ประจวบฯ 3 หน่วยงานโยนกันวุ่น ไม่แจ้งความเอาผิดเจ้าหน้าที่เทศบาลนำรถยนต์หลวงยกเสาไฟสับปะรดต้นละ 8 หมื่นแอบขายเชียงกง
วันที่ 10 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีเจ้าหน้าที่เทศบาลแห่งหนึ่ง นำรถกระเช้าสีส้มบรรทุกซากเสาไฟเหล็กเคลือบไปจำหน่ายที่“ แก้วสุวรรณรีไซเคิล” ถนนสุขสมบูรณ์ ในเขตเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ขณะที่หน่วยงานภาครัฐจะทำการตรวจสอบ เพื่อหาเจ้าของงบประมาณที่จัดซื้อ โดยจะดำเนินการตามกฎหมายกับผู้เกี่ยวข้องที่นำเสาไฟไปจำหน่ายในร้านรับซื้อของเก่า เนื่องจากที่ผ่านมา เสาไฟมีราคารวมค่าติดตั้งต้นละ 8 หมื่นบาทถึง 1 แสนบาท มีมากกว่า 300 ต้นที่สันเขื่อนริมอ่าวประจวบฯ ตั้งแต่หน้ารั้วกองบิน 5 ถึงค่ายลูกเสือม่องล่าย ระยะทาง 8 กิโลเมตร ในเขตเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์
คืบหน้าล่าสุด นายสุวิทย์ พลเสน หัวหน้าสำนักงานโยธาธิการ จ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า การใช้งบประมาณจัดทำเสาไฟดังกล่าวในเขตเทศบาลเมืองประจวบฯมี 4 สัญญา ประกอบด้วย 1. กรมการท่องเที่ยว กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาใช้งบจัดซื้อเสาสูง 4 เมตร 75 ต้น ตั้งแต่สะพานสราญวิถีถึงรั้วกองบิน 5 2. สำนักงานจังหวัดใช้งบพัฒนาจังหวัดมอบโยธาฯจัดซื้อเสาสูง 4 เมตร 60 ต้นระยะทาง 500 เมตร จากสะพานสราญวิถีถึงสะพานคลองบางนางรม ที่ผ่านมาได้ส่งมอบให้เทศบาลเมืองประจวบฯดูแลทรัพย์สินแล้ว 3. สำนักงานจังหวัดใช้งบพัฒนาจังหวัดมอบโยธาฯใช้งบจัดซื้อเสาบนสะพานสราญวิถีและถนนก้องเกียรติ และ 4. สำนักงานจังหวัดใช้งบพัฒนาจังหวัดมอบโยธาฯจัดซื้อเสาสูง 6 เมตร จำนวน 180 ต้น จากสะพานคลองบางนางรมถึงค่ายลูกเสือม่องล่าย ปัจจุบันอยู่ในความดูแลของโยธาฯ
นายสุวิทย์ กล่าวว่า ขณะนี้มีแผนขอใช้งบประมาณจังหวัดดำเนินการซ่อมแซมบำรุงรักษาเสาไฟ แต่คาดว่าจะต้องใช้เวลานานพอสมควร และขอเรียนว่าเสาไฟที่ชำรุดไม่ได้นำมาเก็บไว้ที่สำนักงานโยธาฯ ตามที่บางหน่วยงานกล่าวอ้าง สำหรับเสาไฟที่มีการใช้รถยนต์ของทางราชการนำไปขายร้านของเก่า พบว่ามีความสูง 4 เมตร โคนเสามีสนิม ซึ่งต้องพิสูจน์ว่ากรมการท่องเที่ยวหรือเทศบาลเมืองฯ เป็นเจ้าของทรัพย์สิน สำหรับเสาไฟตั้งแต่สะพานสราญวิถีถึงสะพานคลองบางนางรม ปรากฏหลักฐานในปี 2563 มีไฟช๊อตนักท่องเที่ยวหน้าสำนักงาน อบจ. ปลัดเทศบาลที่รักษาการแทนนายกเทศมนตรี ขณะนั้นยอมรับผ่านสื่อว่าเป็นเสาไฟของเทศบาล ส่วนเสาไฟที่มีการลักไปขายหาดเทศบาลหรือสำนักงานท่องเที่ยว ต้องการทราบข้อเท็จจริงก็ควรไปขอดูภาพจากร้านรับซื้อของเก่า
