ข่าวทั่วไป

โฟร์แมนคุมงานประกอบโครงสร้างสะพานหนุ่มใหญ่เป็นศพปริศนา ภายในช่องระบายน้ำ ย่านราษฎร์บูรณะ

โฟร์แมนคุมงานประกอบโครงสร้างสะพานหนุ่มใหญ่เป็นศพปริศนา ภายในช่องระบายน้ำ ย่านราษฎร์บูรณะ

 

วันที่ 26 มีนาคม 2566 เวลา 23.30 น.

พันตำรวจตรี อดิศักดิ์ เสนียุทธ์ สว.สอบสวน สน.ราษฎร์บูรณะ รับแจ้งว่าพบร่างผู้เสียชีวิตไม่ทราบสาเหตุไม่ทราบเพศลักษณะมีอวัยวะส่วนขาโผล่ขึ้นมาภายในบ่อระบายน้ำ เหตุเกิดภายในไซต์งานก่อสร้างโครงการทางพิเศษสายพระราม3-ดาวคะนองฯ จึงรีบรุดจัดกำลังพร้อมประสาน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และ แพทย์นิติเวชศิริราช รวมทั้งอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู เร่งรัดตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที

เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุพบจุดเกิดเหตุอยู่บริเวณไซต์งานก่อสร้างโครงการทางพิเศษสายพระราม3-ดาวคะนองฯ ฝั่งตรงข้ามซอย ราษฎร์บูรณะ 32 ถนน ราษฎร์บูรณะ แขวง ราษฎร์บูรณะ เขต ราษฎร์บูรณะ กรุงเทพมหานคร พบจุดเกิดเหตุเป็นลักษณะบ่อขุดระบายน้ำหน้าทางเข้าไซต์งานดังกล่าวตรงบริเวณข้างป้อม รปภ. พบศพชาย 1 ราย อยู่ภายในบ่อน้ำดังกล่าวมีความลึกประมาณ 30 เซนติเมตร ในลักษณะปลายเท้าทั้งสองข้างโผล่ออกมาเหนือน้ำ และบริเวณหน้าทางเข้าไซต์งานดังกล่าว รปภ. กับคนงานจำนวนนึงช่วยกันจับเอาไว้ได้ 1 คนเป็นผู้ชาย อยู่ในลักษณะอาการมึนเมาพูดจาวกวน ทราบชื่อผู้ต้องสงสัยต่อมาชื่อนาย กฤตนัย ( ขอสงวนนามสกุล ) อายุ 24 ปี เป็นคนงานอยู่ในไซต์งานเดียวกัน ลักษณะเนื้อตัวเปียกชุ่มโชกไปด้วยน้ำ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวไปสงบสติอารมณ์ ที่ สน. ก่อนในเบื้องต้นแล้วจะทำการสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดอย่างละเอียดอีกครั้ง แล้วทำการปิดล้อมสถานที่เกิดเหตุโดยไม่อนุญาตให้ผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปภายในที่เกิดเหตุ

 

เมื่อเจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐานและเเพทย์นิติเวชโรงพยาบาลศิริราชมาถึงที่เกิดเหตุได้ให้อาสาสมัครนำร่างผู้เสียชีวิตขึ้นมาตรวจสอบด้านบนจึงทราบว่าผู้ตายชื่อ นาย วันชัย ( ขอสงวนนามสกุล ) อายุ 58 ปี เป็นโฟร์แมนคุมงานประกอบโครงสร้างสะพาน ในลักษณะการแต่งกายสวมใส่เสื้อยืดคอกลมแขนสั้นสีดำ กางเกงขาสั้นสีเทาคาดน้ำเงิน สวมใส่รองเท้าแตะแบบสวมสีดำ จากการตรวจสอบภายในร่างกายผู้ตายไม่พบบาดแผลใดๆ แพทย์นิติเวช จึงมอบหมายให้อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูนำร่างผู้เสียชีวิตส่งไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งที่นิติเวชศิริราช

 

และจากการตรวจสอบพื้นที่โดยรอบพบคราบเลือดบริเวณทางเข้าไซต์งานก่อสร้างหยดอยู่ที่พื้น สองสามหยด ซึ่งเป็นเลือดของผู้ต้องสงสัย ระหว่าง รปภ. กับกลุ่มคนงานก่อสร้างเข้าจับกุมตัวก็เกิดการต่อสู้และชุลมุนกันเกิด ขึ้น เจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐานก็ได้ทำการบันทึกภาพจุดที่พบกองเลือดดังกล่าวเอาไว้ด้วยเช่นกัน และทางด้านคนงานต่างก็บอกเล่าเป็นเสียงเดียวกันว่าได้ยินเสียงเอะอะโวยวายแต่ก็ไม่รู้ต้นสายปลายเหตุว่าเกิดอะไรขึ้นพอมารู้อีกทีก็เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว ส่วนเรื่องของผู้ตายได้ถูกทำร้ายจนเสียชีวิตหรือไม่ตรงนี้ยังไม่มีใครที่ชี้ชัดได้เพราะตอนเกิดเหตุนั้นไม่มีคนเห็นเหตุการณ์นอกจากผู้ต้องสงสัยเพียงคนเดียวเท่านั้นที่รู้

