ข่าวทั่วไป

หน่วยกู้ภัยยุติภาระกิจค้นหาศรีษะของ นายวาสนา ที่ถูกหลานชายฆ่าตัดคอนำศรีษะไปทิ้งในบ่อดินหลังค้นหามา2วันแต่ไม่มีวี่แววว่าจะพบรอให้ลอยขึ้นมาเองอาจใช้เวลา2-3วันหลังจากนี้ ด้านญาติที่ไปเยี่ยมที่โรงพักเผยสาเหตุมาจากเรื่องที่คิดว่าอาไปกล่าวหาดูถูกว่าพ่อตัวเองขโมยทีวีและไม่เสียใจที่ทำลงไปคิดดีแล้ว ยืนยันนำศรีษะไปทิ้งได้บ่อทรายจริง

 

หน่วยกู้ภัยยุติภาระกิจค้นหาศรีษะของ นายวาสนา ที่ถูกหลานชายฆ่าตัดคอนำศรีษะไปทิ้งในบ่อดินหลังค้นหามา2วันแต่ไม่มีวี่แววว่าจะพบรอให้ลอยขึ้นมาเองอาจใช้เวลา2-3วันหลังจากนี้ ด้านญาติที่ไปเยี่ยมที่โรงพักเผยสาเหตุมาจากเรื่องที่คิดว่าอาไปกล่าวหาดูถูกว่าพ่อตัวเองขโมยทีวีและไม่เสียใจที่ทำลงไปคิดดีแล้ว ยืนยันนำศรีษะไปทิ้งได้บ่อทรายจริง

ความคืบหน้าคดีสะเทือนขวัญ เหตุการณ์ นายเกียรติศักดิ์ รักจิตร์ อายุ 36ปี หรือเอก ใช้มีดไล่ฟันและฆ่าตัดศรีษะ นายวาสนา รักจิตร์ อายุ 52 ปี ซึ่งเป็นอาแท้ๆแล้วนำศรีษะไปทิ้งในบ่อทราย เหตุการณ์ในพื้นที่หมู่1 บ้านหนองจอก ต.เขาพระ อ.รัตภูมิ จ.สงขลา เมื่อวานนี้โดยอ้างว่าโกรธแค้นที่ผู้ตายไปต่อว่าพ่อหาว่าไปขโมยทีวี

ล่าสุดในวันนี้ได้มีการระดมนักประดาน้ำของกู้ภัย 5 หน่วย มาช่วยกันดำน้ำค้นหาศรีษะของ นายวาสนา ทั้งหน่วยกู้ภัยมูลนิธิมิตรภาพสามัคคีท่งเซียเซี่ยงตึ้งหาดใหญ่และชุดประดาน้ำมูลนิธิช่งเต๊กเซี่ยงตึ้ง อ.เมืองพัทลุง ชุดประดาน้ำมูลนิธิกู้ภัยร่มไทร จ.สตูล และหน่วยกู้ภัยรัตภูมิธรรมาวาส

โดยเริ่ม 2 รอบรอบเช้าตั้งแต่ช่วง 10 โมงครึ่งและรอบบ่ายตั้งแต่บ่ายโมงครึ่ง จนกระทั่งถึงเวลาบ่าย2โมงครึ่ง หน่วยกู้ภัยก็ต้องยกเลิกการค้นหา เนื่องจากแทบไม่มีความเป็นไปได้ที่จะหาศรีษะของ นายวาสนา เจอ