ด้าน น.ส.แสงจันทร์ แก้วประทุมรัสมี หัวหน้าสำนักงานท่องเที่ยวและกีฬา จ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาเทศบาลได้นำเสาไฟเก่าจำนวน 3 ต้นมาคืนให้สำนักงานเก็บรักษา เนื่องจากเดิมกรมการท่องเที่ยว หน่วยงานในส่วนกลาง จัดซื้อเสาไฟทั้งหมด 75 ต้น แต่ยังไม่มีการถ่ายโอนทรัพย์สินให้กับเทศบาลเมืองประจวบฯ ขณะที่สำนักงานท่องเที่ยวไม่มีงบประมาณซ่อม และไม่ได้รับมอบหน้าที่ให้ดูแลรักษา ขณะนี้ไม่มีทะเบียนคุมพัสดุ จึงไม่ทราบว่าเสาไฟที่มีการติดตั้งปัจจุบันเหลือกี่ต้น สูญหายกี่ต้น ส่วนกรณีที่ปัจจุบันเสาไฟไม่สามารถใช้การได้ทั้งระบบ จะต้องเสนอให้มีการรื้อของเก่าที่ชำรุด มีการเสนอจัดทำแผนใช้งบประมาณในแผนพัฒนาจังหวัด เพื่อปรับปรุง เนื่องจากสถานที่ติดตั้งเสาไฟเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้สอบถามนายกมล แก้วเทศ นายกเทศมนตรีเมืองประจวบฯพร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ยืนยันว่า จากการตรวจสอบขอเรียนว่าขณะนี้ไม่มีเอกสารหลักฐานที่เทศบาลรับมอบเสาไฟฟ้าสูง 4 เมตร 60 ต้น ระยะทาง 500 เมตร จากสะพานสราญวิถีถึงสะพานคลองบางนางรม สำหรับรถยนต์ของทางราชการแห่งหนึ่งที่อ้างว่านำเสาเก่าไปขายที่แก้วสุวรรณรีไซเคิล และไปขอเสาไฟกลับคืน ได้สั่งให้นิติกรตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าเป็นรถยนต์กระเช้าของเทศบาลเมืองหรือไม่ เนื่องจากรถที่กล่าวอ้างมีทั้งของเอกชนและหน่วยงานอื่น เทศบาลจึงไม่ทราบว่าเสาไฟที่นำไปขายอยู่ที่ใด สอบถามจากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องไม่มีผู้ใดทราบข้อเท็จจริง
จ่าอากาศเอกเสกสรรค์ จันทร แกนนำเครือข่ายคุ้มครองผู้บริโภค จ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า กรณีรถกระเช้าสีส้มของราชการแอบนำเสาไฟสับปะรดไปขายเศษเหล็กที่เชียงกงราคา 1 พันบาท ได้นำหลักฐานไปลงบันทึกประจำวัน และให้เวลาไม่เกิน 7 วัน หากไม่มีคำตอบจะร้องเรียน ป.ป.ช. หลังจากสำนักงานจังหวัดที่ใช้งบพัฒนาจังหวัดตั้งเสาไฟ 60 ต้น จากสะพานสราญวิถีถึงสะพานบางนางรม โยธาฯอ้างว่าได้มอบโครงการให้เทศบาลเมืองฯดูแลในยุคที่นายกมล แก้วเทศ นายกเทศมนตรีปัจจุบันยังเป็น ส.ท. จริงหรือไม่ ซึ่งพบว่าเสาไฟหายไป 24 ต้น พบเป็นซากที่อาคารบ่อบำบัดน้ำเสีย 3 ต้น หรือจะเป็นเสาไฟของกรมการท่องเที่ยว กระทรวงกีฬาฯใช้งบตั้งเสา 75 ต้น จากสะพานสราญวิถีถึงรั้วกองบิน 5 โดยหน่วยงานพื้นที่ไม่มีทะเบียนคุมพัสดุ ไม่ทราบจำนวนเสาไฟที่สูญหาย ///
พิสิษฐ์รื่นเกษมข่าวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์โทร 098-568-1744