“เมาไม่ขับ” ทำหนังสือเสนอนโยบายเมาไม่ขับก้าวหน้าขับเคลื่อนพร้อมกับนโยบายสุราก้าวหน้าของพรรคก้าวไกล
ผู้สื้อข่าวรายงานว่าเมื้อวันที่ 8 มิ.ย. 66 นายแพทย์แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ ได้ทำหนังสือเสนอนโยบายเมาไม่ขับก้าวหน้าขับเคลื่อนพร้อมกับนโยบายสุราก้าวหน้าของพรรคก้าวไกล ยื่นต่อคุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์หัวหน้าพรรคก้าวไกล
สืบเนื่องจากการที่พรรคก้าวไกลได้ประกาศนโยบายสุราก้าวหน้าให้กับประชาชนได้พิจารณาในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 ผลปรากฏพรรคก้าวไกลได้รับเสียงตอบรับจากประชาชนกว่า 14 ล้านเสียงในการเลือกผู้สมัครของพรรคก้าวไกลทั้งในแบบเขตและแบบบัญชีรายชื่อเพื่อเข้าไปทำหน้าที่ในฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งนโยบายสุราก้าวหน้าที่ทางพรรคก้าวไกลได้ประกาศเป็นนโยบายและพร้อมจะขับเคลื่อนให้เกิดผลในทางปฏิบัติเมื่อเข้าไปบริหารประเทศ
มูลนิธิเมาไม่ขับในฐานะองค์กรไม่แสวงกำไรที่ทำงานสนับสนุนการบังคับใช้กฎหมายและการรณรงค์ลดอุบัติเหตุทางถนนที่มีสาเหตุมาจากการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มีความห่วงใยต่อนโยบายสุราก้าวหน้า ทั้งนี้โดยหลักการแล้วมูลนิธิเมาไม่ขับไม่คัดค้านนโยบายดังกล่าว เนื่องจากเข้าใจนโยบายที่พรรคก้าวไกลมุ่งจะสร้างให้เกิดความเป็นธรรมลดทุนผูกขาด เปิดโอกาสให้ประชาชนได้มีโอกาสสร้างรายได้ สร้างผลิตภัณฑ์อันเกิดจากภูมิปัญญาท้องถิ่น ซึ่งโดยภาพรวมจะส่งผลให้เกิดรายได้ทั้งทางตรงและทางอ้อม พืชผลทางการเกษตรจะมีราคาเพิ่มสูงขึ้น แต่ขณะเดียวกันนโยบายสุราก้าวหน้าก็จะส่งผลโดยรวมกับสุขภาพของประชาชนและส่งผลกับการเกิดอุบัติเหตุจากการเมาแล้วขับตามมา
อย่างไรก็ตามทาง มูลนิธิเมาไม่ขับจึงขอเสนอนโยบายเมาไม่ขับก้าวหน้าขับเคลื่อนไปพร้อมกับนโยบายสุราก้าวหน้าของพรรคก้าวไกล ทั้งนี้เพื่อก่อให้เกิดประโยชน์โดยรวมทั้งทางด้านเศรษฐกิจตามนโยบายของพรรคก้าวไกล และก่อให้เกิดความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนจากการเมาไม่ขับ ดังข้อเสนอต่อไปนี้
1.ขอให้พรรคก้าวไกลพิจารณาแก้ไขกฎหมายให้มีการตรวจแอลกอฮอล์ผู้ขับขี่ที่เกิดอุบัติเหตุมีคนเสียชีวิตหรือมีคนบาดเจ็บทุกราย
โดยออกเป็นกฎหมายกำหนดเป็นหน้าที่ไม่ใช่การใช้ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่อย่างในปัจจุบัน และถ้าเจ้าหน้าที่ละเว้นไม่ปฏิบัติให้มีความผิดตามมาตรา 157
2.กรณีเมาแล้วขับชนคนเสียชีวิตขอให้พรรคก้าวไกลแก้ไขกฎหมายระบุให้ผู้ขับขี่ที่เมาแล้วขับชนคนเสียชีวิตเป็นผู้ขับขี่ที่เป็นอันตราย
ต่อประชาชนบนท้องถนนไม่ใช่เป็นผู้กระทำความผิดฐานประมาท โดยขอให้เพิ่มฐานความผิดจากโทษจำคุก 5-10 ปี เป็นโทษจำคุก 12-15 ปี เพื่อให้ศาลไม่สามารถรอลงอาญาผู้กระทำความผิดได้
3.กรณีผู้ขับขี่ปฏิเสธการตรวจวัดแอลกอฮอล์ (เมาไม่เป่า) ขอให้พรรคก้าวไกลแก้ไขกฎหมายให้มีโทษความผิดสูงสุดในฐานะเมาแล้ว
ขับแตกต่างกับผู้ที่ให้ความร่วมมือตรวจวัดแอลกอฮอล์
ทั้งนี้ในนามของมูลนิธิเมาไม่ขับหวังเป็นอย่างยิ่งว่าข้อเสนอทั้ง 3 ข้อ ในเรื่องนโยบายเมาไม่ขับก้าวหน้าที่มูลนิธิเมาไม่ขับเสนอจะได้รับการพิจารณาจากพรรคก้าวไกลควบคู่ไปกับการขับเคลื่อนนโยบายสุราก้าวหน้าที่พรรคก้าวไกลจะผลักดันให้เกิดขึ้น ทั้งนี้เพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชนคนไทย
หนวด ชี้ชัดเจาะลึก / ผู้สื่อข่าวสมุทรสาคร รายงาน