นายกิตตินัย ชุณหพันธ์ หนึ่งในทีมนักประดาน้ำจากหน่วยกู้ภัยมูลนิธิมิตรภาพสามัคคี(ท่งเซียเซี่ยงตึ้ง)หาดใหญ่ ระบุว่า การดำน้ำค้นหาตลอดทั้งสองวันยังไม่มีวี่แววว่าจะพบศรีษะของ นายวาสนา จึงจำเป็นต้องยกเลิกภาระกิจ เพราะความเป็นไปได้ในจุดที่ลงไปงมหาตามที่ผู้ต้องหาให้การนั้นแทบไม่มีรวมทั้งได้ขยายพื้นที่ดำน้ำค้นหาออกไปอีก 400 เมตร ก็ยังไม่เจอซึ่งระดับน้ำในบ่อดินลึกประมาณ 6-7 เมตร และบางจุดก็มีอุปสรรคต้นไม้ใหญ่จมอยู่ในน้ำและเป็นโพรงซึ่งหน่วยกู้ภัยก็เข้าไปสำรวจแล้วแต่ก็ไม่พบ หลังจากนี้ต้องรอให้ศรีษะลอยขึ้นจากน้ำเองซึ่งอาจใช้เวลา 2-3 วัน

อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะยกเลิกภาระกิจการดำน้ำค้นหาแต่หน่วยกู้ภัยได้ใช้วิธีปูพรมเดินเรียงหน้ากระดานจากบ่อทรายขึ้นไปบนเขาที่เป็นป่าสวนยางและทะลุไปยังบ้านเกิดเหตุได้เพราะไม่แน่ว่าผู้ต้องหาอาจจะนำไปทิ้งในป่าก็เป็นได้ แต่หลังปูพรมค้นหาก็ยังไม่เจอ

ด้านนางถนอม ศรีพิโรจน์ อายุ62ปี พี่สาวของ นายวาสนา คนตาย บอกว่า หลังจากที่กู้ภัยยกเลิกการค้นหาศรีษะของน้องชาย ญาติยังมีความหวังว่าศรีษะจะลอยขึ้นมาเองเพื่อที่จะรอนำไปประกอบพิธีทางศาสนาซึ่งตอนนี้ตัวยังรออยู่ที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์

และวันนี้ได้ไปเยี่ยม นายเกียรติศักดิ์ หลานชายที่ก่อเหตุที่สภ.รัตภูมิและถามว่าเอาศรีษะไปทิ้งที่ไหนก็ยืนยันว่าทิ้งที่บ่อทรายแห่งนี้และพูดสั้นๆแค่นั้น

ส่วนสาเหตุที่โกรธแค้นจนต้องฆ่าตัดคอ ก็มาจากเรื่องที่หลานชายโกรธอา ที่ไปกล่าวหาว่าพ่อของเขาไปขโมยทีวี ซึ่งไปดูถูกพ่อของเขา ทำให้เขาโกรธแค้นแต่ก็ไม่มีใครคิดว่าจะทำกันถึงขนาดนี้ ซึ่งเรื่องนี้มาจากที่พ่อของหลานจะเข้าไปยกทีวีในบ้านของอาแต่อากลับมาทันจึงได้พูดตำหนิไปว่าอย่าทำแบบนี้

ด้านญาติอีกคนที่ไปเยี่่ยมนายเกียรติศักดิ์ ที่สภ.รัตภูมิ บอกว่า ตอนไปเยี่ยมอาการเหมือนคนปกติไม่มีอาการของคนสร่างเมายาและไม่จากการตรวจก็ไม่พบสารเสพติดในร่างกายเหมือนกับไม่ได้เล่นยามาสักพักเพราะว่าไม่มีเงิน

และเมื่อถามว่าทำไมทำแบบนี้ก็ตอบว่าตัดสินใจดีแล้วไม่เสียใจและยอมรับผลกรรม ส่วนศรีษะก็ยืนยันว่านำไปทิ้งได้บ่อทรายจริงๆ ส่วนสาเหตุที่ทำก็บอกว่ามาจากเรื่องที่อาไปหาว่าพ่อขโมยทีวีแต่ก็ไม่รู้ว่าเรื่องจริงหรือไม่ และตอนไปเยี่ยมก็บอกว่าไม่น่าทำแบบนี้เพราะเป็นญาติกันแต่ตอบกลับมาว่าตัดสินใจดีแล้วและยอมรับผลของการกระทำหลังจากนี้

พี่เสือ นักข่าวสงขลา