จากการสอบถาม นาย เอกไทร ( ขอสงวนนามสกุล ) อายุ 54 ปี เป็น รปภ.ที่ออกมาเจอ นาย (คนก่อเหตุ) กับ เบน (คนงาน) กำลังกอดรัดกัน บอกว่า ตนกำลังจะไปส่งใบงานให้หัวหน้างานอีกฝั่งนึง เดินออกมาเห็นกำลังดึงกันไปดึงกันมาอยู่ แล้วพอหันมาเห็นตน คนเมาชื่อ นาย ก็มากอดคอตน ตนก็เห็นท่าไม่ดีจึงสลัดฟัดกันไปมา คนงานอีกฝั่งนึงเห็นว่ามีเรื่องกันก็ข้ามมาช่วยกันจับอีก ตอนนั้นยังไม่รู้เลยว่ามีคนตายในน้ำ จนมีหัวหน้างานบอก เพราะเค้าเห็นมีขาโผล่ขึ้นมา

 

นาย สิริเสก ( ขอสงวนนามสกุล ) อายุ 56 ปี เป็นผู้ดูแลพื้นที่ไซต์งาน บอกว่า มีคนโทรไปบอกตนว่าพบศพคนตาย แล้วไม่แน่ใจว่าคนที่มาทำร้าย รปภ. ซึ่งอยู่ในความดูแลของตน มีส่วนเกี่ยวข้องกันมั้ย ตนจึงออกมาดูก็เห็นผู้ก่อเหตุ ได้รับบาดเจ็บด้วย ก็เป็นคนงานที่นี่ แต่ตนยังไม่รู้ว่าคนตายเป็นใคร ต้องเห็นหน้าก่อนถึงจะบอกได้ว่าเป็นใคร

 

ส่วนนาย กิตติพงษ์ ( ขอสงวนนามสกุล ) อายุ 45 ปี รปภ.ด้านใน บอกว่า มีคนโทรไปบอกตน เพราะตนอยู่ในป้อมข้างออฟฟิศด้านใน พอตนออกมาก็เห็นฟัดกันนัวหลายคนแล้ว ตนจึงเข้าไปช่วยกันแยก แต่คนชื่อ นาย ที่เมา ฮึดสู้ ก็ต้องจับกันหลายคน จึงเป็นเหตุให้คนก่อเหตุได้รับบาดเจ็บ

 

และทางด้าน นางสาว อรญา ( ขอสงวนนามสกุล ) อายุ 27 ปี เป็นเจ้าหน้าที่เซอร์เวย์ บอกเล่าว่า ตนนั่งดื่มกินอยู่กับ เบน เพื่อนของตน แล้วคนเมาที่ชื่อ นาย มาตามบอกว่าไปช่วยเพื่อนผมหน่อย มายกมือไหว้ ตนก็ห้าม เบน ไม่ให้ออกไปเพราะลักษณะไม่ดี เมามาก และไม่รู้จักกัน แต่คนชื่อ นาย ก็ลากออกไปข้ามฝั่งมา ตนจึงไปตามหัวหน้างานตามออกไปดู ก็เห็นกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันกับ รปภ. อีกฝั่งนึง ตนกับหัวหน้างานก็ข้ามไปก็ถึงได้รู้ว่ามีคนตายในน้ำด้วย

 

 

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สรุปถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ต้องรอผลพิสูจน์จากทางแพทย์นิติเวช และต้องรอผลสรุปจากการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แล้วต้องรอสอบถามจากตัวผู้ต้องสงสัยก่อนถึงจะสรุปเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดได้ ถึงจะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป ส่วนทางญาติพอรู้ว่า คนตายผู้เป็นญาติก็ติดใจถึงสาเหตุของการเสียชีวิต เพราะ เมื่อตอนเย็นประมาณ 5 โมง ยังนั่งกินกันอยู่หน้าห้องแต่ก็ไม่รู้สาเหตุว่าข้ามมาฝั่งนี้ได้ยังไง มาทำอะไรกัน และจากการตรวจสอบสภาพศพไม่มีบาดแผลก็ตามแต่ทำไมถึงมีเลือดออกจากปากของศพได้

โชติกา ม่วงใจรักษ์ ผู้สื่อข่าว กทม.