ข่าวทั่วไป

สลด!!พบหนุ่มวัย 30 ปี ดับสลดข้างถนนสายเปลี่ยว ย่านท่าข้าม 

สลด!!พบหนุ่มวัย 30 ปี ดับสลดข้างถนนสายเปลี่ยว ย่านท่าข้าม

วันที่ 12 เมษายน 2566 เวลา 22.50 น.

พันตำรวจโท ทศพล ปานกัน สว.สอบสวน สน.ท่าข้าม รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์เสียหลักพลิกคว่ำ และภายในที่เกิดเหตุมีผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย จุดเกิดเหตุอยู่ภายในซอยอนามัยงามเจริญ 25 แยก 2 -7 จึงรีบรุดจัดกำลัง พร้อมประสานแพทย์นิติเวช ศิริราช และอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เร่งรัดตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที

เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมอาสาสมัคร มาถึงที่เกิดเหตุพบจุดเกิดเหตุอยู่ภายในซอย อนามัยงามเจริญ 25 แยก 2-7 ถนน อนามัยงามเจริญ แขวง ท่าข้าม เขต บางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร เป็นลักษณะ ถนน 2 เลนสวนกัน ภายในจุดเกิดเหตุค่อนข้างที่จะมืดและเปลี่ยว พบศพ นาย วิชัย ( ขอสงวนนามสกุล ) อายุ 30 ปี เมื่อพบครั้งแรกอยู่ในลักษณะ นอนคว่ำหน้าอยู่กับพื้นถนน โดยมีรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น เวฟ 125i สีขาว ทะเบียน 6 กฉ 9286 กรุงเทพมหานคร ล้มตะแคงคว่ำทับร่างผู้เสียชีวิตอยู่ อาสาสมัครให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้นโดยการทำ CPR อยู่นานอย่างสุดความสามารถแล้วแต่ไม่เป็นผล คาดว่าผู้ตายน่าจะอยู่ในลักษณะนี้มานานแล้วและอาจจะทนไม่ไหวจึงเสียชีวิตภายในที่เกิดเหตุก่อนที่จะมีพลเมืองดีผ่านมาพบเห็น

 

เมื่อตรวจสอบร่างกายพบบาดแผลแตกบริเวณปลายคางเป็นลักษณะแผลเปิด และตามร่างกายมีบาดแผลถลอกหลายแห่ง ที่บริเวณศรีษะมีบาดแผลถลอกผมหลุดร่วงอยู่กับพื้นถนน พบกระเป๋าสะพายข้างแบบผู้ชายสีดำ มีบัตรประชาชน และโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเก็บรวบรวมทรัพย์สินทั้งหมดที่พบภายในที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบถาม ผู้เห็นคนแรก บอกเล่าว่า ตนขี่รถมาตามทางซึ่งทางค่อนข้างเปลี่ยวและมืด มีไฟดับอยู่ดวงนึงก่อนถึงที่เกิดเหตุ ตนขี่ลงสะพานมาก็เห็นเป็นรถมอไซค์ เวฟ ช่วงโซ่ล้อหลังตรงสเตอ ทับอยู่บนคอเค้าอยู่ ก่อนหน้านั้นก็ไม่มีรถผ่านไป ไม่ได้ยินเสียงอะไร หลังรถตนก็มีรถตามมาคันนึง ตอนตนลงมาจากสะพานก็เกือบจะมองไม่เห็น เกือบเบรคไม่ทันเหมือนกัน เพราะไฟดวงมันดับดวงนึง

 

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจและแพทย์นิติเวชศิริราชมอบหมายให้อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งนำร่างผู้เสียชีวิตไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งที่นิติเวชศิริราช และจะตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดภายในบริเวณที่เกิดเหตุอีกครั้งก่อนจะเร่งติดตามหาญาติให้มารับเอกสารหลักฐานไปรับร่างผู้เสียชีวิตเพื่อไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป

 

โชติกา ม่วงใจรักษ์ ผู้สื่อข่าว กทม.