ข่าวทั่วไป

สงขลา – สลดโจรขึ้นเขาน้อยปีนขึ้นไปขโมยกระบี่พระอนุสาวรีย์พลเอกสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ายุคลทิฆัมพร กรมหลวงลพบุรีราเมศวร์

สลดโจรขึ้นเขาน้อยปีนขึ้นไปขโมยกระบี่พระอนุสาวรีย์พลเอกสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ายุคลทิฆัมพร กรมหลวงลพบุรีราเมศวร์ ซึ่งประดิษฐานอยู่บนเขาน้อย ในเขตเทศบาลนครสงขลา หายไปทั้งอัน วอนเจ้าหน้าที่เร่งติดตามคนร้าย คาดอาจเป็นพวกสะสมของเก่า

นี่เป็น พระอนุสาวรีย์ พลเอกสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ายุคลทิฆัมพร กรมหลวงลพบุรีราเมศวร์ ซึ่งประดิษฐานอยู่บนเขาน้อย ที่มีความสง่างามและมีพิธีวางพวงมาลาถวายราชสักการะพระอนุสาวรีย์ฯพระองค์ท่านในวันที่ 8 เมษายนของทุกปี

และในวันนี้ ที่ 21 มิถุนายน 2566 ได้รับแจ้งจากผู้ที่ขึ้นไปสักการะพระอนุสาวรีย์ฯว่ากระบี่ที่ห้อยอยู่ด้านซ้ายของพระอนุสาวรีย์ได้หายไป ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางขึ้นไปบนเขาน้อยที่ประดิษฐานพระอนุสาวรีย์ พลเอกสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ายุคลทิฆัมพร กรมหลวงลพบุรีราเมศวร์ ได้ทำการตรวจสอบและพบว่า กระบี่ที่ห้อยอยู่ด้านซ้ายของพระอนุสาวรีย์ได้หายไปทั้งอันกระบี่ที่ห้อยอยู่ด้านข้างพระอนุสาวรีย์ หายไป ในขณะที่พระอนุสาวรีย์นั้น ทำด้วยสัมฤทธิ์ทั้งพระองค์ไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด

สำหรับกระบี่ที่ห้อยอยู่ด้านข้างพระอนุสาวรีย์พลเอกสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ายุคลทิฆัมพร กรมหลวงลพบุรีราเมศวร์ ได้ถูกคนร้ายขโมยหายไปครั้งหนึ่ง เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2551 เมื่อ 15 ปีที่ผ่านมาและได้มีการทำทดแทนขึ้นมาใหม่แทนอันเก่าที่ถูกขโมยไป เพื่อให้พระอนุสาวรีย์ฯ มีความสง่างามเหมือนเดิม
จากการสันนิษฐาน คาดว่า กลุ่มคนร้ายที่มาขโมยกระบี่ที่พระอนุสาวรีย์ฯที่มีค่าซึ่งไม่สามารถประเมินเป็นตัวเงินได้ในครั้งนี้ ส่วนหนึ่งน่าจะเป็นกลุ่มที่สะสมของเก่า และอีกกลุ่มขโมยเพื่อนำไปขายเป็นทองเหลืองในร้านค้าของเก่า อย่างไรก็ตามอยากวิงวอนให้ผู้ที่ขโมยไปนำกลับคืนมาไว้ที่เดิม เนื่องจากที่เป็นสิ่งที่มีความสำคัญต่อจิตใจของชาวสงขลา

ทั้งนี้พระอนุสาวรีย์พลเอกสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอเจ้าฟ้ายุคลทิฆัมพร กรมหลวงลพบุรีราเมศวร์ ได้จัดสร้างขึ้นโดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร ทรงเสด็จเป็นองค์ประธานในพิธีเปิดเมื่อ 17 มีนาคม 2538 เพื่อให้ชาวสงขลาได้รำลึกถึงพระองค์ท่าน

สำหรับพระราชประวัติของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ายุคลทิฆัมพร กรมหลวงลพบุรีราเมศวร์ ทรงเป็นพระราชโอรสลำดับพระองค์ที่ 41 ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระอัครชายาเธอ พระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์ฯ ประสูติเมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2425 หลังสำเร็จการศึกษา พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เป็นข้าหลวงเทศาภิบาล มณฑลนครศรีธรรมราช ซึ่งมีศูนย์บัญชาการอยู่ที่เมืองสงขลา มีพระราชอำนาจบังคับบัญชาสูงสุด ปกครองมณฑลปักษ์ใต้ 3 มณฑล คือ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช และปัตตานี ในช่วงเวลาที่ทรงประทับ ณ เมืองสงขลา ทรงใช้เมืองสงขลาเป็นศูนย์บัญชาการปกครองเมืองต่างๆ ที่อยู่ในเขตมณฑลปักษ์ใต้เป็นเวลาถึง 15 ปี

ระหว่างนี้ได้ทรงอุทิศพระองค์เพื่อราชการบ้านเมือง กระทั่งทำให้เมืองสงขลาได้ชื่อว่า เป็นเมืองที่มีระเบียบแบบแผนทางพิธีการอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ทรงพัฒนาบ้านเมืองเพื่อความอยู่ดีมีสุขของประชาชน ทรงโปรดให้สร้างโรงพยาบาล ส่งเสริมกิจการเสือป่า และลูกเสือ ทรงวางโครงการสร้างถนนหนทางจากเมืองสู่ชนบท ริเริ่มโครงการพัฒนาด้านคมนาคมในภาคใต้ และมีแนวพระดำริที่จะพัฒนาอ่าวสงขลาในขณะนั้น เช่น สร้างเขื่อนกันคลื่นหน้ามรสุม ขุดลอกร่องน้ำลึกบริเวณปากอ่าวสงขลา เป็นต้น

พระองค์สิ้นพระชนม์ เมื่อวันที่ 7 เมษายน พ.ศ.2475 รวมพระชนมายุ 50 พรรษา และเพื่อแสดงถึงความกตัญญูกตเวทิตา รำลึกในพระกรุณาธิคุณแห่งพระองค์ ที่ทรงประกอบพระกรณียกิจน้อยใหญ่ ยังความร่วมเย็นเป็นสุขแก่บรรดาอาณาประชาราษฎร์ในภาคใต้ และจังหวัดสงขลา เนื่องในวันคล้ายวันสิ้นพระชนม์ของทุก ๆปี เหล่าข้าราชการพลเรือน ทหาร ตำรวจ และประชาชน จ.สงขลา ได้ร่วมกันประกอบพิธีวางพวงมาลาถวายราชสักการะพระอนุสาวรีย์พระองค์ท่าน ณ บริเวณเขาน้อย อำเภอเมืองจังหวัดสงขลา ซึ่งได้มีการปฏิบัติต่อเนื่องกันมาเป็นประจำทุกปี โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 8 เม.ย.66 นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาเป็นประธานประกอบพิธีวางพวงมาลาถวายราชสักการะพระอนุสาวรีย์พระองค์ท่าน

พี่เสือ นักข่าวสงขลา