ข่าวทั่วไป

พรรคภูมิใจไทยถือฤกษ์ดีวันปีใหม่ไทยเปิดเวทีปรายศรัยพื้นที่ เขต 2 สงขลา ชูโยบายตอบโจทย์พัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชน โดยเฉพาะกองทุนคนสูงอายุ 60 ปี ที่จะมีกินไม่อดตาย รวมทั้งเล็งฟื้นฟูหาดใหญ่ทำเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษเพื่อการท่องเที่ยวเป็นแหล่งขายสินค้าปลอดภาษีเหมือนในอดีต เชื่อสามารถทำได้ และภาคใต้ตั้งเป้ากวาดเก้าอี้ สส.เขต 20 ที่นั่ง ขอชาวสงขลาสนับสนุน

พรรคภูมิใจไทยถือฤกษ์ดีวันปีใหม่ไทยเปิดเวทีปรายศรัยพื้นที่ เขต 2 สงขลา ชูโยบายตอบโจทย์พัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชน โดยเฉพาะกองทุนคนสูงอายุ 60 ปี ที่จะมีกินไม่อดตาย รวมทั้งเล็งฟื้นฟูหาดใหญ่ทำเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษเพื่อการท่องเที่ยวเป็นแหล่งขายสินค้าปลอดภาษีเหมือนในอดีต เชื่อสามารถทำได้ และภาคใต้ตั้งเป้ากวาดเก้าอี้ สส.เขต 20 ที่นั่ง ขอชาวสงขลาสนับสนุน
เมื่อช่วงเย็นวันที่ 16 เม.ย. 66 ที่ลานตลาดนัดยรรยยง เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ จ.สงขลา ทางพรรคคภูมิใจไทย ได้เปิดเปิดเวทปราศรัยใหญ่ขึ้นในพื้นที่เขตเลือกตั้งที่ 2 จ.สงขลา ซึ่งมีพื้นที่ในขต ต.หาดใหญ่ และ ต.คลองอู่ตะเภา อ.หาดใหญ่ โดยถือเอาฤกษ์ดีในวันนี้ ซึ่งเป็นวันเถลิงศก หรือวันขึ้นปีใหม่ไทย เปิดเวที

โดยมีผู้ร่วมปราศรัยนำทีมโดย นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะกรรมการ และแม่ทัพใหญ่ภาคใต้ของพรรคภูมิใจไทย พร้อมด้วย นายเจษฎาพงศ์ ชูแก้ว หรือ รองรักษ์ ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) จังหวัดสงขลา เขต 2 รวมทั้งผู้สมัครในเขตเลือกตั้งอื่นๆของ จ.สงขลา และทีมงานพรรค เข้าร่วม และมีปะชาชนในพื้นที่เดินทางมารับฟังกันแน่นพื้นที่มากกว่า 3,500 คน
สำหรับในช่วงแรกได้มีการปราศรัยจากบบรรดาผู้สมัคร สส. ในแต่ละเขตที่เดนทางมาร่วมเวทีในครั้งนี้ รงมทั้งได้กล่าวถึงความสำเร็จของพรรคภูมิใจไทยที่ได้ร่วมรัฐบาล และมีผลผงานเป็นที่ประจักษ์ โดยเฉพาะใน 3 กระทรวงหลัก ทั้งกระทรวงสาธารณสุข โดยเฉพาะการจัดสรรวัคซีนวิด 19 ที่ จ.สงขลา มีผู้ได้รับวัคซีนเกินกว่าร้อยละ 70 เป็นกลุ่มจังหวัดแรกๆของประเทศ รวมทั้งผลงานของกระทรวงคมนาคม และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
โดย นายเจษฎาพงศ์ ชูแก้ว หรือ รองรักษ์ ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) จังหวัดสงขลา เขต 2 เผยว่า ทุกวันนี้รัฐมนตรีท่องเที่ยวและกีฬาทำงานหนักมาก เพื่อพัฒนา อ.หาดใหญ่ รวมทั้ง จ.สงขลา ที่เป็นบ้านเกิดเมืองนอน อีกทั้ง สส. ในพื้นที่ที่จะคอยช่วยงาน หรือรายงานปัญหาที่เกิดขึ้น ก็ไม่มี ตนจึงอยากขอโอกาสพี่น้องชาวหาดใหญ่ในการเข้ามาเติมเต็มในจุดนี้
ซึ่งจากการเดินทางพื้นที่มาระยะหนึ่งพบว่า หลายนโยบายของพรรคได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และสามารถแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนได้อย่างตรงจุด และยังสามารถช่วยให้ประชาชนลืมตาอ้าปากได้จากนโยบายที่มีส่วนในการช่วยเหลือค่าครองชีพ และเงินทุนที่เข้าถึงได้
โดยเฉพาะนโนยาบายกองทุนประกันชีวิตสำหรับผู้ที่มีอายุ 60 ปี ขึ้นไป ซึ่งสอดคล้องกับสังคมไทยที่กำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ซึ่งกลุ่มคนเหล่านี้จะได้รับกรมธรรพ์คนละ 100,000 บาท เมื่อเสียชีวิตทายาทจะได้รับ อีกทั้งในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ก็ยังสามารถใช้กรมธรรพ์นี้กู้เงินได้อีก 20,000 บาท เพื่อเอาไปใช้จ่ายดำรงชีพ หรือเป็นเงินฉุกเฉิน เงินหมุนเวียนได้
นอกจากนี้นโยบายเกี่ยวกับเรื่องสนับสนุนโซล่าเซลล์ในครัวเรือนก็ยังได้รับความสนใจจากประชาชนมากเช่นเดียวกัน ซึ่งค่อนข้างตอบโจทย์ตรงความต้องในช่วงพลังงานแพงแบบนี้ ส่วนนโยบายอื่นๆที่เน้นหนักทั้งเศรษฐกิจ และการค้า การท่องเที่ยว ของเมืองหาดใหญ่ ก็ยังคงเดินหน้าพัฒนาเหมือนเดิม
ด้าน นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ ในฐานะกรรมการ และแม่ทัพใหญ่ภาคใต้ของพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ในภาคใต้ พรรคภูมิใจไทย ส่งผู้สมัคร สส. รวม 59 เขต ขาดเพียงเขตเดียวที่ไม่ส่งคือ เขต 6 จ.สงขลา เนื่องจากผู้สมัครขาดคุณสมบัติ จึงไม่ได้ส่ง


