ผู้ปกครองแจ้งความเพิ่มเจ้าของเนอสเซอรี่ทำร้ายเด็กด้านพี่เลี้ยงเครียดตกงานวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือ
ความคืบหน้ากรณีเจ้าของเนอสเซอรี่แห่งหนึ่งในอ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ทำร้ายเด็กๆโดยเฉพาะกับเด็กบางคนที่ชอบร้องให้พูดไม่ฟัง ทั้งใช้วิธีนั่งทับเด็ก เทนมราดหัวและบางคนถึงขั้นมีรอยบวมช้ำที่ตาและเริ่มมีผู้ปกครองของเด็กเข้าให้ข้อมูลกับตำรวจแล้วอย่างน้อย5คน
ล่าสุดเมื่อช่วงเย็นของ วันนี้วันที่ 9 เมษายน 66 ทางผู้ปกครองได้เข้าแจ้งความเพิ่มอีก4 คน โดยทางพนักงานสอบสวนได้ให้ทุกคนได้ลงชื่อและเบอร์ติดต่อกลับไว้ และจะเรียกแต่ละคนมาสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง1
ด้านพนักงานที่ทำงานอยู่วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือเนื่องจากพวกตนตกงานทันทีหลังมีเรื่องและเนอสเซอรี่ถูกสั่งปิด และบางคนยังกังวลว่าไปสมัครงานที่ใหนแล้วไม่มีคนรับเข้าทำงานหากรู้ว่าเคยทำงานที่เนอสเซอรี่ปฐมวัย
อดีตพนักงานยังแฉเพิ่ม ภาพลักษณ์ภายนอกของเนอสเซอรี่ดูดีแต่ข้างนั้นไม่คุ้มกับค่าเลี้ยงดู เช่นเรื่องการกิน เช้ามาเด็กจะกินข้าวต้มโจ๊กเดิมๆ และตอนเที่ยงจะเป็นกับข้าวสองอย่างไม่มีผลไม้ ส่วนตอนบ่ายนั้นเป็นแค่ขนมปี้บธรรมดา ส่วนเจ้าของนั้น มีอารมขึ้นๆลงมีอาการหงุดหงิด กับพนักงานหรือกับเด็กเองไม่ว่าเด็กคนนั้นงอแงหรือเด็กคนนั้นไม่ยอมทำกิจกรรมต่างๆ จะหิ้วไปมุมอับ ส่วนมากแล้วจะลากเข้าห้องพยาบาลและบางครั้งปิดประตูขังเด็ก และมีเด็ด2-3คนที่ถูกขังไว้ ไม่ได้ไปนอนในห้องแอร์เหมือนเด็กคนอื่นและยังมีพฏติกรรมลากเด็กเข้ามุมและมีการขึ้นไปนั่งทับ ช่วงอกหรือช่วงท้องแล้วแต่ขนาดเด็ก แล้วเอามือปิดปาก เด็กเล็กอายุ 4เดือน ถึง1ขวบก็โดนขึ้นไปนั่งทับ เกือบ 30 วินาที ซึ่งค่อนข้างจะโหดร้าย
อดีตพนักงาน ยังเล่าอีกว่าตอนนั้นมีเด็กประมาณ 120 คน ส่วนเด็กที่โดนกระทำนั้น ตามหลักฐานประมาณ 6-7 คนแต่ อาจจะมีเพิ่มเติม และอายจะถึง 30-40เปอร์เซ็นของเด็กที่รับเลี้ยง อยากให้ทางหน่วยงานสั่งปิดเนอสเซอรี่ และอยากให้ทางกรมแรงงานเข้ามาช่วยเหลือพนักงานด้วยเนื่องจากคาดว่าทางเนอสเซอรี่คงไม่ดูแลพนักงาน
ส่วนความคืบหน้าทางคดีตอนนี้ ทางนาย ทนายอาร์มเปิดเผยว่า
ตอนนี้เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาไปแล้วเรื่องพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก และทราบว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการนำตัวไปฝากขังที่ศาลและทราบมาว่าศาลได้ให้ประกันตัว และส่วนตรงนี้ผมก็ได้รวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม และผู้ปกครองทั้งหลายที่ต้องการจะเอาผิด ก็มาให้การเพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวนเชื่อว่าเรื่องนี้ ถ้ารวบรวมไปแล้วอาจจะมีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มก็ได้ และตอนนี้ในส่วนคดีเท่าที่ทราบอาจจะมีหลายคดีหรือคดีเดียวมีหลายกรรม และก็ต้องสอบถามพนักงานสอบสวนอีกครั้งนึง เพราะฉะนั้นผู้ปกครองที่มีลูกอยู่เค้าสอบถามผมมาเยอะว่า ไม่มีภาพไม่มีคลิปจะเอาผิดได้ไหม และผมบอกว่า ผู้ปกครองทุกคน คือผู้เสียหาย คุณสามารถมาแจ้งได้ว่าคุณเป็นผู้ปกครองของน้องคนนั้นน้องคนนี้ และบอกว่าน้อง เคยมีอาการแบบนี้ ซึ่งจะเป็นความผิดอาจจะเป็นเหตุนี้ อาจจะเกิดกับบุคคลคนนี้ซึ่งสามารถ ซึ่งเราสามารถมาแจ้งได้เลยเพราะเราเป็นผู้เสียหาย และเราอยู่ในสถานที่ที่ไม่ปลอดภัยและลูกเราอยู่ในสถานที่ไม่ปลอดภัย
