ข่าวพาดหัวร้องเรียน

ชายวัย 53 ปี ร้องสื่อ หลังถูก ลูกเขย ที่เป็นครอบครัวของผู้มีอิทธิพล ขับรถทับจนบาดเจ็บสาหัส

ชายวัย 53 ปี ร้องสื่อ หลังถูก ลูกเขย ที่เป็นครอบครัวของผู้มีอิทธิพล ขับรถทับจนบาดเจ็บสาหัส

วันที่ 5 มิถุนายน 2566 เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา

จากกรณี เพจ อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น part 6 โพสต์ข้อความคลิปวิดีโอ ลูกเขย ขับรถทับพ่อตา จนบาดเจ็บ พร้อมข้อความร้องเรียนทำนองว่า พ่อตา
ถูก ลูกเขย ที่เป็นครอบครัวผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ และเป็นเจ้าของเว็บพนัน ขับรถทับ หวังให้เสียชีวิต หลังทั้งสองคน มีความขัดแย้งกันเรื่องภายในครอบครัว เหตุเกิดบริเวณ ซอย จอมทองบูรณะ แขวง บางมด เขต จอมทอง กรุงเทพมหานคร

ทีมข่าว ได้เดินทางไปพบและสอบถาม นาย วุฒิ วัย 53 ปี ผู้บาดเจ็บ เปิดเผยว่า เหตุการณ์ความขัดแย้งเริ่มต้น เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2566 เวลาราว 21 นาฬิกา โดย นางสาว มะลิ และนาย พี ลูกทั้งสองคน ได้โทรศัพท์มาแจ้งว่า ถูกนาย เฟรม ลูกเขยซึ่งมีสถานะเป็น สามีของ นางสาว มะลิ ทำร้ายร่างกาย และขณะนี้ พ่อของนาย เฟรม พร้อมลูกน้อง ได้เดินทางมาหา เพื่อไกล่เกลี่ย ตัวเอง จึงตอบกลับว่า หากทำงานเสร็จสิ้น จะรีบกลับไปช่วยเหลือ เนื่องจาก ห่วงใยความปลอดภัยของสมาชิกในครอบครัว / เมื่อตัวเอง เสร็จงานจึงเดินทางกลับบ้าน แต่ก็ไม่พบกับ นาย เฟรม และพ่อของ นาย เฟรม จึงสอบถามภรรยา จนทราบว่า พ่อของนายเฟรม ได้รับ นาย เฟรม กลับบ้านเพื่อสั่งสอนแล้ว จากนั้น วันที่ 3 มิถุนายน 2566 เวลาราว 15 นาฬิกา ส่วนตัว พบ


นาย เฟรม ขับรถมาที่บ้านจุดเกิดเหตุ จึงตัดสินใจ หยิบมีดปลายแหลม เดินมุ่งหน้าไปหา นาย เฟรม โดยหวังให้ นาย เฟรม ลงจากรถ เพื่อเคลียร์ปัญหาที่เกิดขึ้น แต่ นาย เฟรม ไม่ยินยอมลงจากรถ ก่อนขับพุ่งมาหมายชนให้ตัวเอง บาดเจ็บ ส่วนตัว จึงใช้มีดที่พกมา ฟันที่กระจกหน้ารถของนายเฟรม 1 ครั้ง จนมีดหลุดมือ จากนั้น นาย เฟรม ก็ไม่ลดละความพยายาม ขับรถหวังชนตัวเอง อีกครั้ง ทำให้ ตัวเอง เสียหลักล้มกองกับพื้น ก่อนที่ นายเฟรม จะพยายามขับรถทับตัวเอง ทำให้ ส่วนตัว ต้องหนีตาย ใช้มือเกาะประตูรถ และนายเฟรม ได้ขับรถลากตัวเองไปรูดกับพื้นถนน พร้อมเปิดประตู ยิ้มเยาะเย้ย จากนั้น นางสาวมะลิ และนายพัตเตอร์ ภรรยาของนายเฟรส และลูกชายคนเล็ก ได้เข้ามาช่วยเหลือ ก่อนที่ นาย เฟรม จะรีบขับรถหลบหนี / จากเหตุการณ์ครั้งนี้ ส่งผลให้บาดเจ็บ ที่บริเวณแผ่นหลัง , ลำตัวด้านหน้า , และขาด้านขวา

