DSI แฝงตัวลงพื้นที่สืบข้อมูลลับพบกระทำผิดข้อกฎหมาย ส่วนชาวบ้านเริ่มปรับสภาพได้ห้วงนำสินค้ามาวางขายเป็นรายได้ซ่อมสร้างบ้านเลี้ยงครอบครัว หลังการช่วยเหลือของรัฐล่าช้า
สำหรับความคืบหน้ากรณีโกดังเก็บดอกไม้ไฟ พื้นที่บ้านมูดนะ ม.1 ต.มูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ได้เกิดระเบิดขึ้นเมื่อวันที่ 29 ก.ค. 66 ที่ผ่านมา ส่งผลทำให้บ้านเรือนของประชาชนได้รับความเสียหาย 682 ครัวเรือน เสียชีวิต 12 ราย บาดเจ็บ 389 คน นั้น
ล่าสุด นายชยพร สายทวี ผอ.ศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษจังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมเจ้าหน้าที่ส่วนหนึ่งที่ได้รับคำสั่งจากอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ลงพื้นที่รวบรวมข้อมูลทางลับจากประชาชนในพื้นที่ตลาดมูโนะ หลังได้ข้อมูลจากผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ อาทิ ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองในพื้นที่ กรณีมีการกระทำความผิดในพื้นที่ที่เกี่ยวโยงเจ้าหน้าที่รัฐและผู้มีอิทธิพล จากการสอบถามประชาชนและผู้ที่เชื่อถือได้ พบว่ามีข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการกระทำผิดตามข้อกฎหมายว่าด้วยวัตถุอันตราย หลังจากนี้จะได้รวบรวมข้อมูลเสนออธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อมีคำสั่งให้ทำการสืบสวนแสวงหาข้อเท็จจริงและหลักฐาน พร้อมทั้งขยายผลให้เห็นถึงการกระทำความผิดและเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากกรณีดังกล่าวอาจจะเข้าข่ายเป็นความผิดทางอาญา
นอกจากนี้หลังจากมีกระแสข่าวว่า นายสมปอง ณะกุล และ น.ส.ปิยะนุช พึ่งวิระวัฒน์ 2 สามีเจ้าของโกดังเก็บดอกไม้ไฟที่ระเบิด จะมีการเข้ามอบตัวกับ พล.ต.ต.อนุรธ อิ่มอาบ ผบก.ภ.จว.นราธิวาส ที่กองบังคับการตำรวจภูธร จ.นราธิวาส ในวันนี้ แต่พบว่ายังไม่มีวี่แววมามอบตัวแต่อย่างใด ซึ่งในช่วงที่ผ่านมามีกระแสข่าวว่า 2 สามีภรรยาจะเข้ามอบตัวก็ทำให้เจ้าหน้าที่รอเก้อมาหลายครั้งแล้ว มีเพียงทนายความที่ได้รับแต่งตั้งมาพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในทุกครั้ง ซึ่งคาดว่าน่าอาจจะติดขัดในเรื่องของการประกันตัวที่ไม่สามารถตกลงกันได้ และในครั้งนี้ก็คาดว่าน่าจะไม่มีการมอบตัวอีกครั้งเช่นกัน
ในส่วนของชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่ตลาดมูโนะ ที่ได้รับผลกระทบจากดฏดังดอกไม้ไฟระเบิด ที่บ้านพักได้รับความเสียหาย จำนวน 682 หลังนั้น ไม่มีไฟฟ้าใช้ ไม่มีน้ำดื่มและบริโภค ล่าสุด เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค อ.สุไหงโก-ลก ได้เข้าดำเนินการทยอยต่อกระแสไฟฟ้าบ้านพักของประชาชนแล้ว จำนวน 223 หลัง ให้สามารถกลับมาใช้ได้ตามปกติ หลังจากที่เจ้าหน้าที่ทหารได้เข้าไปช่วยซ่อมแซมหลังคาและฝาผนัง ให้กลับคืนสู่สภาพเดิมหลังจากที่ไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้มาหลายวัน นอกจากนี้แล้วเริ่มมีชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากโกดังดอกไม้ไฟระเบิด ซึ่งส่วนใหญ่มีอาชีพค้าขายผักสดและผลไม้ชนิดต่างๆ หลังจากเริ่มปรับสภาพความเป็นอยู่ได้ มีการตั้งโต๊ะหน้าบ้านที่อยู่ในสภาพปรักหักพังรอหน่วยงานที่เกี่ยวฟื้นฟู ได้นำผักและผลไม้มาตั้งวางขาย ซึ่งผู้บริโภคหรือลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นประชาชนที่เดินทางมาร่วมบริจาด ได้ช่วยอุดหนุนด้วยความสงสาร ผู้บริโภคบางรายไม่รับเงินทอน ตั้งใจที่จะซื้อช่วยเหลือชาวบ้านด้วยความเต็มใจ
ด้านนายอภิสิทธิ์ สาและ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 135/4 ซึ่งมีอาชีพขายผลไม้และได้ตั้งโต๊ะขายหน้าบ้านพัก กล่าวว่า บ้านผมตอนนี้เสียหายจากเหตุระเบิด ซึ่งตอนนี้ผมช่วยพ่อแม่ขายผลไม้ เพื่อเอาเงินมาซ่อมแซมบ้าน อยากให้ทางการมาช่วยแต่มันล่าช้าผมต้องทำแบบนี้ และได้มีประชาชนจากที่อื่นเขามาที่เกิดเหตุและเลยได้ช่วยอุดหนุน
///////////////////////
ข่าว/ซาการียา/จ.นราธิวาส