โรงพยาบาลบางจาก ชี้แจง หนุ่มวัย 26 ปี ปวดหัวหมอฉีดยาแล้วตาล็อค
เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 15 มิถุนายน 2566 ที่โรงพยาบาลบางจาก ซอยสุขสวัสดิ์ 78 ต.บางจาก อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ทางแพทย์โรงพยาบาลบางจากชี้แจงกรณีมีคนไข้ชื่อนาย นพดล ภักดีนอก อายุ 26 ปี ที่เข้าไปรับการรักษาด้วย อาการปวดศีรษะ เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2566 ช่วงเวลา 08.30 น วันเดียวกันในช่วงเย็นเวลาประมาณ 17.00 น. คนไข้มีอาการตาพร่ามัวและดวงตาข้างซ้ายล็อคไม่สามารถขยับได้ วันนี้ทางด้าน พ.ญ พันธิพา พันธนู แพทย์อายุรกรรมโรงพยาบาลบางจาก ได้ออกมาชี้แจงว่า เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2566 คนไข้ได้มารักษาตัวจริงที่โรงพยาบาลด้วยอาการปวดหัวมาก และได้สอบประวัติซึ่งเป็นคนไข้อยู่ที่โรงพยาบาลและมีโรคประจำตัวคือ ความดัน หอบ จึงได้ทำการตรวจร่างกายเบื้องต้นพบว่าคนไข้มีความดันสูง จึงทำให้ปวดหัวมาก จึงได้ถามคนไข้ว่าต้องการฉีดยาเพื่อระงับความปวดหรือไม่ คนใกล้แจ้งว่าฉีด หมอจึงได้ฉีดยาแก้ปวดพร้อมกับแก้คลื่นไส้ เพราะว่ายาแก้ปวดที่ฉีดให้จะมีผลข้างเคียงในการคลื่นไส้จะอ้วกอีกด้วย การคุณหมอจึงให้ยาพร้อมกันทั้ง 2 ชนิด จากนั้นคนไข้ก็ได้รับยาแล้วกลับบ้านพักไป จนมาทราบเรื่องอีกทีคือวันที่ 12 มิถุนายน 2566 ว่าดวงตาด้านซ้ายเกิดอาการผิดปกติไม่สามารถขยับได้และการมองภาพมัวทำให้เห็นภาพซ้อน ถ้าลูกบานจึงได้ทำหนังสือส่งตัวไปที่ TC scan สมองที่โรงพยาบาลสมุทรปราการ และแพทย์เฉพาะทางจึงได้นัดตรวจคนไข้อีกในวันที่ 28 มิถุนายน 2566 แต่ทางด้านคนไข้พะวงและกังวลเรื่องดวงตา เพราะตัวเองเป็นหัวหน้าครอบครัวและมีอาชีพขับรถกลัวจะได้ส่งผลกระทบกับเรื่องการงานและการดูแลครอบครัว จะได้ไปแจ้งความร้องทุกข์ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2566 ที่ สภ.พระประแดง เพราะไม่รู้ว่าอาการที่คนไข้ที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเพราะโรคประจำตัวหรือเป็นเพราะยาที่ทางโรงพยาบาลฉีดให้ จนมาวันนี้คนไข้ได้มาพบหมอที่รักษาที่โรงพยาบาลบางจาก และได้ชี้แจงอาการและผลข้างเคียงให้คนไข้ทราบและเข้าใจเป็นที่เรียบร้อย และทางโรงพยาบาลจะทำการวางแผนรักษาอาการที่เกิดขึ้นโดยอาจจะใช้เวลาประมาณ 3-6 เดือน
จากการสอบถามนายนพดล ภักดีนอก อายุ 26 ปี ได้เล่าให้ฟังว่า ตนเองไม่ได้แพ้ที่ยาเพราะว่ายามันช่วยให้ดีขึ้นซึ่งไม่มีผลข้างเคียงใดๆ แต่ที่เป็นเพราะว่าอาจจะเป็นมาจากโรคประจำตัวความดันทำให้ปวดหัวหนัก ความดันมันขึ้นทำให้เส้นประสาทมันเสียประมาณนั้นครับ ส่วนระยะเวลาในการรักษาของอาการน่าจะประมาณ 3 เดือนขึ้นไป และระหว่างที่มีผลกระทบ จากเหตุการณ์ ของการรักษาในครั้งนี้ไม่สามารถที่จะประกอบอาชีพขับรถไม่ได้เนื่องจากลำบาก เบื้องต้นทางคุณหมอชี้แจงเกี่ยวกับ ดวงตาข้างซ้ายเนื่องจากอาจจะเป็นเส้นประสาทที่เกี่ยวกับความดัน