ข่าวพาดหัวร้องเรียน

เจ้าของร้านขายน้ำต้มกระท่อมแจ้งความจับ คนอ้างเป็นอส.4คน รีดเงิน

21-08-66 พี่เสือ นักข่าวสงขลา
เจ้าของร้านขายน้ำต้มกระท่อมแจ้งความจับ คนอ้างเป็นอส.4คน รีดเงิน ทางปลัดจังหวัดสงขลาและป้องกันจังหวัดสงขลาทราบเรื่องตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบขอเท็จจริงทราบแล้วว่าทั้ง4คนอยู่ที่ไหน
เจ้าของร้านน้ำกระท่อมร้องสื่อ เด็กขายหน้าร้านโดน 4 อส.สงขลา อุ้มพาเข้ากองร้อย พร้อมลูกน้อยอีก 2 คน อ้างรับแจ้งร้านผสมยาเสพติดในน้ำกระท่อม ก่อนขู่รีดเงิน 4,000 บาท แลกกับการปล่อยตัว


วันที่ 20 ส..ค.66ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากเจ้าของร้านขายน้ำกระท่อม ตั้งอยู่ริมถนนกาญจนวานิช ซอย 1 ตำบลบ่อยาง อำเภอเมือง จังหวัดสงขลาว่ามีชาย 4 คน แต่งตัวคล้ายเจ้าหน้าที่ อส.จังหวัดสงขลา ได้ก่อเหตุอุ้มเด็กหน้าร้านพร้อมลูกน้อยอีก 2 คน (ชาย 11 ขวบ หญิง 6 ขวบ ) ได้ขู่รีดไถ่เงิน 4,000 บาท เพื่อแลกกับการปล่อยตัว โดยกล่าวหาว่าร้านของตนมีการผสมยาเสพติดลงไปในน้ำกระท่อมและนำมาขายให้กับวัยรุ่นในพื้นที่ โดยทางเจ้าของร้านยืนยันไม่มีการผสมยาเสพติดลงไปในน้ำกระท่อมแต่อย่างใด มีแต่น้ำเชื่อมที่ตั้งขายแยกเป็นขวดๆ เท่านั้น จึงเป็นสาเหตุร้องทุกข์สื่อเข้ามาเพื่อขอความเป็นธรรม


ล่าสุดวันนี้ 21ส.ค.66 ผู้สื่อข่าว ได้พบเจ้าของร้าน ชื่อ น.ส.ไอซ์ เดินทางไปที่ สภ.เมืองสงขลาไปแจ้งความดำเนินคดีกับ ชายทั้ง 4 คน ที่แต่งตัวคล้ายเจ้าหน้าที่ อส.จังหวัดสงขลาและได้ให้ข้อมูลว่าหญิงสาวเจ้าของร้านขายใบกระท่อม เล่าว่า วันเกิดเหตุประมาณ 6 โมง มีโทรศัพท์จากพนักงานที่ร้านโทรมาแจ้งว่า มีผู้ชาย 4 คนแต่งกายคล้าย อส. แต่ไม่ทราบว่าเป็น อส.หรือเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานไหน ไปที่ร้าน ซึ่งไม่ได้คุยรายละเอียดกับพนักงานที่ร้านเยอะ แต่ขอตรวจค้น อีกทั้งไม่มีเอกสารตรวจค้นให้ทางพนักงานทราบว่ามาตรวจค้นทำไม สาเหตุใด ( เจ้าของร้านฟังจากพนักงานเล่าซึ่งตนเองไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์)เจ้าหน้าที่ยกลังน้ำท่อมขึ้นรถกระบะไป ( ลังมีน้ำกระท่อม 12 ขวด) โดยนำตัวพนักงานที่ร้านและลูกอีก 2 คนของพนักงานไปด้วย นำตัวไปที่กองร้อย ซึ่งไม่ทราบว่าเป็นกองร้อยที่ไหนผู้ชายที่มา 4 คนนั้น / 3 คนลงมาที่ร้าน อีก 1 คนรอที่รถ ตอนที่น้องพนักงานโทรหานั้น อยู่ที่กองร้อย /พนักงานเล่าว่า มีคนแต่งตัวเหมือน อส.มาจับตัว แล้วพามากองร้อยให้ไปเคลียร์ให้หน่อย / เลยตอบไปว่า ขอคุยกับเขาหน่อย ซึ่งโทรคุยผ่านแมสเซนเจอร์ของพนักงาน ไม่ได้โทรหาโดยตรง


