ข่าวทั่วไปข่าวพาดหัว

สีสัน..มารู้จักสำนักสงฆ์นาผูกเปล สถานที่พญางูคายลูกแก้วให้หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด

07-06-66 พี่เสือ นักข่าวสงขลา
สีสัน..มารู้จักสำนักสงฆ์นาผูกเปล สถานที่พญางูคายลูกแก้วให้หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด ที่ต้นมะเม่าเงิน มะเม่าทอง ที่ยังมีอยู่จริงและได้ทำเป็นประติมากรรมตามรอยหลวงปู่ทวด ณ ถิ่นฐานบ้านเกิดและทุกปีจะมีการจัดงานวันผูกเปลหลวงปู่ทวด ประชาชนนุ่งขาวห่มขาวมาร่วมพิธีผูกเปลกันอย่างเนืองแน่น


สีสัน ที่ สำนักสงฆ์นาผูกเปล(สถานที่พญางูคายลูกแก้วให้หลวงปู่ทวด) หมู่ที่ 7 ตำบลชุมพล อำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา พระอาจารย์ฤทธิ์รากูล สุทธิธมฺโม เจ้าอาวาสสำนักสงฆ์นาผูกเปล ได้จัดสร้างหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืดองค์ใหญ่ตั้งเด่นอยู่บริเวณลานหน้าสำนักสงฆ์รถวิ่งผ่านก็จะเห็นเด่นชัด โดยมีลูกแก้ววิเศษวางอยู่บนมือหลวงปู่ทวด


และบริเวณด้านหล้ง ซึ่งเป็นสถานที่พญางูคายลูกแก้วให้หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด ที่ต้นมะเม่าเงิน มะเม่าทอง ที่ยังมีอยู่จริงและได้ทำเป็นประติมากรรมตามรอยหลวงปู่ทวด ณ ถิ่นฐานบ้านเกิด ณ สำนักสงฆ์นาผูกเปล (สถานที่พญางูคายลูกแก้ว ให้หลวงปู่ทวด) สถานที่ปาฏิหาริย์ครั้งแรกของหลวงปู่ทวดวัยแบเบาะ ตอนผูกเปลเห่พ่อหนู ได้รับของขวัญจากพญางู คือลูกแก้วสารพัดนึก ใต้ต้นมะเม่าเงิน มะเม่าทอง


สำหรับประวัติโคกมะเม่าเงิน มะเม่าทอง สำนักสงฆ์นาผูกเปล ต้นทางด้านทิศเหนือมีลูกเรียกว่าต้นมะเม่าตัวเมียหรือมะเม่าเงิน ส่วนต้นทางทิศใต้เรียกว่ามะเม่าตัวผู้หรือมะเม่าทอง ต้นมะเม่าอายุไม่ยืน อายุประมาณ 100 ปี แต่ละต้นครบ 100 ปีแล้วจะตายหรือผุ แต่ที่โคนต้นจะมียอดหน่อขึ้นมาวนเวียนอยู่ นับหลายร้อยปี ต้นมะเม่าเงิน มะเม่าทองคู่นี้ อายุประมาณ 437 ปีขึ้นไป ตั้งแต่พ่อหู แม่จันทร์มาเก็บข้าวที่นาเศรษฐีปานตรงนี้ และเอาเด็กชายปู(หลวงปู่ทวด)มาผูกเปลกับต้นมะเม่าคู่นี้ ได้มีพญางูมาคายลูกแก้ววิเศษไว้ให้ ช่วงที่เด็กชายปูกำลังนอนหลับอยู่ในเปล พื้นที่ตรงนี้ เมื่อเกิดเหตุมหัศจรรย์ เศรษฐีปานก็เลยเว้นพื้นที่เอาไว้เป็นที่ศักดิ์สิทธิ์ อยู่มาได้ประมาณ 200 ปี มีผู้คนเห็นเป็นที่รกร้าง ก็เลยมาบุกรุกพื้นที่และได้เจอพญางูในจอมปลวกผู้ชายคนนั้นที่มาบุกรุกที่ตรงนี้ กลับบ้านไปนอนฝันเห็นพญางูและพญางูบองหลาได้บอกว่า ห้ามบุกรุกที่โคกมะเม่าตรงนี้ เพราะเป็นที่ปาฏิหาริย์ของพระโพธิสัตว์หรือที่มงคลครั้งแรกของหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด


