ร้อยเอ็ด/…
ลิ้นจี่ ที่ดงแม่เผด รสหวาน-อม-เปรี้ยว อร่่อยๆ มีกลิ่นเอกลักษณ์เฉพาะตัว.เพราะเกิดในป่าปล่อยตามธรรมชาติ
ท้าวความหลังครั้งอดีตดงแม่เผด (ชาวบ้านเรียกดงแม่เปรต)จากคำบอกเล่าเรื่องราวจากปากคุณครู เอกพพงษ์ หามะฤทธิ์ ครูโรงเรียนประถมศึกษา บ้านคำนาดี ต.คำนาดี อำเภอ.โพนทอง จังหวัด.ร้อยเอ็ด อดีตเมื่อ50 ปีที่ผ่านมาดงแม่เผดเป็นดงที่ใหญ่ที่สุดในภาคอีสานตอนกลาง กินพื้นที่ อำเภอโพนทอง อำเภอโพธิ์ชัย,หนองพอกและเมยวดีจังหวัดร้อยเอ็ด /อำเภอร่องคำ ,อำเภอกมลาไสย,อำเภอดอนจาน อำเภอนามน อำเภอสมเด็จ อำเภอห้วยผึ้ง และอเภอกุฉินารายณ์ จังหวัดกาฬสินธุ์
บ่ายวันนี้ 25 เม.ย.2566 ผู้สื่อข่าวรายวานว่า คุณครู เอกพพงษ์ หามะฤทธิ์ พาเดินชม ชิมลิ้นจี่ กล่าวว่า ในอดีตดงแม่เปรตเป็นป่าดงที่อุดมสมบูรณ์ใหญ่.โต และมีอาถรรพ์สารพัด จนได้ชื่อว่าดง(แม่เปรต) “ดงแม่เผด”ปัจจุบันผลไม้ป่าหลายชนิดที่ยังคงลงเหลืออยู่บ้างเช่น หมากคายข้าว หรือ เงาะป่า หมากมี้ป่า(ขนุนป่า) หมากฮายและหมากแงวหรือ(ลิ้นจี่ป่า)ผลไม้ป่าที่เอ่่ยชื่อมาปัจจุบันยังพอหากินได้บริเวณ สีแยกหินแงบหรือบริเวณน้ำผุด บ้านคำนาดี ต.คำนาดี อ.โพนทองในน้ำมีตัวปลิงเยอะกรุณาอย่าหย่อนขาลงในน้ำผุด
เหตุจูงใจ คือหมากฮายและหมากแงวท้องถิ่น หรือ(ลิ้นจี่ป่า)เกิดโดยธรรมชาติจึงเป็นเหตุจูงใจให้คุณครู เอกพพงษ์ หามะฤทธิ์ ครูโรงเรียนประถมศึกษา บ้านคำนาดี ว่าบริเวณป่าน้ำผุดของดงแม่เผดน่าจะปลูกลิ้นจี่ได้ผล
เมื่อปี พ.ศ.2542 จึงนำลิ้นจี่พันธ์ค่อมมาปลูกจำนวน 75 ต้น จนถึงปัจจุบันได้ผลทุกต้นและปล่อยตามธรรมชาติขาดการดูแล ไม่มีเวลามาดูแลรักษา เพราะว่าอยู่ในดงลึก จะมาคนเดียวไม่ได้กลัวอีกอย่างงานเลิก 4 โมงเย็น เวลานี้ในป่าแสงอาทิตย์จะลับปลายไม้บรรยากาศในป่าสิ้นแสงอาทิตย์จะมืดน่ากลัว ปลูกแล้วทิ้งเลย จะเรียกลิ้นจี่ป่าก็ไม่ผิด รสชาดหอม หวาน มีกลิ่นเอกลักษณ์เฉพาะตัว.เพราะเกิดในป่า
พ่อใหญ่ศูนย์ (ขอสงวนนามสกุล) บ้านเลขที่ 120 ม.10 ต.คำนาดี อ.โพนทอง อีกท่านหนึ่งที่มีลิ้นจี่หวาน-หอม-อร่อย กล่าวว่าเมื่อปีที่ผ่านมา2564-2565 พ่อตาของตนโค้นต้นลิ้นจี่ในไร่ทิ้งจำนวน 32 ต้นเพื่อทำไร่มันสัปหลัง คงเหลือไว้ 12 ต้น ตนเสียดายมาก (คลิป)พร้อมบอกเทคนิคทำให้ลิ้นจี่ที่มีรสเปรี้ยวอย่างเดียวมาเป็นรสหวานอม-เปรี้ยว รสชาดิอร่อยๆทำง่าย ดังนี้…กวาดใบลิ้นจี่ที่หล่นใต้ต้น หรือบริเวณโคนต้นออก แล้วรสน้ำให้ชุ่ม นำน้ำตาลทรายเทลงตรงโคนเหง้าลิ้นจี่ ประมาณครึ่งกิโลกรัมถึงหนึ่งกิโลแล้วกวาดใบลิ้นจี่กลับมากลบทิ้งไว้ แค่นี้แหละ เทคนิคทำให้ลิ้นจี่มีรสชาดดีขึน จากรสชาดเปรี้ยว จะมาเป็น-หวานอมเปรี้ยวอร่อย ถ้าท่านอยากชิมลิ้นจี่ฟรี นำกลับ้านได้ หนึ่ง กก.เชิญๆๆๆๆๆๆด่วน ด้วน ด่วนสิ้นเดือนพฤษภาคมน่าจะหมดเกลี้ยงป่า
สุเทพ ลอยแก้ว/รายงาน