นนทบุรี – บุรุษพยาบาลแค้นจัดแจ้งความสถานรับเลี้ยงทำสุนัขที่รักเหมือนลูกตาย ตร.สั่งอายัติน้องสุนัขผ่าชันสูตร
วันที่ 22 มี.ค.66 ที่สภ.ชัยพฤกษ์ จ.นนทบุรี ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากนายพัฒน์ธนฉัตร เครื่องจันทร์ อายุ 36 ปี บุรุษพยาบาล ซึ่งเดินทางมาพบพนักงานสอบสวนเพื่อนำเอกสารอายัดร่างสุนัขและนำส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต หลังจากที่เมื่อวันที่ 20 มี.ค.ที่ผ่านมา นายพัฒน์ธนฉัตรได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนว่าสุนัขเพศผู้ พันธ์ปั๊ก ชื่อมั่งมี อายุประมาณ 3 ปี ซึ่งนำไปฝากเลี้ยงไว้กับสถานรับเลี้ยงสัตว์แห่งหนึ่ง ถนน 345 ต.คลองข่อย อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ในราคารับฝากวันละ 200 บาท โดยได้นำสุนัขไปฝากไว้เมื่อเวลา 15.30 น. เพื่อเตรียมตัวเดินทางไปทำบุญที่เขาคิชฌกูฏเป็นเวลา 2 วัน โดยได้นำสุนัขเพศผู้ 2 ตัว คือ พันธุ์ชิสุ ชื่อเจ้าหมดหนี้ อายุ 4 ปี และสุนัขพันธุ์ปั๊ก ชื่อเจ้ามั่งมี อายุ 3 ปีไปฝากที่สถานรับเลี้ยงสุนัขดังกล่าว หลังเคยใช้บริการฝากเลี้ยงมาแล้ว 2 ครั้ง
นายพัฒน์ธนฉัตร เปิดเผยอีกว่า หลังนำสุนัขสองตัวไปฝากเลี้ยงแล้ว ตนได้แวะไปทำบุญสวดมนต์ที่วัดสะพานสูงเพื่อเตรียมตัวไปเดินทางไปทำบุญ ต่อมาเวลาประมาณ 16.50 น. ทางสถานรับเลี้ยงได้โทรมาแจ้งว่าสุนัขพันธ์ปั๊กที่ฝากไว้ได้เสียชีวิตแล้ว ทำให้ตนตกใจเป็นอย่างมาก เพราะสุนัขที่ตนเลี้ยงเหมือนลูกอย่างดี ไปฝากเลี้ยงไว้ได้ประมาณชั่วโมงเดียวก็มาเสียชีวิตลง ตนจึงรู้สึกติดใจการดูแลของสถานรับเลี้ยงแห่งนี้ว่ามีมาตราฐาน มีใบรับรองถูกต้อง รวมทั้งมีบุคคลากรที่มีความรู้มีในการดูแลสุนัขอย่างถูกต้องไหม ตนจึงต้องการให้สถานเลี้ยงออกมาแสดงความรับผิดชอบ
นายพัฒน์ธนฉัตร เจ้าของสุนัขเปิดเผยอีกว่า หลังได้รับแจ้งว่าเจ้ามั่งมีสุนัขตัวโปรดเสียชีวิตลง ตนได้รีบเดินทางไปยังศูนย์รับเลี้ยงในทันที ยอมรับในใจตนตอนนั้นโกรธแค้นมาก พร้อมกับคิดว่าทำไมศูนย์ปล่อยให้สุนัขวิ่งจนเสียชีวิต โดยไม่ดูแลและไม่คำนึงถึงสภาพอากาศที่ค่อนข้างร้อน โดยไม่มีการปฐมพยาบาลข่วยเหลือและไม่พาสุนัขตนไปส่งโรงพยาบาล โดยทางสถานรับเลี้ยงแจ้งว่าไปโรงพยาบาลไม่ทันแล้ว สุนัขได้เสียชีวิตแล้ว ที่ให้วิ่งเล่นเพราะเห็นว่าสุนัขสุขภาพแข็งแรง จึงปล่อยให้วิ่งเล่น จากนั้นสุนัขก็เหนื่อย วิ่งไปนอนข้างอ่างน้ำ แล้วก็ไปวิ่งต่อและมานอนพักที่เดิมและนิ่งไป โดยตอนที่ตนนำสุนัขทั้ง 2 ตัว ไปส่งที่ศูนย์นั้น ตนยังได้ถ่ายคลิปวิดีโอไว้ก่อนกลับ เลย ไม่คิดว่าจะเป็นคลิปสุดท้ายที่ต้องมาสูญเสียสุนัขสุดรักไป เพราะคิดว่าเจ้าหน้าที่ศูนย์คงดูแลและปล่อยให้สุนัขเล่นไม่นานแล้วนำกลับไปพักในกรงแรกรับอย่างที่เคยทำ
นายพัฒน์ธนฉัตร เปิดเผยอีกว่า หลังเกิดเหตุตนพยายามสอบถามความรับผิดชอบจากศูนย์รับเลี้ยง แต่กลับถูกทางศูนย์ถามหาใบเสร็จค่าสุนัขที่ตนซื้อมาเหมือนราคาสิ่งของ โดยจะจ่ายให้ตนในราคา 2 หมื่นบาท ทำให้ตนรู้สึกโกรธจัดเป็นอย่างมาก ทั้งๆที่ตนซื้อสุนัขตัวดังกล่าวมาเป็นสุนัขลูกแชมม์จากฟาร์มแห่งหนึ่งใน จ.นครปฐม ราคา 2.2 หมื่นบาทแล้ว เพื่อเอามาเตรียมขยายพันธุ์ต่อ แต่ต้องมาตายทั้งๆที่ยังไม่ได้ผสมพันธุ์เลย ตนเลี้ยงดูแลเป็นอย่างดีรักมากเหมือนลูกคนหนึ่ง ตนไม่คิดว่าตัวเองจะโกรธได้ขนาดที่ว่าชีวิตต้องแลกด้วยชีวิต ตอนนี้ตนเข้าใจแล้ว จอห์น วิค มีความรู้สึกอย่างไรที่ต้องสูญเสียสุนัขที่รักไป ตนรับไม่ได้จึงได้เดินทางเข้าแจ้งความเพื่อให้สถานรับเลี้ยงรับผิดชอบกับเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะหลังจากนั้นตนก็ไปรับร่างสุนัขของตนเพื่อนำไปทำพิธีสวดอภิธรรมและเผาให้เหมือนกับคนคนหนึ่ง แม้ว่าสถานรับเลี้ยงจะพยายามขอเจรจาอีกครั้ง แต่ตนไม่พร้อมคุยด้วยแล้ว เพราะเคยคิดว่าจะเรียกค่าเสียหายที่สูญเสียประมาณ 5.9 หมื่นบาท เป็นค่าที่ซื้อสุนัขมา ค่าเลี้ยงดูและค่าทำศพตลอดงาน แต่ทางสถานรับเลี้ยงไม่เคยถามหรือแสดงความห่วงใย ความเสียใจออกมาเลย ว่าตนจัดพิธีให้สุนัขที่ไหน เผาที่ไหน ทั้งๆที่เขารู้ว่าตนรักสุนัขมาก แต่กลับมาถามมาต่อราคาให้เงินชดใช้ 2 หมื่นเหมือนราคาสิ่งของ ทำให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเจ้าของคดีสั่งอายัติเจ้ามั่งมีเพื่อส่งไปชันสูตร ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ หาสาเหตุการเสียชีวิตเพื่อนำมาใช้ประกอบคดีตามที่ตนต้องการต่อไป