ข่าวทั่วไป

ชาวอยุธยา กว่า 30 คน ร้องกองปราบรับโอนคดี ถูกโกงแชร์ รวมกว่า 20 ล้านบาท หลังแจ้งความ สภ.นครหลวง คดีไม่คืบ

ชาวอยุธยา กว่า 30 คน ร้องกองปราบรับโอนคดี ถูกโกงแชร์ รวมกว่า 20 ล้านบาท หลังแจ้งความ สภ.นครหลวง คดีไม่คืบ

วันที่ 9 มิ.ย.66 ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) นายธมะนันท์ แตงทิม เจ้าของเพจจ่าคิงส์แตงทิมสะพานใหม่ พากลุ่มผู้เสียหาย กว่า 30 คน จากจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เข้าพบพนักงานสอบสวน กองกำกับการ2 กองบังคับการปราบปราม เพื่อยื่นหนังสือถึง พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ขอให้โอนคดีที่ผู้เสียหาย ถูก2 สามีภรรยา ท้าวแชร์ในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โกงแชร์ สูญเงินเกือบ 20 ล้าน บาท หลังแจ้งความไว้ที่ สภ.นครหลวง แล้วคดีคืบหน้า

นายธมะนันท์ แตงทิม เจ้าของเพจจ่าคิงส์แตงทิมสะพานใหม่ กล่าวว่า ตนเอง ได้รับร้องเรียนจากชาวบ้านใน จังหวัดพระนครศรีอยุธยาว่าได้รับความเดือดร้อนจากการที่ถูกโกงแชร์ และอยากขอให้ช่วยประสานตำรวจกองปราบปรามในการรับโอนคดี เพราะ คดีที่เกิดขึ้น มีผู้เสียหายจำนวนมากกว่า 200 คน มูลค่าความเสียหาย กว่า 20 ล้านบาท

นายกิตติพัทธ์ ทองสกุล อายุ31 ปี พนักงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง หนึ่งในผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ตนเองรู้จัก ท้าวแชร์รายนี้ ทั้ง 2 ผัวเมีย เพราะ เป็นคนละแวกบ้าน และท้าวแชร์คนนี้ เปิดวงแชร์มา 3-4 ปี แต่ตนเองเพิ่งมาเล่นแชร์ได้ประมาณ 1 ปี ก็ได้เงินปันผล มาตามปกติ จนเมื่อวันที่ 16 พ.ค.2566 ท้าวแชร์ แจ้งในกลุ่มไลน์ ว่า ล้มแชร์ เพราะแชร์ไปต่อไม่ได้ ซึ่งเงินต้นที่ ลงไปในกลุ่มแชร์ นี้ ประมา 1.4 ล้านบาท หลังจากนั้นมีการทวงถาม แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบ และติดต่อไม่ได้ ซึ่งตนเอง ก็ไม่รู้ว่า ท้าวแชร์ นำเงิน ไปทำอะไร

ขณะที่ น.ส.พัชชนก ภู่รัตน์ อายุ33 ผู้เสียหายอีกราย เล่าว่า ตนเองลงเงินไปทั้งหมด 8.5 แสนบาท จ่ายวันแรกที่เปิดวง และจะมาหวังมากินดอกเบี้ยในช่วงท้าย โดยลงเงินวันที่ 14 พฤษภาคม แต่ท้าวแชร์ประกาศล้มวงวันที่ 16 พฤษภาคม ก็มีการคุยกันว่ามือตายที่อยู่ในวงมีไม่เยอะและเงินพึ่งลงไป เพียงแค่ 2 วันท้าวแชร์ น่าจะนำเงินมาคืนให้กับตนเองได้ แต่ปรากฏว่าท้าวแชร์อ้างว่าไม่มีเงินแล้ว เพราะ ที่ผ่านมาเปิดวงแชร์มาเพื่ออุดรอยรั่ว วงแชร์วงอื่นๆ เพราะ ท้าวแชร์ก็เหมือนจะรู้ตัวว่าไปต่อไม่ได้ แต่ก็ยังเปิดวงแชร์อื่นๆไปเรื่อยๆ

นายธมะนันท์ หรือ จ่าคิงส์ กล่าวอีกว่า เมื่อผู้เสียหายรู้ว่าถูกโกงแชร์ก็ได้มีการไปแจ้งความไว้ที่สภ.นครหลวง เพราะ ผู้เสียหายส่วนมากรวมถึงท้าวแชร์อาศัยอยู่ในพื้นที่อำเภอนครหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา แต่เวลาผ่านมา เกือบ 1 เดือน คดียังไม่มีความคืบหน้า ยังไม่มีการออกหมายเรียก หรือออกหมายจับผู้ถูกกล่าวหาแต่อย่างใด ผู้เสียหายกลัวไม่ได้รับความเป็นธรรม และเกรงว่าจะไม่ได้เงินคืนจึงรวมตัวกันมาแจ้งความร้องทุกข์ที่กองปราบปรามเพิ่มเติม

ด้านพนักงานสอบสวน ได้รับเรื่องสอบปากคำผู้เสียหาย ก่อนเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาต่อไป