( เจ้าของร้าน เล่าว่า ตนเองคุยกับเจ้าหน้าที่) ถามไปว่า เป็นเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานไหน ก็ไม่ได้คำตอบ / ถามว่าผิดข้อหาอะไร เค้าก็แจ้งไม่ได้ ถ้าอยากจบเรื่องจ่ายเงินมาเลย 1 หมื่นบาท จึงถามไปว่าจะจ่ายค่าอะไร เขาบอกว่าก็เธอขายน้ำกระท่อมไง / จึงถามไปว่าผิดข้อหาไหน /เค้าตอบมาว่างั้นไม่มีอะไรจะคุยแล้ว คุยกับหนูเค้าคุยไม่รู้เรื่อง ทางนั้นก็ตัดสายไป /ตอนนั้นยังไม่ถึงขั้นต่อรอง แต่ก็บอกว่าไปว่าถ้าผิดส่งไปพนักงานสอบสวนได้เลย เพราะที่ร้านมีใบอนุญาตประกอบกิจการ (ใช้เวลาคุยกันไม่ถึง 10 นาที )หลังจากวางสายไป 30 นาทีน้องพนักงานโทรกลับมาอีกครั้ง โดยพูดว่า พี่ไอส์ (ชื่อเจ้าของร้าน) เค้าจะไม่คุยกับพี่แล้วนะ แต่เค้าคุยกับหนูว่า เค้าลดให้เหลือ8,000 บาท (จากเดิม 10,000 บาท) ให้พี่โอนให้เค้าภายในครึ่งชั่วโมง จึงถามกลับไปว่าจะให้จ่ายในข้อหาอะไร เพราะถ้าเป็นความผิดซึ่งหน้าหรือความผิดจริงๆให้ดำเนินคดีได้เลย พี่เป็นเจ้าของร้านรับผิดชอบทุกอย่าง น้องเป็นลูกจ้างไม่ต้องกลัวเขา ( ชายคล้าย อส.) พยายามข่มขู่ลูกน้องเรา ให้จัดการนายจ้าง / พูดกับพนักงานเราว่า นายจ้างเธอไม่มีใจแล้วนะ เขาทิ้งเธอไว้กลางทาง ( เพลงโปเตโต้ อิอิ ) // ถ้าส่งไปพนักงานสอบสวน เธอต้องขึ้นศาล เธอต้องมีประวัติคดีความจากนั้นอีก 10 นาที พนักงาน (ชื่อเกด) โทรกลับมาหาคุณไอส์ นายจ้างอีกครั้ง แล้วบอกว่า พี่ไอส์ สุดๆแล้ว เค้าลดให้ 4,000 บาท ก็จะจบเรื่องให้เลยได้คุยกับแฟนน้องเกด สรุปว่าแฟนน้องเกดเป็นคนโอนเงิน 4,000 บาท เข้าบัญชีน้องเกด / น้องเกดจึงไปกดเงินที่ตู้ ATM หน้าเซเว่น สาขาแถวสวนตูล เพื่อนำเงินให้ผู้ชาย 4 คนนั้น จากนั้นก็นำน้องเกดและลูกทั้งสองคน รวมทั้งลังน้ำท่อม มาที่บ้านน้องเกด


ผู้สื่อข่าวสอบถามเรื่อง อย. เจ้าของร้าน ตอบว่า ในส่วนของร้านจะใช้สูตรใบกระท่อมสด นำมาต้มน้ำ นำน้ำกระท่อมมาผสมน้ำเชื่อม ซึ่งทางร้านมีใบอนุญาตผสมอาหารของเทศบาลเมืองเขารูปช้าง แต่ไม่มีใบอนุญาต อย. ถ้ากระทำผิดก็จะรับผิดชอบส่วนที่กระทำความผิดอยู่แล้ว แต่อยากให้บุคคลทั้ง 4 คนนั้นแจ้งข้อหาก่อน ไม่ใช่มาขูดรีดแบบนี้ อย่างน้อยเมื่อแจ้งข้อหา ทางร้านจะได้ดำเนินการข้อผิดพลาดนี้ ให้ถูกต้อง เพราะถ้าเป็นแบบนี้ ก้อไม่รู้ผิดพลาดอะไร จะเจอแบบนี้บ่อยไหม