และตอนนี้ในชั้นต้นพนักงานสอบสวนได้แจ้งขออายัดคัดค้านการประกันตัว ซึ่งศาล อนุญาตให้ประกันตัว ก็ต้องเคารพศาล เพียงแต่ว่าหลังจากนี้ถ้ามีการมายุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน มาติดต่อครูพี่เลี้ยงมาทำให้พยานหลักฐาน บิดเบือนจากข้อเท็จจริง ผมจะนำผู้ปกครองไปยื่นต่อศาลขอคัดค้านการประกันตัว และนำตัวบุคคลดังกล่าวเข้าไปในเรือนจำอีกทีนึง
ผู้ปกครอง เปิดเผยว่า ภาพที่เราเห็นที่ออกข่าวไปก็หดหู่เพราะว่าเราไม่เคยตี ตอนมาก็มีเลือดข้างแก้มพอเราถามก็บอกว่าเด็กเกา จริงๆลูกเราไม่ได้แพ้แมชอย่างที่เขากล่าวหา เรามีหลักฐานรูปภาพและมีหลักฐานรูปภาพอีกรูปนึงแต่เรายังไม่เปิดเผย จะเก็บไว้ในชั้นศาล จะให้ศาลพิจารณา และเขายังไม่ได้เห็นภาพนี้ด้วย เราจะได้เอาเรื่องเขาให้ถึงที่สุดเพราะว่า การกระทำต่อเด็กและทำร้ายจิตใจเด็ก ทำให้เด็กฝังใจ เด็กมันฝันร้ายตลอด ทำให้เวลานอนก็มีสะดุ้งบ้างอะไรบ้าง หลังจากที่เขาได้กระทำแบบนั้นไป เรามีหลักฐานที่เป็นรูปภาพชัดเจนแน่นอน และก็อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาช่วยดำเนินการเกี่ยวกับคดีนี้ด้วย
และส่วนมากจะไปที่ห้องพยาบาล และคนไหนที่ร้องไม่หยุดก็มีกักขัง ขึ้นไปนั่งทับปิดปากบ้าง และคนไหนที่เด็กแรงดีหน่อยก็เอามือไปปิดปาก เด็กดิ้นเล็บโดนหน้า เป็นแผล และหลังจากวันนั้นเราพาเด็กไปตรวจร่างกายว่าแพ้แมชจริงหรือเปล่าแต่ ไม่มีการแพ้ แมสผลตรวจออกมา ก็คือว่ามันเป็นแผลที่เกิดจากการกระทำ เราก็เสียค่าใช้จ่ายในส่วนโรงบาลไปเราจ่ายตางหาก อีกครั้งหนึ่งก็คือลำไส้อักเสบแต่ก็ต้องตรวจสอบอีกครั้งนึงจะเกี่ยวกับเขาหรือเปล่า แต่เด็กในโรงเรียนส่วนมากเป็นลำไส้อักเสบเกือบทุกคน เวลาให้กินก็มีโต๊ะถ่ายรูปให้ผู้ปกครองดูแต่เวลาจริงๆเค้าให้เด็กนั่งกินกับพื้น และเรามีรูปถ่ายด้วยว่าให้นั่งกินกับพื้น แต่เวลาส่งภาพมาให้ผู้ปกครองจะเป็นอีกภาพหนึ่ง และฝากบอกไปถึงโรงเรียนว่าในคดีนี้ผู้ปกครองเป็นจำนวนมากเจ็บช้ำน้ำใจ คุณสมควรจะออกมาให้ข่าวว่ามันเกิดอะไรขึ้น และยอมรับในความเป็นจริงในสิ่งที่คุณทำ สังคมก็ต้องการคำตอบจากคุณเหมือนกันและผู้ปกครองทุกท่าน ก็เครียดกันทุกคน
ในสวนค่าเล่าเรียนปกติโรงเรียนอื่นเค้าคิดปีนึงเป็นสองเทอม แต่โรงเรียนนี้สี่เดือนจ่ายครั้งหนึ่ง 20,000 กว่าบาทถือว่าไม่ใช่น้อย กว่าเราจะเลือกโรงเรียนแล้วเราดูแล้วว่ามีกล้องวงจรปิด แต่เวลาเค้ากระทำต่อเด็กเค้าจะพาไปที่ที่เป็นมุ่มอัพของกล้อง ที่กล่องไม่เห็นไป ห้องพยาบาลบ้าง มามุมอัพในห้องลูกชายของผมบ้าง คือห้องหนึ่ง มันจะมีมุมที่กล้องวงจรปิดถ่ายไปไม่ถึง
พี่เสือ นักข่าวสงขลา
