมและใช้ชีวิตแบบคนทั่วไป
ด้าน นาย ดนัย คหัตฐา อายุ 43 ปี (เจ้าของคลิป) ซึ่งเป็นเพื่อนกับ ป๋อง หน้ายักษ์ ไซโล เล่าว่า ตนเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็กๆ ส่วนตนพักอาศัยอยู่ในวัด แต่ป๋องพักอาศัยอยู่ในชุมชนบริเวณวัด สมัยก่อนป๋องแสบมากชอบหาเรื่องและข้องเกี่ยวกับยาเสพติด จนชาวบ้านบริเวณนั้นไม่ค่อยมีใครกล้ายุ่งกับป๋อง ถูกตำรวจจับหลายรอบ พูดง่ายๆเข้าออกเรือนจำมาครึ่งชีวิต แต่พอป๋องมีครอบครัวและมีลูกสาว ป๋องเริ่มปรับตัวเองใหม่ไม่เกะกะเกเรไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด เริ่มทำมาหากินเช่นรับจ้างทำงานและขายของเช่น ไก่ย่าง และขนมเปี๊ยะ จากนั้นเริ่มหันหน้าเข้าวัดช่วยงานภายในวัดสำโรงใต้ จนมีความรู้จักคุ้นเคยกับพระภายในวัด จนมาเมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมาป๋องเริ่มขายของไม่ค่อยดี ทำให้ไม่ค่อยมีเงินไว้ใช้จ่ายในครอบครัว จนพระในวัดทราบเรื่องจึงบอกกับป๋องช่วงเช้าให้มาเอาอาหารที่วัดที่พระรับบิณฑบาตมาเพื่อไปให้ภรรยาและลูกได้กินเพื่อเป็นการบรรเทาลดค่าใช้จ่าย แต่ป๋องก็พยายามหางานทำไปสมัครงานอยู่หลายที่แต่ไม่มีที่ไหนรับเพราะเห็นว่าป๋องเป็นคนที่มีประวัติและสักลายเต็มตัวเต็มใบหน้า ส่วนที่ป๋องสักที่ใบหน้าเป็นหน้ายักษ์นั้น ป๋องมีความเชื่อความศรัทธาในท้าวเวสสุวรรณ และป๋องเองก็ห้อยท้าวเวสสุวรรณที่คอมาโดยตลอด พอหลังจากทำการสักหน้ายักษ์ที่ใบหน้าของป๋องแล้วป๋องรู้สึกว่าตัวเองเริ่มมีความคิดดี ๆ รู้สึกดี ๆ มากขึ้น จนทำให้ป๋องเริ่มกลับตัวกลับใจไม่คิดหวนกลับไปเป็นคนเกเรยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ตนก็อยากให้สังคมให้โอกาสกับคนกลับตัวกลับใจมาเป็นคนดี เพื่อให้คนเหล่านี้ได้มีจุดยืนในสังคมต่อไป
****************************
สุรศักดิ์ คงสินธ์ / ธนวัต นาคขำ จ.สมุทรปราการ 099-3952894
