ข่าวทั่วไป

โชเฟอร์แท็กซี่สุดกร่าง ไม่พอใจลุงขับแท๊กซี่ วัย 65 ปีอาชีพเดียวกันที่กดแตรขอทาง ก่อนลงมาต่อว่า ตามด้วยหมัดเข้าใต้ตาซ้ายลุงจนแตกเลือดอาบ ก่อนขับหนีลอยนวล

นนทบุรี โชเฟอร์แท็กซี่สุดกร่าง ไม่พอใจลุงขับแท๊กซี่ วัย 65 ปีอาชีพเดียวกันที่กดแตรขอทาง ก่อนลงมาต่อว่า ตามด้วยหมัดเข้าใต้ตาซ้ายลุงจนแตกเลือดอาบ ก่อนขับหนีลอยนวล
เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 27ก.ย.63 น.ส.คนึงนิจ สังข์สุวรรณ อายุ 30 ปีนำหลักฐานเข้าร้องขอความเป็นธรรมกับผู้สื่อข่าว ว่าคุณพ่อคือนายอนันต์ สังข์สุวรรณ อายุ65 ปี มีอาชีพขับรถแท๊กซี่ โตโยต้า เขียวเหลือง เลขทะเบียน มฎ-202 กทม.ได้ขับรถมารอรับผู้โดยสารตามปกติบริเวณห้างบิ๊กซีเอ็กซ์ตร้าสาขาแจ้งวัฒนะ ก่อนถึงห้าแยกปากเกร็ด เหตุเกิดวันที่ 26 ก.ย. เวลาประมาณ16.00 น. โดยขณะนั้น สังเกตุเห็นรถแท็กซี่ สีฟ้า ทะเบียน ทษ- 7603 กทม ขับปาดเข้ามาส่งผู้โดยสาร อยู่หน้ารถตนเอง ก่อนที่ผู้โดยสารจะลงจากรถไป แต่แท็กซี่คันดังกล่าวก็ไม่ได้ออกไปยังคงจอดรอรับผู้โดยสารต่อจอดติดกับหน้ารถของตน เป็นเวลาเดียวกันกับที่ตนเองได้รับผู้โดยสาร จำนวน 4 คนที่เรียกให้ไปส่งย่านกรมชลประทาน แต่ตนเองไม่สามารถที่จะออกได้ เนื่องจากติดแท็กซี่คันดังกล่าว ตนจึงได้กดแตรรถไป 1 ครั้ง เพื่อขอทางให้รถแท็กซี่คันหน้านั้นช่วยขยับให้หน่อยแต่ปรากฎว่าคนขับรถแท็กซี่คันดังกล่าว ซึ่งเป็นชายรูปร่างสูงใหญ่ อายุประมาณ 40 ปีได้เดินมาฝั่งด้านคนขับแล้วเคาะกระจกให้ตนเองลดกระจกลง ก่อนจะถามคำถามว่า “กดแตรทำไม” ซึ่งนายอนันต์ก็ตอบกลับไปว่า ผมกดขอออกหน่อยครับ รถผมออกไม่ได้ ไม่ทันขาดคำ ชายคนขับแท็กซี่หัวร้อน ก็สาวกำปั้นเข้าเต็มใบหน้าของตนต่อหน้าผู้โดยสารทั้ง 4 คน จนใต้ตาซ้ายแตก ก่อนขับรถหนีไปหน้าตาเฉย

หลังเกิดเหตุ ตนได้โทรบอก น.ส.คนึงนิจ หรือน้องเพชร บุตรสาวให้ทราบเรื่อง อีกทั้งยังได้รับการช่วยเหลือจากผู้โดยสารซึ่งเป็นหญิง 3 คน ชาย 1 คนที่นั่งอยู่ในรถ และเห็นเหตุการณ์ ช่วยกันจดหมายเลขทะเบียนรถของแท็กซี่คันก่อเหตุไว้ได้ ก่อนที่ตนเองจะไปส่งผู้โดยสาร แต่ระหว่างทางผู้โดยสารชายที่นั่งหน้าคู่กับตนและผู้โดยสารหญิงที่นั่งหลัง 3 คน เห็นว่าเลือดตนเองบนใบหน้าไหลออกมากตลอดเวลา จึงบอกให้ตนเองรีบไปหาหมอ โดยทั้งหมดกล่าวว่า ไม่ต้องห่วงนะลุง เด๋วพวกผมลงกลางทางนี่แหละ ลุงรีบไปทำแผล ที่ร.พ.ชลประทาน ที่อยู่ใกล้เคียงนี่เลย

หลังพบแพทย์และทำการรักษาทางแพทย์ต้องเย็บใต้ตาซ้ายที่แตกให้ 1 เข็ม และให้เฝ้าดูอาการภายใน 7 วันนี้ ก่อนจะทำการนัดตรวจและตัดไหมอีกครั้ง หลังจากนั้นตนเองและบุตรสาว ได้พากันเดินทางเข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.บุชิต ทิมา รองสว.สอบสวน สภ.ปากเกร็ด เพื่อให้ดำเนินคดี และติดตามโชเฟอร์แท็กซี่หัวร้อนรายนี้ต่อไป

ภาพ/ข่าว โดย ต้อง นนทบุรี