วันนี้มาแจ้งความดำเนินคดี จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด เพราะไม่ทราบว่าชายทั้ง 4 คนนั้นเป็นเจ้าหน้าที่จริงหรือไม่ เป็นใครมาจากไหนนอกจากนี้ ลูกน้องก็อยู่ในความหวาดกลัว ใช้ชีวิตอย่างหวาดระแวง ไม่ปกติสุข ตอนนี้ร้านก็ปิดอยู่เพรากลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก
ผู้สื่อข่าวสอบถามว่าตอนนี้มีการโทรมาข่มขู่หรือไม่ เจ้าของร้านตอบว่า ……..ตอนนี้ยังไม่มีใครโทรมาข่มขู่ มีเพียงปลัดฯ โดยติดต่อมาบอกว่า จะตั้งคณะกรรมการสอบสวนให้ในเคสนี้ ว่าเป็นใคร เป็น อส.จริงหรือไม่
ส่วนตัวก็มีความเชื่อในกระบวนการยุติกรรมทางกฎหมาย ว่าน่าจะทำงานรวดเร็ว อยากจะฝากว่าอยากให้ช่วยติดตามเรื่องให้หน่อย เพราะว่าร้านตนเองโดนบ่อย เคสแบบนี้ แต่ไม่ทราบว่าเป็นเจ้าหน้าที่จริงหรือปลอม แต่ก่อนหน้านี้ทางร้านไม่มีใบอนุญาตผสมอาหาร จึงยินยอมไป เพราะคิดว่ามีความผิดจากเรื่องนี้ แต่ตอนหลังพยายามหาข้อบกพร่องของร้านว่ามีตรงไหน เพื่อทำให้ถูกกฎหมายที่สุดเพราะเป็นอาชีพของเราที่ใช้เลี้ยงชีพทำมาหากิน
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ ศาลากลางจังหวัดสงขลาได้ไปพบ นายเศวต เพชรนุ้ย ปลัดจังหวัดสงขลา และ นายปัญญาวัฒน์ เรืองวงศ์โรจน์ ป้องกันจังหวัดสงขลาเพื่อตรวจสอบขอเท็จจริง
นายเศวต เพชรนุ้ย ปลัดจังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า เมื่อทราบเหตุการณ์ที่ปรากฏในสื่อ ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยให้แต่ละหน่วยเช็คกำลังพลของตนเองว่าในห้วงดังกล่าวมีผู้ใต้บังคับบัญชา ได้ออกปฏิบัติภารกิจในช่วงเวลาที่เกิดเหตุหรือไม่ อย่างไร


จากการตรวจสอบเบื้องต้น ซึ่งยังไม่ยืนยันอย่างเป็นทางการ โดยพบว่า น่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ในส่วนของกองร้อยจังหวัด ซึ่งมอบหมายให้ผู้บังคับหน่วย ( ผอ.ร้อย) สั่งการ รายงานชี้แจง เป็นลายลักษณ์อักษร
หากมีมูลตามที่ปรากฏ ต้องดำเนินการโดยเด็ดขาด นั่นคือเข้าสู่กระบวนการทางวินัย โดยตั้งคณะกรรมการสอบสวนเจ้าหน้าที่ ทั้งนี้ทั้งนั้นก็รับฟังข้อมูลจากทั้งสองฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายผู้ร้องเรียนและฝ่ายผู้ถูกร้องเรียน ผิดหรือถูกก็ว่าไปตามข้อเท็จจริง โดยทางจังหวัดตั้งกรรมการฯขึ้นมา เพื่อค้นหาข้อเท็จจริงตรงนั้น


เบื้องต้น ทางจังหวัดแสวงหาข้อมูล หาตุ๊กตา (ตัวผู้ถูกร้องเรียน) ประกอบด้วยใครบ้าง เพื่อมอบหมายให้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ลงไปตรวจสอบหาข้อมูล ซึ่งเราทราบเป็นเพียงตุ๊กตาเท่านั้นแต่ยังไม่สามารถระบุตัวตนชัดเจนได้ว่าเป็นใคร คาดว่าจะใช้เวลาโดยเร็วที่สุด ซึ่งขณะนี้เลขาฯกำลังร่างคำสั่งอยู่ ปกติจะใช้เวลาไม่เกิน 7 วัน