ข่าวพาดหัวจับกุม

กองปราบนำทีมลงเรือตรวจการณ์ลุยจับผู้ต้องหาคดีค้ามนุษย์กลางทะเลอ่าวไทย

28-04-66 พี่เสือ นักข่าวสงขลา
กองปราบนำทีมลงเรือตรวจการณ์ลุยจับผู้ต้องหาคดีค้ามนุษย์กลางทะเลอ่าวไทยหลังจากสืบสวนทราบหนีไปทำงานเป็นกัปตันเรือ และคดีใกล้สิ้นสุดอายุความอีกไม่กี่เดือน


วันนี้(28เม.ย.66)ตำรวจกองปราบ กองกำกับการ6 กองบังคับการปราบปราม นำโดย พ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว ผกก.6 บก.ป., พ.ต.ท.วริศร มัจฉา รอง ผกก.6 บก.ป., พ.ต.ท.ทศพล กิติลาภ สว.กก.6 บก.ป.
ร่วมสั่งการให้ตำรวจกองปราบกองกำกับการ6(ชป.สงขลา) นำโดย ร.ต.อ.อนุวัฒน์ ณ ปัตตานี รอง สว.ฯ ปรก.กก.6 บก.ป, ด.ต.ชัชชัย พันธอู, ด.ต.กำพล จันทร์ทอง, ด.ต.พงษ์ชัย เจริญขวัญ, และ ส.ต.อ.กฤษฎิ์ จิตศิริ ผบ.หมู่ กก.6 บก.ป.
ร่วมกับตำรวจน้ำปัตตานี ประจำสถานีตำรวจน้ำ2 กองกำกับการ7 กองบังคับการตำรวจน้ำ ตำรวจปคม.และตำรวจ ปทส.


สนธิกำลังลงเรือตรวจการณ์ออกติดตามจับกุม นายประพาส สุเมธาโส อายุ 44 ปี ชาวต.นาปะขอ .บางแก้ว จ.พัทลุง ผู้ต้องหาคดีมนุษย์ ตามหมายจับของศาลอาญา ที่ 971/2556 ลง 4 มิถุนายน 2556
หลังจากสืบทราบว่าทำงานเป็นไต๋ก๋งเรือประมงอยู่ที่จ.ปัตตานี และกำลังออกทะเล อยู่บริเวณอ่าวไทยระยะห่างปากร่องน้ำปัตตานีประมาณ 1 ไมล์ทะเล ต.แหลมโพธิ์ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี
โดยเจ้าหน้าที่ได้นำเรือตรวจการณ์ออกตรวจสอบเรือ2ลำตามพิกัดที่ได้รับแจ้งซึ่งผู้ต้องหาทำงานอยู่โดยเป็นเรือประมง 1 ลำและเรือปั่นไฟ1 ลำซึ่งออกทำการประมงคู่กัน โดยนำเรือตรวจการณ์ตามประกบและเรียกให้จอด


จากการตรวจสอบพบ นายประภาส อยู่บนเรือปั่นไฟโดยทำหน้าเป็นกัปตันเรือ และได้แสดงหมายจับให้ดูซี่ง นายประภาส ก็ยังงงๆไม่รู้ว่าถูกออกหมายจับได้อย่างไร เจ้าหน้าที่จึงอธิบายให้ฟังพร้อมกับแจ้งข้อหาให้ทราบ
ฐานกระทำความผิดฐาน “สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ฯ และร่วมกันตั้งแต่สามคนขึ้นไปกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ด้วยการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการบังคับใช้แรงงาน
จากการสอบสวน นายประภาส ให้การว่าย้อนหลังกลับไปเมื่อราว6ปีที่แล้วเคยเป็นไต๋ก๋งเรือประมงโดยนำเรือประมงออกหาปลาในน่านน้ำมาเลเซีย และเคยมีอยู่ครั้งหนึ่งที่เจ้าของเรือประมงได้ฝากลูกเรือติดเรือไปด้วย แต่ก็ไม่ได้รู้ว่าเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์หรือไม่เพราะตนแค่รับลงเรือเท่านั้น และไม่เคยรู้มาก่อนมาถูกออกหมายจับในคดีค้ามนุษย์


หลังการจับกุมเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนายประภาส กลับเข้าฝั่งเพื่อดำเนินคดี โดยการจับกุมผู้ต้องหาค้ามนุษย์คดีนี้เหลืออีกเพียงไม่กี่เดือนก็จะหมดอายุความเจ้าหน้าที่จึงเร่งสืบสวนติดตามจับกุม จนสามารถจับกุมได้ทันเวลาแม้จะต้องลงเรือตามไปจับถึงกลางทะเลก็ตาม