โจรควงปืนบุกเดียว ชิงทอง 71 บาท ก่อนให้รถเก๋งหลบหนี ห้างโลตัสบางแค
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 24 พ.ค. 2566
ร.ต.อ.ภาสกร ฉายศิริ รองสว.(สอบสวน) สน.หลักสอง รับแจ้งเหตุชิงทองในร้านทองเยาวราชกรุงเทพ ห้างสรรพสินค้าโลตัสสาขาบางแค ถ.เพชรเกษม บางแคเหนือ เขตบางแค กทม. จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบก่อนรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุอยู่ชั้น 1 ของห้างฯ ภายในร้านมีเศษกระจกแตกเต็มพื้นบริเวณแผงวางสร้อยคอทองคำกระจัดกระจาย มีสร้อยทองทองคำหายไป 71 บาท เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานกลางร่วมตรวจสอบลายนิ้วมือแฝง
จากการสอบถาม น.ส.อโนชา บางเหลือม 33 ปี ผู้จัดการร้านและอยู่ในเหตุการณ์ กล่าวด้วยความตกใจว่า ขณะเวลา 14.45 น. ตนกำลังจะไปเข้าห้องน้ำได้ให้พนักงานอีกคนตรวจค้นตัวตามระเบียบ ได้มีชายสวมหมวกกันน็อคสีดำ เสื้อเชิดแขนยาวสีแดง ถุงมือสีดำ กางเกงยีนส์สีน้ำเงิน รองเท้าผ้าใบสีดำ มือขวาถือปืนแบบออโตเมติก สีดำ ไม่ทราบรุ่น และไม่ทราบว่าเป็นของจริงหรือปลอม กระโดดยืนบนตู้ทอง มือซ้ายโกยสร้อยคอทองคำ พร้อมตระโกนด้วยสำเนียงไทยกลาง ว่าอย่ากดสัญญาณเตือนไม่งั้นจะยิง ขณะเดียวกันมีลุง รปภ. วิ่งมาช่วยด้วยการพยายามดึงขาคนร้ายก่อนคนร้ายจะรีบวิ่งหนีไปขึ้นรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นโคโลน่า สีขาว ทะเบียน ฉด 2130 กรุงเทพมหานคร ที่จอดอยู่ภายในห้างสรรพสินค้า หลบหนีไปทาง ถ.เพชรเกษม ขาเข้า
นายจิรวัฒน์ โมรานอก อายุ. 31 ปี หนึ่งในคนเห็นเหตุการณ์ เล่าว่า จนได้วิ่งเข้ามาที่ร้านทอง แล้วก็วิ่งกระโดดขึ้นไปบนตู้ทองพร้อมอาวุธปืน แล้วได้ยินเสียงร้องของพนักงานภายในร้าน โดยโจรดังกล่าวมาเพียงคนเดียว โดยสวมหมวกกันน็อกเต็มใบสีดำมีเสื้อสีเลือดหมูคลุมทับ สวม กางเกงขายาวสีดำก่อนจะชิงทีทองไปได้ โดยวิ่งออกไปทางหลังห้างตนเองก็รู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยในจังหวะที่เห็นเหตุการณ์ ก็เห็นมีลุง รปภ เข้าข้ดขวางคนร้าย
ส่วน นายวิเชียร สิแสงจันทร์ อายุ 67 ปี รปภ ที่เข้าไปช่วยขัดขวางคนร้าย ในภาพวงจรปิด เล่าว่า ตนเองเพิ่งเข้ามาดูแลรักษา ความปลอดภัยในร้านวันแรก ตนเองก็เห็นคนก่อเหตุยิงมาแล้วกระโดดขึ้นบนโต๊ะตู้ทองก่อนทุกตู้ทองเพื่อเอาสร้อยคอทองคำไปโดยในมือของคนร้ายยังถืออาวุธปืนสั้นไม่ทราบขนาด โดยตนเองก็พยายามขัดขวางโดยดึงขาคนร้ายแต่คนร้ายก็พยามเอาปืนออกมาข่มขู่แต่ไม่ได้ยิงตน พอดีคนร้ายได้ทรัพย์สินกำลังกระโดดหลบนี้ตนเองก็พยายามวิ่งตามแล้วตะคุบคนร้าย โดยพระยาวิ่งตามแต่ไม่ทัน
ทั้งนี้อยู่ระหว่างการติดตามตัวของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากการตรวจสอบสร้อยคอทองคำหายไป 71 เส้น แบ่งเป็นเส้นละ 1 บาท และ 3 บาท มูลค่าความเสียหาย 2,400,000 บาท นอกจากนี้ทางร้านทองจะมอบเงินสดเป็นสินน้ำใจให้ลุง รปภ. จำนวนเงิน 10,000 บาท ที่พยายามช่วยเหลือดังกล่าว
โชติกา ม่วงใจรักษ์ ผู้สื่อข่าว กทม.