คุมตัว 2 ผัวเมียสอบเค้น จ่าย 2 ล้าน เบิกทางเปิดบ่อนอินเดีย ได้เบาะแสเส้นทางการเงินเตรียมเรียกสอบยันไม่ใช่ตำรวจ เตรียมเรียกผู้บริหารโรงแรมสอบเพิ่ม
จากกรณี พล.ต.ต.กัมพล ลีลาประภาภรณ์ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี นำกำลังตำรวจกว่า 100 นาย บุกทลายบ่อนอินเดีย ลักลอบเล่นการพนัน บาคาร่า ไพ่โบรกเกอร์ และ ไพ่แบล็คแจ็ค ภายในห้องประชุม ชั้นล่าง ของโรงแรม เอเชีย พัทยา โฮเต็ล ถนนพระตำหนัก ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี รวบนักพนันชาวอินเดียได้ ชาวอินเดียได้ 86 คน คนไทย 6 คน แรงงานชาวพม่า 4 คน รวมผู้ต้องหาทั้งหมด 94 คน โดยมี นายดิวิเยช อโชคุมาร์ ปาธาร์ ( MR.DIVYESH ASHOKKUMAR PATHAR ) อายุ 32 ปี ช่วอินเดีย พร้อมกับภรรยาชาวไทย คือ นางสาว สิตานันท์ แก้วหล่อ อายุ 31 ปี รับเป็นคนจัดเปิดให้เล่นการพนัน โดยเช่าโรงแรมวันละ 1.2 แสนบาท แถมยังอ้างว่ามีการเคลียร์เงินให้กับ นายภาคิน และ นายเอก เป็นเงินกว่า 2.4 ล้านบาท เพื่อนำไปจ่ายให้กับเจ้าหน้าที่ ในการเป็นใบเบิกทางในการเปิดบ่อน ตำรวจพบว่า แอบลักลอบเล่น 2 วัน มีเงินสะพัดกว่า 500 ล้านรูปี คิดเป็นเงินไทยประมาณ 200 ล้านบาท ตามที่มีข่าวเสนอไปแล้วนั้น
ช่วงบ่ายวันนี้ ( 1 พ.ค. 66 ) ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา ได้คุมตัว นายดิวิเยช อโชคุมาร์ ปาธาร์ ( MR.DIVYESH ASHOKKUMAR PATHAR ) อายุ 32 ปี ชาวอินเดีย และ นางสาว สิตานันท์ แก้วหล่อ อายุ 31 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของทัวร์อินเดีย และ เป็นคนจัดให้มีการเล่นการพนันในครั้งนี้ มาทำการสอบปากคำเพิ่มเติม โดยตำรวจมีการสอบเค้นในข้อเท็จจริง ในเรื่องของเงินจำนวน 2.4 ล้านบาท ที่มีการจ่ายให้กับผู้ที่อ้างตัวว่า สามารถเคลียร์ตำรวจในพื้นที่ ในการเปิดบ่อนครัังนี้ได้
ตำรวจมีการสอบปากคำนานกว่า 2 ชม. ทั้งคู่ยังให้การยืนยันว่า มีการจ่ายเงิน กว่า 2.4 ล้านบาท ให้กับ นายภาคิน และ นาย เอก โดยมีหลักฐานการโอนเงิน และการจ่ายเงินสด ซึ่งทั้ง 2 คน อ้างว่าจะนำไปเคลียร์กับ นายตำรวจ และหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อให้สามารถเปิดบ่อนได้ โดยไม่ต้องกลัวเรื่องการถูกจับกุม ในเรื่องนี้ตำรวจอยู่ในการเร่งสอบสวนขยายผล โดยข้อมูลดังกล่าว มีมูลความจริง มิฉะนั้น คงไม่กล้าเปิดบ่อนการพนันใหญ่ขนาดนี้
สำหรับ นายดิวิเยช อโชคุมาร์ ปาธาร์ ( MR.DIVYESH ASHOKKUMAR PATHAR ) อายุ 32 ปี ชาวอินเดีย และนางสาว สิตานันท์ แก้วหล่อ อายุ 31 ปี ทำธุรกิจทัวร์อินเดีย มานานกว่า 5 ปี ที่ผ่านมามักเห็นชาวอินเดีย ชอบเล่นการพนันกัน จึงผุดไอเดียอยากลองทำทัวร์ ลักษณะได้มาเที่ยวและได้เล่นการพนัน จึงได้ทำทัวร์นี้ขึ้นมาเป็นครั้งแรก ประกอบกับหลงเชื่อว่าสามารถเคลียร์ทางการไทยได้แล้ว จึงตัดสินใจเช่าโรงแรมเปิดบ่อน แต่เปิดได้เพียง 2 วัน ก็ถูกตำรวจบุกเข้าจับกุมดังกล่าว อีกทั้งนักพนันชาวอินเดียกลุ่มนี้ เป็นกลุ่มค่อนข้างมีฐานะ เนื่องจากพบว่าบ่อนเปิดได้เพียง 2 วัน มีเงินสะพัดกว่า 300 ล้านบาทไทย หรือเงินสกุลอินเดีย 650 ล้านรูปปี
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เปิดเผยว่าจากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่พอทราบเส้นทางการเงินที่นางสาว สิตานันท์ อ้างว่ามีการโอนเงินให้นายภาคิน หรือ นาย เอก จำนวน 2 ล้าน 4 แสนบาท นั้นพอทราบแล้วว่าเป็นใคร ยันไม่ใช่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งตอนนี้ได้ไล่กล้องวงจรปิดภายในบ่อนแล้ว ซึ่งทราบว่าทั้ง 2 คน น่าจะอยู่ในบ่อนดังกล่าวด้วย ส่วนทางโรงแรมนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเรียกมาสอบสวนว่า มีส่วนรู้เห็นเกี่ยวข้องกับบ่อนดังกล่าวหรือไม่ เพราะว่ามีอุปกรณ์จำนวนมาก ทางโรงแรมจะอ้างว่าไม่รู้เห็นคงเป็นไปไม่ได้
ภาพ/ข่าว นิราช/นันฐพล/พิชญ์ฐญา ทิพย์ศรี
พรเทพ เขม้นเขตวิทย์ รายงานจากศูนย์รวมข่าวภาคตะวันออก