เนื่องจากความดันปวดหัวมากๆแล้วความดันมันขึ้นสูงอาจจะทำให้เส้นประสาทบางเส้นไปเสียที่ตาและตอนนี้ตนเองเข้าใจแล้ว ตอนแรกที่ตนเองไปพบพนักงานสอบสวนเนื่องจากกังวลว่าไม่ทราบว่าเป็นเพราะอะไรดวงตาถึงผิดปกติ ซึ่งทางโรงพยาบาลแค่ชี้แจงมาว่า อาจจะเป็นเพราะที่ยาหรือโรคประจำตัวแค่นี้แต่ไม่ได้อธิบายอะไรมาก แต่เราก็กังวลว่าเป็นแบบนี้มันจะไม่หาย เกรงว่าดวงตาจะเสียหรืออาจจะตาบอดเนื่องจากเราเป็นหัวหน้าครอบครัว ซึ่งตนเองมีลูกสาว เพียงหนึ่งคนและตนเอง ไม่ติดใจอะไรเกี่ยวกับโรงพยาบาลแล้ว เพราะว่าทางคุณหมอได้ชี้แจงออกมาแล้วว่าเกิดจากสาเหตุอะไร ซึ่งคาดว่าน่าจะใช้เวลาประมาณ 3-4 เดือนอาการของดวงตาจะกลับมาปกติและคุณหมอได้ติดตามการรักษาให้อย่างต่อเนื่อง
นางสาวพันธิพา พันธนู แพทย์แผนกอายุรกรรมโรงพยาบาลบางจาก กล่าวว่า เนื่องจากคนไข้มีโรคประจำตัวเป็นโรคความดันโลหิตสูง ซึ่งเป็นในอายุยังน้อย การควบคุมความดันจะต้องทำให้ดี แต่ว่าในช่วงที่ผ่านมาความดันของคนไข้มันปัญหาคือสูงนิดนึง ในรอบล่าสุดที่มาโรงพยาบาลเราก็พยายามทำให้ความดันคนไข้ดีขึ้น คือเราหวังดี แล้วก็มีการเพิ่มยาเพื่อให้ความดันคนไข้ลดลง แต่วันที่มาเจอกันคนไข้มีอาการปวดศีรษะ ตรวจร่างกายเบื้องต้น ระบบประสาทก็ค่อนข้างดีมาก ๆ เลย แต่ว่าปวดศีรษะ ก็ได้ถามคนไข้ว่าเดี๋ยวฉีดยาแก้ปวดศีรษะให้ดีไหม คนไข้ก็โอเคที่จะฉีด แต่ว่าการฉีดยาแก้ปวดศีรษะมันจะมีผลข้างเคียง บางคนก็จะมีเวียนศีรษะอาเจียนได้ ก็เลยมีการฉีดยาเพื่อป้องกัน การเกิดผลข้างเคียง ก็คือมีการฉีดยาแก้อาเจียนให้ คู่กับยาแก้ปวด เพื่อให้คนไข้เกิดผลข้างเคียงน้อยที่สุด แต่บังเอิญที่มารอบล่าสุดความดันเขาสูงมากอยู่ พอให้ยาไปแล้วความดันคนไข้เริ่มลดลง อาการปวดศีรษะเริ่มลดลง แต่ว่าด้วยความดันที่สูงมาก่อนหน้านี้ ก่อนที่จะมาเจอเรา การที่ความดันสูง ๆ แล้วคุมได้ไม่ดีอาจจะทำให้เส้นเลือดในสมองมีปัญหาได้ ดังนั้นพอพึ่งมาเจอกันแล้วบางทีเส้นเลือดมันอาจจะปลิ่ม ๆ อยู่แล้วที่จะมีปัญหา พอพึ่งมาเจอกันมันอาจจะทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อน ก็คืออาจจะมีเส้นประสาทที่อาจจะไปเลี้ยงบริเวณตาอาจจะทำให้มีปัญหาได้ ซึ่งตอนนี้กระบวนการรักษาของเราก็คือ เนื่องจากโรงพยาบาลของเราเป็นโรงพยาบาลขนาดเล็ก เราจะต้องส่งไปในที่ ๆ มีหมอเฉพาะทางก็คือโรงพยาบาลที่ใหญ่กว่า ซึ่งเราส่งไปที่โรงพยาบาลสมุทรปราการ ตอนนี้ก็ได้ทำการปรึกษาหมอระบบสายตา จักษุแพทย์ คุณหมอเขาก็ดูแลอย่างดีเลย มีการนัด เอ็มอาร์ไอ บริเวณในศีรษะให้ ตอนนี้เราก็มีการให้คนไข้ได้รับการรักษาอย่างรวดเร็ว ก็คือมี ทำ เอ็มอาร์ไอ แล้วก็ นัดหมอ จักษุแพทย์ ให้ ของที่เราก็จะมีการตรวจติดตามคนไข้อย่างสม่ำเสมออยู่แล้ว และเมื่อกี่ได้คุยกับคนไข้แล้ว และก็ได้แนะนำคนไข้แล้ว ทั้งให้ดูรูปภาพประกอบ และก็แนะนำสิ่งที่เกิดขึ้นให้คนไข้ฟัง ซึ่งก็เป็นข้อความเดียวกันกับที่สื่อสารกับสื่อในวันนี้
***********************
สุรศักดิ์ คงสินธ์ / ธนวัต นาคขำ จ.สมุทรปราการ