ส่วนสาเหตุที่ออกมาร้องเรียนกับสื่อมวลชน เพราะขณะนี้ต้องใช้ชีวิตด้วยความหวาดระเเวง เพราะ ครอบครัวของคู่กรณี เป็นผู้มีอิทธิพล และยุ่งเกี่ยวกับเว็บพนันออนไลน์ เกรงจะถูกทำร้าย อีกทั้ง คดีความก็ไม่คืบหน้า ยืนยัน จะขอดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

ทางด้าน นางสาว โอ๋ (นามสมมุติ) ลูกสาวคนบาดเจ็บและเป็นแฟนของคนก่อเหตุ ได้กล่าวว่า ในวันที่เกิดเหตุตนเองนั่งทำงานบ้านอยู่ ส่วนตัวคนก่อเหตุนั้นกินเหล้าไหมก็กินเหล้า คนก่อเหตุได้มาถามเราว่าทำไมในบ้านถึงมีกลิ่นควันบุหรี่ โดยตัวคนก่อเหตุพยามถามเรื่องกลิ่นควันบุหรี่ โดยในจังหวะหลังจากเสร็จธุระก็ได้ไปถามน้องชายเรื่องกลิ่นควันบุหรี่คนก่อเหตุก็ได้ตามมา พอตนเองสอบถามน้อง น้องก็บอกว่าไม่ได้สูบบุหรี่ ก็เลยเกิดมีปัญหาปากเสียงกัน ทำให้มีปัญหาเรื่องทำร้ายร่างกายกัน ส่วนคนก่อเหตุก็พยามเข้าไปที่ห้องน้องชายเพื่อหาต้นต่อเรื่องบุหรี่ โดยหลังจากนั้นคนก่อเหตุก็ได้ไปตบที่ศีรษะของน้องชายทำให้เราไม่พอใจก็ไปต่อสู้กับเขา ทำให้ตนเองรู้สึกเจ็บ โดยหลังจากเกิดเหตุ ทางน้องชายคงโทรไปหาพ่อในเรื่องที่เกิดขึ้น ส่วนตัวเค้าเองคนก่อเหตุก็ได้โทรไปหาใครซักคนหนึ่ง โดยหลังจากนั้นต่างฝ่ายต่างก็มาเจรจากันในจังหวะเดียวกันกับพ่อคนก่อเหตุก็มาด้วย โดยส่วนใหญ่ตนเองกับคนก่อเหตุซึ่งเป็นแฟนกันก็ไม่ได้ทะเลาะกันเป็นส่วนใหญ่ ก่อนหน้านี้ก็มีแต่ก็ไม่ได้บ่อย ในส่วนการแจ้งความดำเนินคดีของพ่อกับแฟนตนเองขออยู่ตรงกลาง ตนเองจะไม่เข้าข้างใครทั้งนั้น โดยหลังจากนี้ ก็ให้ดำเนินคดีไปตามกฎหมาย ในส่วนการเลิกกันนั้นตนเองยังไม่รู้ตอนนี้ขอมาอยู่ในที่ตรงกลางเพราะสุดท้ายแล้วผลกระทบทั้งหมดก็มาตกอยู่ที่ตน อีกคนนึงก็เป็นทั้งพ่ออีกคนนึงก็เป็นแฟนซึ่งเป็นพ่อของลูก ในส่วนวันที่เกิดเหตุตนเองอยู่กับลูกชายส่วนลูกสาวก็ให้ทางแฟนมารับไปเป็นจังหวะเดียวกับที่พ่อมาพยามเปิดประตูรถของแฟน ซึ่งตนเองก็ยอมรับว่าพ่อได้ชักดาบพยามไปเปิดประตูรถเพื่อคุยกับแฟนของตน ซึ่งภายในรถนั้นมีลูกสาวตนอยู่ซึ่งก็เป็นหลาน ของพ่อ ตนเองก็อยากให้ทั้งสองฝ่ายประนีประนอมกันแต่ด้วยก่อนหน้านี้เคยเกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้มาแล้วครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 สุดท้ายแล้วก็ให้เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย

ชุติเดช ม่วงใจรักษ์ ผู้สื่อข่าว กทม.