ข่าวทั่วไป

รถแวนขนแรงงานต่างด้าวเสียหลักพลิกคว่ำไฟลุกท่วมคลอกแรงงานเสียชีวิต 4 รายบาดเจ็บ 6 ราย

รถแวนขนแรงงานต่างด้าวเสียหลักพลิกคว่ำไฟลุกท่วมคลอกแรงงานเสียชีวิต 4 รายบาดเจ็บ 6 ราย
เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 1 มิถุนายน 2566 ร.ต.อ พงศ์ปนต มีโต รอง สว.สอบสวน สภ.พระอินทร์ราชา อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ได้ รับแจ้งมเกิดอุบัติเหตุ รถยนต์เก๋งพลิกคว่ำแล้วเกิดเพลิงไหม้ มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตอยู่ภายในรถ เหตุเกิดบนถนนสายเอเชียช่องทางคู่ขนาน ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 1 บริเวณหน้าโรงเรียนเชียงรากน้อย ต.เชียงรากน้อย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ประสานเจ้าหน้าที่รถดับเพลิงเทศบาลตำบลเชียงรากน้อย ไปควบคุมเพลิง มูลนิธิพุทไธสวรรย์ ไปให้การช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ
พบเพลิงกำลังลุกไหม้ รถยนต์เบนซ์ แวน(รุ่น ซันยอง มัสโซ่) แบบ7 ที่นั่ง สีแดง หมายเลขทะเบียน 2ขฒ 2079 กรุงเทพมหานคร อยู่ในสภาพพลิกคว่ำหงายท้องล้อชี้ฟ้า เพลิงลุกไหม้โหมอย่างรุนแรง เจ้าหน้าที่เร่งระดมฉีดน้ำเพื่อควบคุมเพลิง ใช้เวลาประมาณ 20 นาที สามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ พบว่ารถยนต์ ถูกเพลิงไหม้เสียหายทั้งคัน ภายในรถพบผู้เสียชีวิตภายในรถ จำนวน 4 ราย ชาย 3 ราย หญิง 1 ราย ถูกเพลิงไหม้เป็นตอตะโก
นอกจากนี้มีผู้บาดเจ็บที่อกมาจากซากรถได้ ทัน จำนวน 6 ราย ชาย3ราย หญิง 3 ราย ช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลวังน้อย 3 ราย โรงพยาบาลบางปะอิน 3 ราย .พบว่าผู้บาดเจ็บเป็นแรงงานสัญชาติ เมียนมา ที่หลบหนีเข้าเมืองเพื่อมาทำงาน


สอบถามชาวบ้าน ที่เห็นเหตุการณ์ เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ได้เสียงเบรกรถเสียงดังแล้วมีเสียงรถคล้ายกับชนกันจึงออกมาดูพบรถคันดังกล่าวพลิกคว่ำอยู่ เห็นผู้บาดเจ็บทั้งชายและหญิง นอนกระจายเกลื่อนถนน และและไฟเริ่มลุกไหม้ที่รถแล้ว มีคนกำลังออกมาจากรถจึงได้เข้าไปช่วยเหลืออกมาได้อีก 3 คน เพราะรถกำลังจะระเบิดจากนั้นรถก็เกิดระเบิดขึ้นเพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็ว มีคนเจ็บพยายามจะวิ่งเข้าไปช่วยคนที่อยู่ในรถอีก ต้องห้ามเอาไว้เพราะรถเกิดการระเบิดไม่สามรรถช่วยเหลือได้ รีบเข้าไปสอบถามผู้บาดเจ็บ พบว่าเป็นต่างด้าวทั้งหมด ที่มาในรถออกมาจากรถรีบแจ้งแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาช่วยเหลือ จากนั้นเกิดเพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็ว

ในเบื้องต้นสันนิษฐานว่ารถยนต์คันเกิดเหตุน่าจะขับรถมาด้วยความเร็วเมื่อมาถึงบริเวณที่เกิดเหตุเป็นช่วงทางที่เบี่ยงออไปถนนพลหลโยธินรถเกิดเสียหลักพลิกคว่ำจนเกิดเพลิงลุกไหม้ ส่วนผู้เสียชีวิตที่พบทั้งหมดในรถต้องทำการตรวจสอบอย่างละเอียดว่า เป็นชาวสัญชาติอะไรบ้าง ชายกี่รายและหญิงกี่ราย พร้อมกับประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมในการพิสูจน์สัญชาติ ซึ่งน่าจะมีคนไทยเป็นผู้ขับขี่รถคันดังกล่าว