การ์ดร้านเหล้าโร่แจ้งความถูกอดีตคนขับรถ สส.พรรคดังพาพวกไล่ยิง
เจ้าของร้านมีเรื่องแต่ซวยการ์ด ถูกอดีตคนขับรถ สส.ไล่ยิงถามอยากหนวกหูสัก 10 นัดไหม ก่อนชักปืนไล่ยิง วงแตกวิ่งหนีคมกระสุนระทึก ล่าสุดผู้ก่อเหตุเข้ามอบตัวแล้ว
วันที่ 4 สิงหาคม 2566 นายสุพัฒน์ สัมมา อายุ 36 ปี พร้อม นายวิวัฒน์ เหมือนปิ๋ว อายุ 35 ปี เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.สำโรงใต้ หลังถูกกลุ่มวัยวุ่นเจ้าถิ่น 5 คน โดย 1 ในนั้นเป็นอดีตคนขับรถ สส.พรรคดังไล่ยิง ซึ่งจากการสอบถามผู้เสียหายกล่าวว่า นายตี๋อดีตเคยเป็นคนขับรถให้กับ อดีต สส.จังหวัดสมุทรปราการ พร้อมพวก 4 คน เข้ามาเคลียร์ปัญหากับเจ้าของร้าน หลังจากกลุ่มผู้ก่อเหตุคุยกับเจ้าของร้านจบกลุ่มผู้ก่อเหตุออกมา แล้วก็มาหาเรื่องพวกตน ออกมาบอกว่าหนวกหูสัก 10 นัดไหม เดี๋ยวยิงตายให้หมด สักพักผู้ก่อเหตุ 3 คนก็รุมชกตน ก่อนที่ผู้ก่อเหตุอีกคนที่ชื่อนายแจ็ค จะชักปืนออกมา ไล่ยิงตน 3 นัด พวกตนต้องวิ่งหนีตาย โชคดีที่ผู้ก่อเหตุมีอาการมึนเมาจึงยิงไม่โดน หลังเกิดเหตุผู้ก่อเหตุก็หลบหนีไป เหตุเกิดเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา เมื่อเวลา 02.30 น. วันที่ 4 สิงหาคม 2566
ล่าสุดเมื่อเวลา 18.30 ที่ สภ.สำโรงใต้ นายเอ เจ้าของร้านเดินทางเข้ามาให้ปากคำกับทางเจ้าหน้าที่ โดยนาเอ บอกว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุมีปัญหากับตนมาก่อนจริงแต่คุยกันจบแล้ว แต่ผู้ก่อเหตุอารมณ์น่าจะค้าง พอเดินออกมานอกร้านก็มีปัญหากับการ์ดอีก
ส่วนกลุ่มผู้ก่อเหตุ ทั้งสามคนประกอบด้วย นายชัยพร หรือตี๋ จันทรอิ่มเอิบ อายุ 30 ปี นายกฤษฎา(หรือต่าย) ไวยมานะกิจ อายุ 39 ปี และนายดำรงศักดิ์(หรือแจ็ค) เสมิตร์ อายุ 47 ปี เดินทางมามอบตัวที่ สภ.สำโรงใต้ ส่วนอีก 2 คนยังยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องแต่อยู่ในเหตุการณ์
นายดำรงศักดิ์ หรือแจ็ค เสมิตร์ เล่าว่า วันนั้นไปคุยธุระกัน ก็กินเหล้าเมากรึ่ม ๆ พอออกมาก็มีปากเสียงกันกับทางการ์ดของร้าน เรื่องการเปิดร้านเหมือน ๆ กัน เรื่องการบริการลูกค้า แล้วพูดไม่เข้าหู เพราะเขาก็น่าจะดื่มมาเหมือนกัน พอท้าทายกันไปมา จนมีการลงไม้ลงมือต่อยกัน ส่วน นายตี๋ ได้เดินกลับมาห้าม ตนหันไปเห็นปืนของตี๋ ตนจึงหยิบเพื่อจะระงับเหตุ เพื่อไม่ให้เขาเข้ามาทำร้ายร่างกายตน ตนแค่จะเอามาขู่ เนื่องจากตนเห็นเขาเอามือไปจับที่เอวเขาตนก็ไม่รู้ว่ามีอะไรหรือเปล่า ตนก็กลัวว่าจะเป็นอาวุธ เพราะเขาเป็นการ์ดตนคิดว่าเขาก็น่าจะพกอะไรมาบ้าง ตนก็ไม่รู้หลอกแต่ตนก็ต้องระวังตัวไว้ก่อน พอตนเอาปืนมาได้ตนก็ขึ้นลำยิงขึ้นฟ้า 1 นัด เขาก็ถอยไป และทำท่าจะเดินเข้ามาหาตน ตนจึงวิ่งไล่เขาและยิงปืนขึ้นฟ้าอีก 1 นัด เพื่อขู่เขาไม่ได้หวังผลอะไร ถ้าตนยิงหวังผล 2 นัดไม่น่าพลาดระยะแค่ไม่เกิน 3 เมตร ถ้าตนจะยิงจริงไม่น่าพลาด ตนไม่ได้คิดอยากจะเอาชีวิตอะไรเขา ลูกตนก็เล็กพึ่ง 4 ขวบกว่าเอง ตนก็ต้องเลี้ยงลูกตน ตนยอมรับว่ามีเรื่องจริง ชกต่อยกันจริง ยิงปืนจริง แต่ตนยืนยันแค่ยิงขู่เฉย ๆ ตอนนี้ตนมามอบตัวให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในวันนั้นตนไปกัน 4 คน ตนไม่ได้จะไปหาเรื่องเขา ตนแค่ไปนั่งคุยไปนั่งเคลียปัญหาอะไรกันนิด ๆ หน่อย ๆ ซึ่งไม่เกี่ยวอะไรกับการ์ดเลย หลังเกิดเหตุตนก็เจอกับการ์ดแล้วแต่เขาไม่คุยจะเอาเรื่องตนอย่างเดียว หาว่าตนจะฆ่าเขาอย่างเดียว
นายชัยพร หรือตี๋ จันทรอิ่มเอิบ เล่าว่า เมื่อคืนตนไปร้านเหล้าจะไปคุยเรื่องเซ้งร้าน พอคุยกันเสร็จ ขณะที่ตนกำลังเดินไปขึ้นรถ หันไปเห็นพี่เขามีเรื่องกับการ์ด ตนก็เข้าไปแยกเข้าไปห้าม ส่วนปืนที่พี่เขายิง เป็นปืนของตนที่ไปเอามาจากบ้านพ่อ จะเอามาเก็บใส่ตู้เซฟที่บ้าน แต่แวะมาคุยธุระก่อนเลยเอาติดตัวมาด้วย จังหวะที่ตนเข้าไปห้ามพี่เขาน่าจะเห็นปืนตน เพราะตนใส่เสื้อขาด ๆ ไปในวันนั้น พี่เขาเลยชักปืนตนออกไปยิงขึ้นฟ้า น่าจะขู่คู่กรณี เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายทำร้ายเขา แล้วพี่เขาก็ยิงขึ้นฟ้าไปอีก 1 นัดจังหวะที่กำลังวิ่งไล่กัน ในวันนั้นไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ส่วนประเด็นที่คู่กรณีบอกว่าตนเป็นเด็ก อดีต สส. เคยเป็นแต่ตนออกมาแล้ว ไม่ได้ไปขับรถให้อดีต สส. ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเขาแล้ว ตั้งแต่เดือนมีนาคม ตนไม่เคยอ้างว่าเป็นเด็ก สส. ด้วย
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เรียกตัวผู้ก่อเหตุและผู้เสียหายเข้ามาสอบสวนเพิ่มเติม ส่วนจะแจ้งข้อกล่าวหาใครบ้างนั้น อยู่ระหว่าการสอบสวนเพิ่มเติมเพื่อพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป
**********************
สุรศักดิ์ คงสินธ์ / ธนวัต นาคขำ จ.สมุทรปราการ