โดยกระแสพรรคใน 14 จังหวัดภาคใต้ จากเดินทางลงพื้นที่หลายจุดพบว่า ได้รับความนิยมจากประชาชนมากขึ้นกว่าการเลือกตั้งปี 62 ซึ่งในครั้งในได้ สส. เขต 8 คน และปาร์ตี้ลิสต์ 3 คน โดยในปีนี้ตั้งเป้าคาดว่า น่าจะสามารถเบียดแย่งเก้าอี้ สส.เขต ได้เพิ่มเป็น 20 เขต ส่วนใน จ.สงขลา ส่งผู้สมัคร สส.เขต 8 จาก 9 เขต ซึ่งมีความมั่นใจ และหวังว่า จะได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชน และตนก็เป็นคนสงขลาเหมือนกัน
นอกจากนั้นพื้นที่ อ.หาดใหญ่ ตนก็มีแนวคิดที่จะพัฒนาให้กลับมาเป็นหาดใหญ่ที่เจริญรุ่งเรืองเหมือนในอดีต โดยมีแนวคิดที่จะทำให้เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษเพื่อการท่องเที่ยว โดยเฉพาะในย่านตลาดกิมหยง และตลาดสันติสุข กลางเมืองหาดใหญ่ จะผลักดันให้เป็นพื้นที่ขายสินค้าปลอดภาษี ราคาถูก เหมือนแต่ก่อน และจะมีการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในส่วนของการผ่อนปรน และข้อกฎหมายต่างๆ เพื่อให้พ่อค้าแม่ค้าสามารถค้าขายกันได้อย่างถูกต้อง และสบายใจ
รวมทั้งจะมีการดึงห้างสรรพสินค้าหรือศูนย์การค้าใหญ่ๆ มาขายสินค้าแบรนด์แนม และสินค้าคุณภาพสูง ลักษณะคล้ายกับการซื้อของในดิตี้ฟรีสนามบินชั้นนำ ซึ่งจะคลอบคลุมลูกค้าทุกกลุ่ม และทำให้หาดใหญ่กลับมาเป็นศูนย์กลางการค้าขายเหมือนในอดีต ส่วนด้านการท่องเที่ยว และกิจกรรมพิเศษต่างๆ ในพื้นที่ ก็จะสานต่อ และขยายความร่วมมือไปทั้งมนและต่างประเทศให้ดียิ่งขึ้นไปอีก
/////

พี่เสือ นักข่าวสงขลา