หลังจากนั้นผู้คนทั้งหลายได้บอกกันรุ่นต่อรุ่นว่า ให้เว้นที่ตรงนี้ไว้และต่อมามีผู้หญิงชราที่ใจบุญและศรัทธาหลวงปู่ทวด นอนฝันว่า หลวงปู่ทวดบอกให้ซื้อที่ดินบริเวณรอบๆข้างโคกมะเม่าตรงจุดนี้ ขยายออกมาจากโคกมะเม่าเล็กๆที่มีพื้นที่แค่ 5 เมตรยาว 7 เมตรเพื่อให้สาธุชนรุ่นหลังได้มาศึกษาตำนานประวัติหลวงปู่ทวดในถิ่นฐานบ้านเกิด โดยวันเกิดหลวงปู่ทวด วันศุกร์ที่ 3 มีนาคม ปีมะโรง พ.ศ 2125


พระอาจารย์ฤทธิ์รากูล สุทธิธมฺโม เจ้าอาวาสสำนักสงฆ์นาผูกเปล กล่าวว่า บริเวณตรงนี้มีความหมายเกี่ยวกับชีวประวัติของหลวงปู่ทวดเพราะสถานที่ตรงนี้เป็นสถานที่ที่พญางูคายลูกแก้วให้หลวงปู่ทวดตอนที่นอนแบเบาะอยู่ในเปล ของหลวงปู่ทวด ตรงนี้เป็นสถานที่จริงๆของหลวงปู่ทวด ก็มีต้นมะเม่าเงิน มะเม่าทอง 2 ต้นตรงนี้ ที่มาที่ไปก็คือ ตอนพ่อหูแม่จันทร์อุ้มลูกน้อยมาทำนา ก็คือหลวงปู่ทวด ก็ได้มาผูกเปลไว้กับต้นมะเม่าคู่นี้แล้วก็ลงไปทำนา เมื่อถึงเวลาก็ขึ้นมาดูลูก ก็เห็นพญางูคายลูกแก้วอยู่ ก็มีความยินดีและปลื้มปิติ ถือว่าพญางูให้ของขวัญเด็กน้อยก็คือหลวงปู่ทวด ตอนที่ยังนอนแบเบาะ และสถานที่ตรงนี้ มีมาตั้งแต่ยุคหลวงปู่ทวดเป็นเวลา 440 ปีแล้ว นับถึงวันนี้ตั้งแต่ปี 2125 จนถึงปี 2566 และตรงนี้ต่อไปก็จะมีโครงการตามรอยหลวงปู่ทวดและก็เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ มีให้คนมากราบไหว้ มาขอพร มาบูชาหรือมาศึกษาเกี่ยวกับชีวประวัติหลวงปู่ทวด


สำหรับในช่วงวันเสาร์อาทิตย์หรือวันหยุดก็จะมีผู้คนมากราบไหว้ขอโชคขอพรมาเสริมบารมีเกี่ยวกับต้นมะเม่าเงินมะเม่าทองคู่นี้ สถานที่ก็มีอยู่จริง ก็ถือว่าได้ช่วยกันจรรโลง มาช่วยกันรักษาและก็บูรณะสำนักสงฆ์ให้เจริญยิ่งๆขึ้นไป


สำนักสงฆ์นาผูกเปล(สถานที่พญางูคายลูกแก้วให้หลวงปู่ทวด) หมู่ที่ 7 ตำบลชุมพล อำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา พระอาจารย์ฤทธิ์รากูล สุทธิธมฺโม เจ้าอาวาสสำนักสงฆ์นาผูกเปล จะจัดงานวันผูกเปลหลวงปู่ทวด ณ ถิ่นฐานบ้านเกิด ในช่วงเดือนมีนาคมของทุกปี จัดพิธีบวงสรวงหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด พร้อมพุทธาภิเษกกับผูกเปล ที่ต้นมะเม่าเงิน มะเม่าทอง โดยมีพุทธศาสนิกชนที่เลื่อมใสศรัทธาในหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด จากหลายพื้นที่นุ่งขาวห่มขาวเดินทางมาร่วมในพิธีผูกเปล เป็นจำนวนมาก